อาวียองซ์แนะแต่งหน้าสวยสมวัยทีน ไม่เว่อร์

ข่าวทั่วไป Thursday August 30, 2012 08:36 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--30 ส.ค.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ อาวียองซ์ (aviance) แบรนด์ความงามระดับพรีเมี่ยม นำโดย สุชาดา ธีรวชิรกุล ประธานบริหาร — อาวียองซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด จัดเวิร์คชอปเสริมความงามให้แก่นิสิตนักศึกษาจากรั้วมหาวิทยาลัย เอาใจวัยทีนให้มาประลองฝีมือแต่งแต้มสีสันให้สวยใส น่ารักสมวัย ด้วยฝีมือของตัวเอง โดยได้รับเกียรติจาก สุรวิภา นาคจันทึก ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพความงาม จาก อาวียองซ์ อะคาเดมี เป็นวิทยากรให้ความรู้และเทคนิคเคล็ดลับการดูแลผิวหน้าให้คงความอ่อนเยาว์ และการแต่งแต้มสีสันแบบง่ายๆ สมวัย ไม่เว่อร์ ณ อาวียองซ์ อะคาเดมี ไทยพาณิชย์ ปาร์ค พลาซ่า วัยทีนวัยสาวเป็นวัยที่ผิวสวยสะพรั่ง แต่จะรักษาหรือเสริมแต่งอย่างไรอาวียองซ์มีคำตอบ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพความงาม แห่ง อาวียองซ์ อะคาเดมี เผยว่า “ช่วงวัยที่มีสุขภาพผิวดีที่สุดคือช่วงอายุ 18 — 25 ปี ซึ่งหากไม่มีการบำรุงดูแลอย่างถูกวิธี ผิวของเราจะเกิดปัญหาตามมา ในขณะที่เด็กสาวในยุคสมัยนี้จะเน้นในเรื่องของความขาว กระจ่างใส จึงมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นตัวช่วยในเรื่องนี้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นทั้งการฉีด หรือการรับประทาน แต่สิ่งหนึ่งที่สาววัยรุ่นลืมใส่ใจ คือเรื่องของการดูผิวพรรณให้ชุ่มชื้น และริ้วรอยต่างๆ ซึ่งขั้นตอนในการดูแลผิวพรรณให้คงความสดใส อ่อนเยาว์ไปนานๆ ต้องเริ่มต้นดูแลตั้งแต่ในวัยนี้ ซึ่งเคล็ดลับในการดูแลผิวพรรณ จะมีด้วยกันอยู่ 3 หลัก คือ การทำความสะอาดผิวให้หมดจด ยิ่งเด็กสาวสมัยนี้นิยมแต่งหน้า เขียนอายไลเนอร์ การทำความสะอาดผิวจึงต้องเริ่มต้นทำความสะอาดตั้งแต่รอบดวงตา โดยการใช้ผลิตภัณฑ์อาย แอนด์ ลิป เมคอัพ รีมูฟเวอร์ หยดลงบนสำลี 3 แผ่น จากนั้นพับสำลีครึ่งหนึ่ง แล้วกดตรงบริเวณที่หยดผลิตภัณฑ์ที่ให้สำลีซึมซับและกระจายตัว จากนั้นนำสำลี 2 แผ่นมาแปะปิดไว้ที่บริเวณดวงตาซึ่งหลับตาปิดสนิท กดแตะเบาๆ ทิ้งไว้ 10 วินาที เพื่อให้ผลิตภัณฑ์นั้นได้ทำงานละลายอายแชโดว์ มาสคาร่าชนิดกันน้ำได้อย่างเต็มที่ จากนั้นเช็ดออก โดยวิธีการจับสำลีที่ถูกต้องจะต้องให้นิ้วชี้และนิ้วนางเป็นตัวจับปลายสำลีทั้ง 