กรุงเทพฯ--30 ส.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,666 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,657 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.34 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,600 บาท กับ 24,700 บาท และกลับมาปิดที่ 24,600 บาท กับ 24,700 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 2,826 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 8,007 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 30 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 4% แบบ 10 บาท ลดลง 1% Silver Futures ลดลง 1% GFQ12 ปิดที่ 24,690 บาท และ GFV12 ปิดที่ 24,840 บาท และ GF10Q12 ปิดที่ 24,710 บาท และ GF10V12 ปิดที่ 24,840 บาท SVQ12 ปิดที่ 956 บาท
สัญญา Comex ปิดลดลง 6.7 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,663 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 4 เซนต์ ปิดที่ระดับ 30.92 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,289.51 ตัน (ถือครองเท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 84 เซนต์ ปิดที่ระดับ 95.49 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 4.49 จุด ปิดที่ระดับ 13,107.48 จุด
Ratio Gold / Silver 55 เท่ากับ ต่อ 1
ข่าวที่สำคัญ
TheBullionDesk, Reuters, Infoquest
- ราคาทองคำปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ ภายหลังการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้ลดความคาดหวังในเรื่องที่จะมีการประกาศใช้มาตรการ QE3ในการประชุมที่แจ็คสัน โฮล ในวันศุกร์นี้ โดยสัญญาทองคำส่งมอบเดือนธันวาคมปรับตัวลดลง 6.7 ดอลลาร์ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,663 ดอลลาร์/ออนซ์ มีปริมาณการซื้อขาย 30% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 30 วัน
- ตัวเลขเศรษฐกิจทางสหรัฐที่ออกมาเมื่อคืนนี้ได้แก่ จีดีพีไตรมาสที่ 2 ออกมาขยายตัว 1.7% สูงกว่าการประมาณการครั้งแรกที่ระบุว่าขยายตัว 1.5% ปัจจัยที่ทำให้จีดีพีไตรมาส 2 ดีกว่าการประมาณการเบื้องต้นคือ ยอดส่งออกที่ดีเกินคาด ยอดนำเข้าที่ลดลง รวมถึงการบริโภคส่วนบุคคลที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ดี การใช้จ่ายภาครัฐยังคงเป็นตัวฉุดรั้งจีดีพี แต่ไม่มากเท่ากับที่คาดการณ์ในเบื้องต้น ขณะที่การใช้จ่ายภาคธุรกิจก็ลดลง
- สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือนก.ค.เมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย. สู่ระดับ 101.7 ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ และสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2553 นับเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้น
- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 24 ส.ค. พุ่งขึ้น 3.78 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 364.52 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล
- คอมเมิร์ซ แบงก์ ได้ยกตัวอย่างความน่าสนใจของนักลงทุนในกองทุน ETFs จากสำนักข่าวบลูมเบิร์กที่ระบุว่า กองทุน ETFs มีปริมาณการไหลเวียนเข้าเพิ่มขึ้นอีก 5 ตันเมื่อวันก่อนหน้านี้ และมีปริมาณการถือครองทองคำสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกือบ 2,457 ตัน โดยปริมาณการถือครองของกองทุน ETFs ทั้งหมดมีมากกว่าการสำรองทองคำของอิตาลี ซึ่งได้มีการเอาชนะฝรั่งเศสในช่วงต้นสัปดาห์นี้ เมื่อนำมารวมกันกองทุน ETFs ถือเป็นกองทุนที่มีการสำรองทองคำเป็นอันดับ 4 ของโลก รองจากสหรัฐ เยอรมนี และไอเอ็มเอฟ
