กรุงเทพฯ--31 ส.ค.--แสนสิริ
- ตอกย้ำภาพผู้นำดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง วงการอสังหาฯ ไทยอีกครั้ง -
แสนสิริตอกย้ำภาพผู้นำเทรนด์การตลาดดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง ในวงการอสังหาฯ ไทยอีกครั้ง รุกหน้านำกลยุทธ์ ‘Recommerce’ ซึ่งเป็นเทรนด์ทางการตลาดใหม่ปี 2012 ใช้พัฒนา Social Network Platform รูปแบบใหม่ เปิดตัวแคมเปญภายใต้ชื่อ ‘SaySwop’ เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกบ้านได้แชร์แลกเปลี่ยนสิ่งของผ่านสังคมออนไลน์ เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างลูกบ้านแสนสิริ โดยนับเป็นครั้งแรกของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยที่นำกลยุทธ์ Recommerce มาใช้เพื่อตอบสนอง Customer Relationship Management หรือ CRM Community แบบยั่งยืน
นายสมัชชา พรหมศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดองค์กร บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในฐานะองค์กรที่รุกการทำการตลาดด้านดิจิตอล มาร์เก็ตติ้งเต็มรูปแบบอย่างต่อเนื่องในช่วงตลอดระยะเวลา3 ปีที่ผ่านมา ล่าสุดจากการที่บริษัทฯ ได้พัฒนาและกำหนดทิศทางการทำการตลาดผ่านโลกดิจิตอลอย่างสม่ำเสมอเพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วของผู้บริโภค ประกอบกับการที่บริษัทได้เล็งเห็นถึงพฤติกรรมใหม่ๆ ของผู้บริโภคในเรื่องการแลกเปลี่ยนอย่างชาญฉลาด รวมทั้งยังต้องการสร้างสังคมระหว่างครอบครัวของแสนสิริด้วยกันเองให้แข็งแรงและเชื่อมโยงถึงกันมากยิ่งขึ้น บริษัทจึงได้เปิดตัวการสร้างสังคมแบบ ‘Recommerce’ (รีคอมเมิร์ซ) บนโลกออนไลน์ขึ้น เป็นเว็บไซต์ภายใต้ชื่อ ‘SAYSWOP’ (www.sayswop.com) เพื่อให้ลูกบ้านในครอบครัวแสนสิริ สามารถแบ่งปันความสุขให้แก่กันและกันได้ โดยจะพร้อมเปิดตัวให้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์และลงทะเบียนเข้าร่วมแบ่งปันความสุขแบบไม่รู้จบได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ www.sayswop.com
“Recommerce นับเป็นหนึ่งใน 12 เทรนด์การตลาดในปีนี้ที่ trendwatching.com จัดให้เป็นเทรนด์การตลาดที่น่าจับตามองในปี 2012 โดยแสนสิริได้พัฒนาแนวคิดจนเกิดเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ ในชื่อ ‘SaySwop’ ขึ้น โดยมีจุดมุ่งหมายให้เกิดเป็นสังคมแห่งการแลกเปลี่ยนของกลุ่มลูกบ้านแสนสิริ โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมต้องเป็นลูกบ้านของแสนสิริทั้งในโครงการเดียวกันและโครงการอื่นๆ ภายใต้ แสนสิริ แฟมิลี่ สำหรับการใช้งานจะมีรูปแบบที่ทันสมัย และมีฟังก์ชั่นการใช้งานง่าย โดยเฉพาะฟังก์ชั่นการค้นหาสิ่งของที่จะแลกเปลี่ยนสิ่งของระหว่างกัน โดยลูกบ้านสามารถค้นหาสิ่งของที่ต้องการแลกเปลี่ยนหรือแชร์ได้ตามความต้องการ เพียงแค่พิมพ์ชื่อสิ่งของที่ต้องการ ระบบก็จะทำการประมวลผลขึ้นมาอย่างรวดเร็วและแม่นยำ นอกจากนี้ลูกบ้านยังสามารถเลือกค้นหาตามหมวดหมู่ที่ได้แบ่งประเภทไว้แล้วอย่างชัดเจน อาทิ ของสะสม อุปกรณ์ทางด้านเทคโนโลยี สิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้าน เสื้อผ้า หนังสือ คูปอง/บัตรกำนัลฯลฯ เป็นต้น รวมทั้งตกลงแลกเปลี่ยนภายใต้ความพึงพอใจระหว่างกันในที่สุด นอกจากนั้นลูกบ้านยังสามารถพูดคุยหรือทำการนัดหมาย เพื่อแลกเปลี่ยนสิ่งของระหว่างกัน โดยใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ “SaySwop” เป็นสื่อกลางได้อีกด้วย โดยบริษัทมั่นใจว่า การเปิดตัวกิจกรรม SaySwop ในปีนี้จะเป็นเครื่องมือที่เป็นช่องทางที่ดีในการสร้าง Engagement หรือ Relationship ที่ดีต่อลูกค้าซึ่งจะส่งผลให้แสนสิริประสบความสำเร็จในการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของลูกบ้านหรือเข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภคในที่สุด” นายสมัชชา กล่าว
ด้านคุณภาวุธ พงษ์วิทยภานุ กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ บริษัท TARAD.com กล่าวว่า การทำการตลาดในรูปแบบของ Recommerce เป็นเทรนด์ในการทำการตลาดรูปแบบใหม่ล่าสุดที่น่าสนใจ โดยนับเป็นการสร้างคุณค่าจากสิ่งของที่เคยซื้อไปแล้ว ให้กลับมามีประโยชน์สำหรับผู้บริโภคอีก ไม่ว่าจะเป็น การ TRADE-IN เพื่อซื้อของใหม่กับแบรนด์ หรือ การแลกเปลี่ยนกันระหว่างผู้บริโภคด้วยกัน โดยสามารถสร้างประโยชน์ในเชิงเศรษฐศาสตร์ (เงินในกระเป๋าที่เพิ่มขึ้น) หรือทางด้านสิ่งแวดล้อม (ลดการผลิต) รวมไปถึงทางด้านจิตใจ (แลกของที่อาจจะไม่ได้ใช้ไปให้ผู้ที่ต้องการ)
“การทำการตลาดแบบรีคอมเมิร์ซ จะทำให้การซื้อขายมีรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไปในรูปแบบของการแลกเปลี่ยนผ่านความพึงพอใจโดยปัจจุบันรีคอมเมิร์ซยังนับเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคที่ต้องการขยายประสบการณ์การใช้สินค้าหรือบริการให้มากขึ้นอีกด้วย ซึ่งนับว่าแสนสิริเล็งเห็นถึงโอกาสดังกล่าวรวมทั้งคาดว่ากิจกรรมที่ดีในลักษณะนี้จะได้รับการตอบรับจากลูกบ้านของแสนสิริเป็นอย่างดีอย่างแน่นอน” นายภาวุธ กล่าวปิดท้าย