2 ด้าน โดยมีนิ้วกลางสอดคั่นอยู่ด้านหลังสำลี แล้วเริ่มต้นเช็ดจากหัวคิ้วโดยให้เช็ดลงมา จากนั้นเช็ดลงมาแบบเดียวกันที่กลางคิ้ว และหางคิ้ว พับสำลีครึ่งหนึ่งเช็ดที่ขอบตาบนและขอบตาล่าง โดยเช็ดจากหัวตาไปหางตา นำสำลีอีก 1 แผ่นที่ทำเช่นเดียวกันกับตาอีกข้าง แต่ต้องระมัดระวังทำอย่างนิ่มนวล เพราะผิวบริเวณรอบดวงตานั้นบอบบาง และสามารถเกิดริ้วรอยได้ง่าย ส่วนสำลีอีก 1 แผ่นที่เหลือเอาไว้ให้นำมาเช็ดที่ริมฝีปาก โดยให้จับสำลีลักษณะเช่นเดิม ที่นิ้วกลางจะสอดคั่นอยู่ด้านหลังของสำลี ทำปากเป็นรูปตัว O แล้วให้เช็ดเป็นวงกลม ห้ามถูวนไปมา จะช่วยลดสิวบริเวณริมฝีปาก และริ้วรอยล่องลึกที่ริมฝีปากเช่นกัน จากนั้นทำความสะอาดผิวหน้าด้วยเคล็นซิ่ง มิลค์ โดยให้เทผลิตภัณฑ์ขนาดเท่าเหรียญ 10 บาทที่บนหลังมือ ใช้นิ้วกลางและนิ้วนางแบ่งเคล็นซิ่งให้ได้ 5 จุดบนใบหน้าคือ หน้าผาก จมูก คาง แก้มทั้ง 2 ข้าง ซึ่งการใช้เคล็นซิ่ง มิลค์ จะต้องใช้ในปริมาณที่ค่อนข้างมาก เพราะถ้าหากใช้น้อยจะทำให้สิ่งสกปรกต่างๆ ย้อนกลับเข้าไปในรูขุมขน ก่อให้เกิดสิวอุดตันได้ จากนั้นลูบไล้เนื้อเคล็นซิ่งให้ทั่วใบหน้าด้วย 3 นิ้วเท่านั้น คือนิ้วกลาง นิ้วนาง และนิ้วก้อย พึงระลึกเสมอว่าอะไรที่เกี่ยวกับใบหน้า เราจะไม่ใช้นิ้วชี้ เพราะนิ้วชี้เป็นนิ้วที่ถนัด และทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย โดยจะลูบไล้ผลิตภัณฑ์เริ่มต้นจากคางให้ลูบลง ข้างแก้มให้ลูบออก หน้าผากให้ลูบขึ้น จมูกให้ลูบลงเช่นกัน จากนั้นนวดใบหน้าโดยวิธีการนวดจะนวดจากปลายคางวนขึ้นไปที่ใต้ปลายจมูก และวนกลับลงมาที่ปลายคาง วนเช่นนี้ 3 ครั้ง จากนั้นนวดวนเป็นขดลวดโดยให้นวดวนออกจากปลายคางไปติ่งหู นวดวนเป็นขดลวดเช่นเดิมจากปลายคางไปมุมปาก และนวดวนเป็นขดลวดเช่นเดิมจากปลายคางไปแนวกราม ทำเช่นนี้ 3 รอบเช่นกัน และต้องนวดวนออกเพราะจะช่วยให้หน้าตึง กระชับ บริเวณปีกจมูกให้ใช้นิ้วกลางนวดซิกแซกขึ้นลงไล่ขึ้นไปจนถึงสันจมูกจากนั้นเช็ดออกด้วยทิชชู่สำหรับเช็ดหน้าที่ต้องทำให้ทิชชู่ตึง ไม่ใช่การขย่ำทิชชู่ เพราะหากเอามาเช็ดหน้าจะทำให้ใบหน้าเกิดริ้วรอยได้ วิธีการเช็ดก็ให้เช็ดออกเช่นเดียวกับวิธีการลูบไล้เคล็นซิ่งคือ คางลูบลง ข้างแก้มให้ลูบออก หน้าผากให้ลูบขึ้น จมูกให้ลูบลง แล้วล้างหน้าด้วยน้ำสะอาด ตามด้วยการใช้เคล็นซิ่ง โฟม โดยจะใช้ในปริมาณเท่าลูกปิงปอง นวดคลึงเบาๆ ให้ทั่วใบหน้าโดยยังคงใช้นิ้วกลาง นิ้วนาง และนิ้วก้อยในการนวด ล้างออกด้วยน้ำสะอาด ซับหน้าเบาๆ ด้วยทิชชู่ หรือผ้าขนหนู จากนั้นเข้าสู่ การบำรุงดูแลผิวพรรณ โดยควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับวัย และเหมาะสมกับสภาพผิว โดยหลังการล้างหน้าควรใช้โทนเนอร์ หรือสเปรย์ มิสท์ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่น สเปรย์ให้ห่างจากใบหน้า แล้วกดแตะเบาๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้โลหิตไหลเวียนดี จากนั้นทาบำรุงผิวด้วยเซรั่มโดยแต้ม 5 จุดที่ใบหน้า คือ หน้าผาก จมูก คาง แก้มทั้ง 2 ข้าง แล้วนวดเกลี่ยแบบวิธีเดิม ทาครีมบำรุงรอบดวงตา โดยใช้ในปริมาณเท่าเม็ดถั่วเขียว เพราะหากใช้เยอะเกินไปจะทำให้เนื้อครีมเข้าตาได้ โดยใช้นิ้วนางกดแตะเป็นแนววงกลมรอบดวงตา แล้วลูบออกด้วยนิ้วนางเบาๆ ทั้งตาบนและตาล่าง โดยลูบจากหัวตาไปหางตา เพื่อเป็นการกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต จากนั้น ทาครีมกันแดด ในปริมาณเท่าเม็ดข้าวโพด แต้ม 5 จุดที่ใบหน้า คือ หน้าผาก จมูก คาง แก้มทั้ง 2 ข้าง แล้วนวดเกลี่ยแบบวิธีเดิม ซึ่งวิธีการทาครีมกันแดดที่ถูกต้อง จะต้องทาก่อนออกแดดอย่างน้อย 20 — 30 นาที หากต้องอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานานๆ ควรทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง หรือทาบ่อยได้เท่าที่ต้องการ” เมื่อเสร็จจากขั้นตอนการทำความสะอาดและการบำรุงผิวหน้าเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการแต่งแต้มสีสัน โดย สุรวิภา เผยว่า “วัยสาวเป็นวัยที่มีผิวสวยอยู่ ปัญหาเรื่องผิวพรรณจึงยังไม่ค่อยปรากฏ การแต่งหน้าจึงยังไม่ควรใช้ครีมรองพื้น หรือหากต้องการใช้เพื่อเพิ่มความมั่นใจ ควรใช้ครีมรองพื้นที่มีเนื้อผลิตภัณฑ์บางเบา และทาเกลี่ยเพียงบางๆ เท่านั้น ทาแป้งฝุ่นเพื่อเติมความเนียน โดยใช้พัฟแตะที่แป้งแล้วมาทาหมุนวอร์มที่ฝ่ามือ จากนั้นนำมากดซับแตะให้ทั่วที่ใบหน้าวิธีเช็คว่าเราทาแป้งดีแล้วหรือยังนั้น ให้ใช้หลังมือมาลูบที่ใบหน้า หากยังรู้สึกว่าเหนียวอยู่ให้กดซับแป้งเพิ่ม และอย่าลืมทาแป้งที่ลำคอด้วย ต่อมาคือการปัดบลัชออน นำแปรงแตะกับบลัชออนแล้วนำมาแตะที่หลังมือ เพื่อป้องการไม่ให้สีเข้มเกินไปเวลาปัดทาที่แก้ม โดยวิธีการปัด ให้สาวๆ อมยิ้มเพื่อให้โหนกแก้มชัดขึ้นมา แล้วปัดที่โหนกแก้มโดยต้องอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่าปีกจมูกและติ่งหู