โออิชิ ผงาด เดินหน้าขายหุ้น 16-17 สิงหาคม ศกนี้ ตั้งราคาที่ 19 บาท

ข่าวทั่วไป Friday August 13, 2004 16:39 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 ส.ค.--124 คอมมิวนิเคชั่นส
นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ให้ "โออิชิ" ทำการขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 37.5 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 20% ของทุนจดทะเบียน และชำระแล้วภายหลังการเพิ่มทุน โดยจะเสนอขายต่อประชาชนจำนวน 35.4 ล้านหุ้น และจะเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยจำนวน 2.1 ล้านหุ้น ซึ่งบริษัทฯ จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนในราคาเสนอขายที่ 19 บาท ในวันที่ 16-17 สิงหาคม ศกนี้ โดยบริษัทฯ คาดว่าหุ้น "OISHI" จะสามารถเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ได้ในวันที่ 25 สิงหาคม
"บริษัทฯ มีแผนที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ ไปใช้ใน 3 วัตถุประสงค์หลักได้แก่ เพื่อชำระคืนเงินกู้บางส่วน ในอัตราส่วน 60% เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ 10% และ เพื่อลงทุนขยายโครงการเครื่องดื่มในอนาคต 30%"
สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 1 ที่ผ่านมาบริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน)มีรายได้รวม 603 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจอาหาร 303 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจชาเขียว 300 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 88 ล้านบาท แบ่งเป็นกำไรจากธุรกิจอาหาร 16 ล้านบาท และธุรกิจชาเขียว 72 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯมีอัตราการเติบโตของยอดขายรวมร้อยละ 133 และมีอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิสูงถึงร้อยละ 515 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีแผนงานขยายสาขาร้านอาหาร ขยายกำลังการผลิตเครื่องดื่มชาเขียว และผลิตสินค้าใหม่ประเภทอาหารแช่เย็น และอาหารแช่แข็ง พร้อมบริโภคออกสู่ตลาดเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่ต้องการความสะดวกอีกด้วย
นายตัน เปิดเผยต่อไปว่า ในไตรมาส 1/2547 "โออิชิ" มีสัดส่วนรายได้ระหว่างชาเขียวและร้านอาหาร(โออิชิ ภัตตาคารบุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่น, โออิชิ ราเมน, โออิชิ ราเมน, โออิชิ บุฟเฟ่ต์ เอ็กเพรส, ชาบูชิ, โอเค สุกี้, In & Out. The Bakery Cafe, Loghome Dinning Complex และ Cha for Tea) 50:50 แต่ในอนาคตสัดส่วนนี้จะเปลี่ยนไป เนื่องจากบริษัทฯ มีแผนการขยายกำลังการผลิตชาเขียวที่ชัดเจนประกอบกับกระแสการตอบรับของการบริโภคเครื่องดื่มชาเขียวมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยจากการวิจัยของ ACNielsen(Thailand) และ Tetra Pak(Thai) คาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดรวมของเครื่องดื่มชาเขียวในปี 2547 จะมีประมาณ 6,500 ล้านบาท ดังนั้นตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว บริษัทฯ ได้ลงทุนในเครื่องจักรใหม่ และคาดว่าสิ้นไตรมาสที่ 3 จะสามารถผลิตชาเขียวได้เดือนละ 22.95 ล้านขวด และ 12.325 ล้านกล่องต่อเดือน โดยไตรมาส 1/2547 โออิชิ มีกำลังการผลิตชาเขียวเดือนละ 7.65 ล้านขวดและ 6.375 ล้านกล่องต่อเดือน
"สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2547 นั้น บริษัทฯ จะขยายกำลังการผลิตในตลาดเครื่องดื่มชาเขียวโออิชิกรีนทีทั้งประเภทขวดและกล่องให้เพียงพอต่อความต้องการทั่วประเทศ และจะขยายสาขาร้านอาหารและร้านเบเกอรี่จาก 77 สาขา ในปลายปี 2546 เป็นประมาณ 90 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งจะเป็นการขยายสาขาด้วยบริษัทฯ เอง และผ่านระบบแฟรนไซส์ ซึ่งปัจจุบันได้มีการขยายแฟรนไชส์แล้วจำนวน 3 สาขาในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งคาดว่าจะทยอยเปิดดำเนินการต่อไป"
สำหรับหุ้น "โออิชิ" จะเปิดให้ผู้สนใจจองซื้อได้ในวันที่ 16-17 สิงหาคมนี้ ผ่านตัวแทนทั้ง 6 แห่งได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด(มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาติ จำกัด(มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน), บริษัทหลักทรัยพ์ ทิสโก้ จำกัด และบริษัท หลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย)จำกัด
อนึ่ง ปัจจุบันบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 375 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 187.5 ล้านหุ้น มูลค่าตราไว้หุ้นละ 2 บาท เป็นทุนเรียกชำระแล้วจำนวน 300 ล้านบาท ภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้บริษัทฯ จะมีทุนชำระแล้วเพิ่มเป็น 375 ล้านบาท โดย ณ 31 มีนาคม 2547 บริษัทฯ มีสินทรัพย์ทั้งสิ้น 1,469 ล้านบาท หนี้สินรวม 1,047 ล้านบาท โดยเป็นภาระหนี้ที่มีดอกเบี้ยจำนวน 617 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 422 ล้านบาท
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
อุรยา จักรธรานนท์
จตุพล นาคนิ่ม
บริษัท 124 คอมมิวนิเคชั่น จำกัด
โทร 0-2552-2255--จบ--
--อินโฟเควสท์ (ชพ/กภ)--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