- อ้างอิงข้อมูลจากไอเอ็มเอฟ ระบุว่า มีธนาคารกลางต่างๆ หลายแห่งได้เพิ่มการสำรองทองคำมากขึ้นเช่นกันในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยธนาคารกลางรัสเซียเพิ่มการสำรองทองคำ 18.6 ตัน ธนาคารกลางคาซัคสถานเพิ่ม 1.4 ตัน และธนาคารกลางยูเครนเพิ่ม 0.2 ตัน ซึ่งประเทศที่มีการเพิ่มการสำรองทองคำมากที่สุดก็คือ ตุรกี ที่มีการเพิ่มถึง 44.7 ตัน โดยคอมเมิร์ซ แบงก์ระบุเพิ่มเติมว่า ธนาคารกลางต่างๆ ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนราคาทองคำเรื่อยมา
- นักวิเคราะห์จากคอมเมิร์ซ แบงก์ นายแดเนี่ยล บรีสมานน์ คาดการณ์ว่า การกล่าวสุนทรพจน์ของนายเบน เบอร์นันเก ในวันศุกร์นี้อาจสร้างความผิดหวังให้กับตลาดทองคำ แต่ศักยภาพที่แข็งแกร่งของกองทุน ETFs และการเข้าซื้อทองคำของกลุ่มธนาคารกลางต่างๆ ชี้ให้เห็นว่า หากราคาปรับตัวลดลงจริงก็มีโอกาสให้เกิดแรงเข้าซื้อเช่นกัน
นอกจากนี้ นักลงทุนต่างคาดหวังให้อีซีบีมีการเปิดเผยแผนการต่อสู้กับต้นทุนการกู้ยืมที่พุ่งสูงขึ้นของสเปน
- ภายหลังตลาด COMEX ปิด สัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สมีการเคลื่อนตัวในกรอบแคบๆ หลังจากการรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book ที่ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคง “ขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป” ในเดือนกรกฎาคม และต้นเดือนสิงหาคมทั่วภูมิภาคและภาคธุรกิจส่วนใหญ่ แต่แนวโน้มการฟื้นตัวในภาคค้าปลีกและภาคการผลิตยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งการรายงานดังกล่าวมีการจัดเตรียมโดยธนาคารกลางสหรัฐ สาขาบอสตัน โดยมีการเก็บข้อมูลก่อนวันที่ 20 สิงหาคม และมีการสรุปความคิดเห็นต่างๆ ที่ได้รับจากกลุ่มธุรกิจและผู้ติดต่ออื่นๆ ภายนอกธนาคารกลางสหรัฐ และไม่ใช่ความคิดเห็นและมุมมองจากเจ้าหน้าที่ของเฟด
- การนำเข้าทองคำของอินเดียยังคงหยุดพักไว้ก่อนในช่วงนี้ โดยรอทิศทางขาราคาในช่วงเทศกาลแต่งงานและพิธีเฉลิมฉลองที่ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ตามที่ราคายังคงอยู่ในระดับสูง
CNBC
- นายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบี เขียนระบุความคิดเห็นเมื่อวานนี้โดยมีเป้าหมายเพื่อลดความกังวลของเยอรมนีในเรื่องนโยบายของธนาคารว่า อีซีบีต้องมีการใช้ “มาตรการพิเศษ” เป็นบางครั้งบางคราวเพื่อทำให้คำสั่งของการเสถียรราคาบรรลุผล โดยอีซีบีกำลังมีการผลักดันในแผนการเข้าซื้อพันธบัตรรอบใหม่เพื่อลดต้นทุนการกู้ยืมของสเปนและอิตาลี โดยรายละเอียดต่างๆ นายดรากีคาดการณ์ว่าจะเปิดเผยภายหลังการประชุมนโยบายในวันที่ 6 กันยายน อย่างไรก็ตามธนาคารกลางเยอรมนี บุนเดสแบงก์ ได้คัดค้านแผนดังกล่าว
- นายบิล กรอส ประธานร่วมของบริษัทการลงทุนพิมโก้ กล่าวต่อสำนักข่าว CNBC เมื่อวานนี้ว่า เฟดได้ปฏิบัติหน้าที่เกินกว่าคำว่า “เชี่ยวชาญ” ในการรักษาความสงบของตลาดทั่วโลกเอาไว้ได้ ซึ่งสำหรับนักลงทุนหมายถึง ตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรที่ดูเหมือนว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนักในช่วงไม่กี่เดือนที่จะมาถึง
- ราคาทองคำอาจมีความผันผวนได้จากการประชุมผ่านทางโทรศัพท์ของนายจอห์น พอลสัน Hedge fund รายใหญ่กับพนักงานและลูกค้าของ Bank of America เมื่อวานนี้ ซึ่งกองทุนทองคำของพอลสันที่ถือครองหุ้นเหมืองทองอยู่ ปรับตัวลดลง 22% ในช่วงเริ่มต้นปีจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคมโดยทางนายจอห์น พอลสันได้ยอมรับว่าตัวเลขดังกล่าวเรียกได้ว่า ปีนี้เป็นปีที่เลวร้ายที่สุดของการดำเนินการก็ว่าได้ และเขายังได้กล่าวต่อผู้ที่เชื่อมั่นในทองคำว่า ราคาทองคำอาจเป็นไปในทิศทางที่แข็งแกร่งขึ้นในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นการยากที่จะคาดการณ์ราคาทองคำเนื่องจากปัจจัยต่างๆ ที่กำหนดราคาทองคำ เช่น ปริมาณความต้องการของจีน สภาพคล่อง การดำเนินการของธนาคารกลางต่างๆ รวมไปถึงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ แต่อย่างไรก็ตามวิกฤตหนี้ในยุโรปและความเป็นไปได้ในเรื่องอัตราเงินเฟ้อจะเป็นส่วนที่สนับสนุนราคาทองคำต่อไป
