กรุงเทพฯ--30 ส.ค.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.อ. พัฒนาระบบตรวจสอบป้ายทะเบียนรถ ชี้จุดเด่นอยู่ที่ระบบจะทำการบันทึกภาพและประมวลผล เพื่อเก็บไว้เป็นฐานข้อมูล ใช้ตรวจสอบรถแปลกปลอมในราคาไม่แพง หวังนำไปใช้แก้ปัญหาและเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยจากสถานการณ์ 3 จังหวัดชายแดนใต้
ดร.นิคม สุวรรณวร อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หรือ ม.อ. (Dr. Nikom Suvonvorn Department of Computer Engineering Faculty of Engineering Prince of Songkla University) เปิดเผยว่า คณะวิศวกรรมศาสตร์ประสบความสำเร็จในการพัฒนาระบบตรวจสอบป้ายทะเบียนรถ โดยใช้ต้นทุนต่ำ เพื่อนำไปใช้ในการตรวจหาและบันทึกแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ โดยทำการประมวลผลภาพจากกล้องวิดีโอ ซึ่งจัดเก็บบันทึกภาพไว้ในฐานข้อมูล โดยการทำงานดังกล่าวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการรักษาความปลอดภัยในสถานที่ต่างๆ ได้มากขึ้น เนื่องจากมีความสะดวกในการใช้งานและสามารถเรียกดูฐานข้อมูลอัตโนมัติผ่านทางอินเทอร์เน็ต
สำหรับโครงสร้างของระบบดังกล่าว ทางคณะฯ ได้ออกแบบด้านฮาร์ดแวร์ ซึ่งจะแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ระบบการวิเคราะห์ภาพตามเวลาจริง (Online Processing Unit) ที่จะทำการบันทึกและจัดเก็บข้อมูลป้ายทะเบียน ประกอบด้วย 3 หน่วยการทำงานย่อย คือ การวิเคราะห์ป้ายทะเบียน (LP Recognition) ระบบการควบคุมการบันทึก (LP Shot/Video Record Control) และระบบการตรวจสอบข้อมูลและเตือน (LP Evaluation and Alert) และส่วนที่สอง คือ ระบบการจัดการข้อมูลภาพป้ายทะเบียนและรถ (LP Document Management) โดยจะมีหน่วยย่อยสองส่วน ได้แก่ ส่วนที่จะทำงานตามความเร็วจริง ซึ่งจะจัดเก็บข้อมูลที่ได้จากผลการวิเคราะห์ และส่วนที่ทำงานแบบออฟไลน์ซึ่งจะเป็นส่วนสืบค้นและจัดพิมพ์
“ระบบตรวจสอบป้ายทะเบียนรถยนต์มีการนำมาใช้งานจริงในงานความมั่นคงแห่งชาติ หรือในหน่วยงานระดับประเทศอยู่แล้ว แต่การลงทุนติดตั้งต้องใช้งบประมาณสูงหลักล้านบาท แต่ในส่วนของระบบที่ได้ประดิษฐ์ขึ้นมาใหม่นี้ จะเน้นการติดตั้งในหน่วยงานระดับกลางและขนาดเล็ก ใช้งบประมาณเพียง 300,000 บาท ซึ่งพบว่ามีราคาจะถูกกว่า จึงเหมาะกับการนำไปใช้กับหน่วยงานราชการ ห้างสรรพสินค้า และพื้นที่เสี่ยงภัยที่มีรถเข้าออกในแต่ละวันจำนวนมาก เพื่อลดความเสี่ยงจากยานพาหนะที่เป็นอันตราย โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการตรวจสอบและตรวจค้นรถเป้าหมายต้องสงสัย ซึ่งในปัจจุบันฝ่ายความมั่นคงมีการแจ้งเตือนมาอย่างต่อเนื่อง” ดร.นิคม กล่าว