จากนั้นปัดให้ตัวเนื้อสีกระจายออก แต่หากปัดเข้มเกินไปให้ใช้พัฟที่ทาแป้งมากดซับเพื่อให้สีบลัชออนจางลง จากนั้นมาเติมสีสันที่ดวงตา โดยเลือกใช้แปรงอายแชโดว์หัวใหญ่แตะอายแชโดว์สีกลางทาให้ทั่วเบ้าตาหรือครึ่งวงกลม จากนั้นตามด้วยอายแชโดว์สีเข้มทาบริเวณชั้นตาล่างถึงรอยพับตา และใช้แปรงอายแชโดว์หัวเล็กแตะอายแชโดว์สีเข้มสุด เขียนให้ชิดแนวขนตาบนโดยเขียนจากหัวตามาหางตา ในขณะที่ตาล่างนั้นให้เขียนเพียงครึ่งเดียว โดยเขียนจากหางตามายังกึ่งกลางตาดำ เพิ่มความสดใสให้ดวงตาดูกลมโต ด้วยอายแชโดว์สีอ่อนทาเป็นรูปตัววีเฉพาะหัวตาบนและล่าง จากนั้นดัดขนตา วิธีที่จะทำให้ขนตาดูงอนเป็นธรรมชาจิ ควรดัดขน 3 สเต็ป ให้เหลือบมองต่ำ ดัดขนตาให้ชิดโคนขนตา จากนั้นดัดกลางขนตา และดัดอีกครั้งที่ปลายจนตา ค่อยๆ ดัดระมัดระวังที่ดัดขนตาหนีบโดนเนื้อ จากนั้นปัดมาสคาร่าเพื่อให้ขนตางอนหนาได้นาน โดยต้องปัดขนตาล่างก่อน ปัดซิกแซกให้ทั่วแนวขนตาล่าง แล้วค่อยๆ ปัดดึงลงมาทีละเส้น จากนั้นเหลือบตามองต่ำแล้วปัดขนตาบน โดยปัดค่อยๆ ช้อนขึ้น ในส่วนของคิ้วนั้น ให้ใช้อายแชโดว์สีเข้มปัดตกแต่งคิ้ว โดยรูปคิ้วและสีคิ้วที่สวยดูเป็นธรรมชาตินั้น ควรจะสีใกล้เคียงกับสีผม หรืออ่อนกว่าสีผม และวิธีการเขียนคิ้ว หัวคิ้วจะต้องอ่อน หางคิ้วจะต้องเข้มขึ้น มาถึงขั้นตอนสุดท้ายการทาริมฝีปาก สำหรับสาววัยใสควรเลือกลิปกลอส เพราะจะให้เฉดสีที่ดูเป็นประกายแดงระเรื่อ ริมฝีปากดูสวยอวบอิ่ม สุขภาพดี” “แต่หากสาววัยใสอยากเพิ่มความสวยเก๋ในวันพักผ่อน การแต่งตาในแนวสโมคกี้อายที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่สามารถทำได้ แต่ต้องเลือกใช้สีที่ไล่เฉดกัน 2 -3 สี และต้องระบายอย่างเบามือเพื่อไม่ให้สีจัดจนเกินไป เพิ่มความเปรี้ยวขึ้นอีกนิดด้วยการกรีด อายไลเนอร์เส้นบางๆ ที่ขอบตาบน เปลี่ยนลุคจากสาววัยใสแสนหวาน มาเป็นสาวใสสุดเปรี้ยว สวยน่ารักสมวัยได้เช่นกัน” สุรวิภา กล่าวทิ้งทาย สาวน้อยจากรั้วมหาวิทยาลัยได้เคล็ดลับความงาม พร้อมพกพาความสวยกลับไปเพียบ เพราะที่ อาวียองซ์ อะคาเดมี ยังมีเคล็ดลับความงามต่างๆ อีกมากมาย ที่ไม่ได้จำกัดเพียงแต่การดูแลผิวพรรณและการแต่งหน้าเท่านั้น หากสาวๆ คนไหนสนใจอยากลองมาเวิร์คชอปความงามแบบนี้ เชิญเข้ามาสัมผัสได้ที่ อาวียองซ์ อะคาเดมี ชั้น 12 ไทยพาณิชย์ ปาร์ค พลาซ่า หรือโทรสอบถามได้ที่ 02-554-2655 www.avianceinternational.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