- รัฐมนตรีคลังสเปน นายลูอิส เดกินดอส ระบุว่า เจ้าหน้าที่สเปนและอียูได้ตกลงกันในเรื่องขอบข่ายงานสำหรับ “Bad bank” เพื่อแก้ไขปัญหาภาคธนาคารของประเทศ และเป็นการปูทางสำหรับแผนการช่วยเหลือของสหภาพยุโรปต่อไป โดยรัฐบาลสเปนจะอนุมัติกฎเกณฑ์การกำหนดขอบข่ายของงานในวันศุกร์นี้
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- Prelim GDP q/q ออกมาที่ระดับ 1.7% จากตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 1.5%
- Pending Home Sales m/m ออกมาที่ระดับ 2.4% จากตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -1.4%
- Crude Oil Inventories ออกมาที่ระดับ 3.8 จากตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -5.4M
- รายงาน Beige Book
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้
- Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 372K คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ 370K
- Core PCE Price Index ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.2% คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ 0.1%
- Personal Spending ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.0% คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ 0.4%
- Jackson Hole Symposium วันที่ 1
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold — ราคาทองคำยังถูกกดดันต่อเนื่องหลังจากที่ตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาออกมาดีทั้ง 2 ตัวคือ GDP ออกมาดีกว่าเดิมเล็กน้อยมาอยู่ที่ 1.7% ในขณะที่ Pending Home Sales ออกมาเพิ่มขึ้น 2.4% จากเดิมที่ระดับ -1.4% ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์เองปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับยูโรดอลลาร์ ส่วนค่าเงินยูโรก็ลงมาสู่ระดับประมาณ 1.2535 ดอลลาร์/ยูโร ในขณะที่ทองคำก็ปรับตัวลงเล็กน้อยประมาณ 10 เหรียญ จากระดับ 1,665 เหรียญในช่วงเช้าลงมาที่ระดับต่ำสุดประมาณ 1,654 เหรียญโดยประมาณ และกลับมาปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,663 เหรียญ โดยภาพรวมราคาทองคำยังคาดว่าจะเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideway ในกรอบ 1,650 — 1,665 เหรียญ ยังคงแนะนำให้เข้าช้อนซื้อบริเวณแนวรับตั้งแต่ 1,655 เหรียญลงมา
Gold Futures Q12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,650 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,850 บาท
Gold Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,780 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,980 บาท
Silver Futures Q12 จะมีแนวรับที่ระดับ 930 บาท และแนวต้านที่ระดับ 960 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade)
เก็งกำไรในภาวการณ์แกว่งตัวในกรอบ 1,650 — 1,660 เหรียญในช่วงเช้านี้ ให้ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว และขายที่บริเวณ 1,660 เหรียญ
นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade)
รอจังหวะเข้าช้อนซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวที่บริเวณแนวรับ 1,650 เหรียญ และปรับพอร์ทเป็น 20-30%
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
รอช้อนซื้อที่บริเวณ 1,650 เหรียญลงมา เป็นลักษณะค่อยๆทยอยช้อนซื้อ ปรับพอร์ทเป็น 20-30%
สรุปได้ว่า โดยภาพรวมยังคาดว่าน่าจะเคลื่อนตัว Sideway และคำพูดสุนทรพจน์ของเบอร์นันเกในวันศุกร์น่าจะเป็นลักษณะ Negative จึงอาจจะทำให้ราคาทองคำปรับตัวลงแต่ก็น่าจะสามารถดีดกลับมาได้ ซึ่งไม่คิดว่าจะลงต่ำกว่าระดับ 1,640 เหรียญ
Gold Future series Q จะหมดอายุภายในวันนี้ แนะนำให้นักลงทุนเปลี่ยน (Roll Over) ไปถือ series V โดยไม่แนะนำให้ซื้อเพิ่มใน Series Q และหาจังหวะปิด Series Q
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง