กรุงเทพฯ--30 ส.ค.--กรมธนารักษ์
นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะกำกับดูแลกรมธนารักษ์ ได้มีนโยบายให้กรมธนารักษ์ ซึ่งมีภารกิจที่มีความเกี่ยวข้องกับการบริการประชาชน มีการขอใช้ประโยชน์ข้อมูลทะเบียนประวัติราษฎรจากฐานข้อมูลทะเบียนกลางของกรมการปกครอง เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ตามภารกิจหลักของกรมธนารักษ์
เมื่อวานนี้ (28 สิงหาคม 2555) ณ กรมธนารักษ์ นางปนัสย์สร อริยวงศ์ รองอธิบดีกรมธนารักษ์ พร้อมด้วยนายสถาพร ศิริภักดี รองอธิบดีกรมการปกครอง ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (Memorandom of Understanding : MOU) การขอใช้ประโยชน์ข้อมูลทะเบียนประวัติราษฎรจากฐานข้อมูลทะเบียนกลางของกรมการปกครอง เนื่องจากกรมธนารักษ์มีภารกิจด้านที่ราชพัสดุที่เกี่ยวข้องกับการทำนิติกรรมสัญญา ภาคประชาชน ซึ่งเป็นผู้เช่าที่ราชพัสดุ และภารกิจด้านเหรียญกษาปณ์ที่มีการติดต่อกับประชาชน
นางปนัสย์สร อริยวงศ์ รองอธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงของทั้งสอง ส่วนราชการถือเป็นความร่วมมือในการขอข้อมูลทะเบียนประวัติราษฎรจากฐานข้อมูลกลาง เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ตามภารกิจหลักของกรมธนารักษ์ด้านที่ราชพัสดุ โดยกรมธนารักษ์มีการให้บริการประชาชนและนิติบุคคลทั่วไปมีโอกาสเช่าที่ราชพัสดุเพื่ออยู่อาศัย ประกอบอาชีพ และประกอบกิจการต่างๆ ซึ่งข้อมูลบุคคลที่ได้จากกรมการปกครองจะมีประโยชน์เพื่อใช้ในการตรวจสอบกรณีทำธุรกรรมสัญญาเช่าที่ราชพัสดุต่างๆ สามารถยืนยันตัวบุคคลที่ชัดเจน ถูกต้อง ในการดำเนินการทางนิติกรรม นอกจากนี้ กรมธนารักษ์ยังมีภารกิจด้านเหรียญกษาปณ์ที่สามารถใช้ข้อมูลในการยืนยันตัวบุคคล เพื่อการรับแลก-รับจอง และการมอบอำนาจในการรับเหรียญแทน รวมถึงการใช้ตรวจสอบยืนยันข้อมูลบุคคลด้านคดีความและการสอบสวนต่างๆ และเพื่อรองรับการให้บริการประชาชนในรูปแบบ e-Services ที่สะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย โดยการลงนามบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ กรมธนารักษ์ได้ขอใช้ประโยชน์ข้อมูลทะเบียนประวัติราษฎร 3 วิธี ได้แก่ วิธีแฟ้มข้อมูล (BATCH PROCESSING) เป็นการขอตรวจสอบโดยให้ระบบประมวลผลเป็นแฟ้มข้อมูลจำนวนมากรายการ วิธีจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) เป็นการขอตรวจสอบแต่ละรายบุคคล และวิธีใช้โปรแกรมสำหรับอ่านข้อมูลจากบัตรประจำตัวประชาชน ผ่านเครื่องอ่านบัตร
นอกจากนี้แล้ว การขอใช้ข้อมูลบุคคลในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว จะนำไปสู่การให้บริการประชาชนที่มีประสิทธิภาพในรูปแบบ e-Services ต่างๆของกรมธนารักษ์ และเสริมสร้างภาพลักษณ์ของหน่วยงานราชการในด้านการให้บริการประชาชน เพื่อนำไปสู่การเป็นรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ในอนาคต นางปนัสย์สร กล่าวในตอนท้าย