กรุงเทพฯ--31 ส.ค.--ซีเกท เทคโนโลยี
บริษัทฯ เน้นหนักในด้านการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ การทำให้บรรลุผลสำเร็จและผลกำไร
บริษัท ซีเกท เทคโนโลยี ผู้นำทั่วโลกในด้านฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์และโซลูชั่นสำหรับจัดเก็บข้อมูล ให้การต้อนรับบรรดาซัพพลายเออร์กว่า 300 คนจากทั่วโลกในงาน “ซีเกท ซัพพลายเออร์ เดย์” ซึ่งจัดขึ้นในกรุงเทพฯ ประเทศไทย หัวข้อของการจัดงานในปีนี้คือ การเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ (partnership) การทำให้บรรลุผลสำเร็จ (performance) และผลกำไร (profits) ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดียิ่งขึ้นระหว่าง ซีเกทกับพันธมิตรทางธุรกิจทั่วโลกและการทำงานร่วมกันเพื่อความสำเร็จร่วมกันของทั้งสองฝ่าย
ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ระดับโลกตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ประมาณร้อยละ 40 ของการผลิตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ทั่วโลกมาจากประเทศไทย ซึ่งมียอดการส่งออกกว่า 12,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์เป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของไทยซึ่งมีมูลค่าทั้งสิ้น เกือบ 60,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ปัจจัยที่ดึงดูดผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยคือ คอนเซ็ปต์ “คลัสเตอร์” ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มผู้ประกอบชิ้นส่วน ผู้ผลิตชิ้นส่วน ทรัพยากรมนุษย์และเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน
ในปี พ.ศ. 2554 ประเทศไทยประสบกับวิกฤติน้ำท่วมที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 70 ปี การดำเนินงานของซีเกทได้รับผลกระทบทางอ้อมเนื่องจากการสะดุดของซัพพลายเชน “ภาวะน้ำท่วมทำให้เรามีโอกาสเปลี่ยนแปลงเพื่อทำให้ ซัพพลายเชนของเราสร้างความแตกต่างเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน” นายเดฟ มอสเล่ย์ รองประธานบริหาร ฝ่ายปฏิบัติการของซีเกท กล่าว “เราลงทุนเพื่ออนาคตร่วมกับซัพพลายเออร์ของเราโดยการดำเนินการดังต่อไปนี้ เช่น การทำข้อตกลงด้านราคา การซื้อวัตถุดิบไว้ล่วงหน้า การแทนที่อุปกรณ์การผลิตที่เสียหายด้วยอุปกรณ์ใหม่ เป็นต้น ซึ่งจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมในระยะยาว” นายมอสเล่ย์กล่าวเสริม
นอกจากนี้ ซีเกทได้มอบรางวัลซัพพลายเออร์ยอดเยี่ยมแห่งปีแก่ซัพพลายเออร์จำนวน 9 ราย หลักเกณฑ์ใน การตัดสินคือความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ของผลิตภัณฑ์ ความคล่องตัวในการดำเนินงานและการบริหารงานด้วย ความรับผิดชอบ เป็นต้น “ซัพพลายเออร์เหล่านี้มีส่วนต่อความสำเร็จของซีเกทเป็นอย่างมาก” นายบ็อบ วิทมอร์ รองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของซีเกท กล่าว “ซัพพลายเออร์ทุกรายที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติในวันนี้มีส่วนสำคัญ ในการช่วยให้เราสามารถจัดส่งผลิตภัณฑ์ที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ซึ่งมีคุณภาพสูงและมีคุณค่าไปยังลูกค้าของเรา” นายวิทมอร์กล่าว
นายเจฟฟรี่ ไนการ์ด รองประธานฝ่ายปฏิบัติการประเทศไทยและปีนัง กล่าวว่าซีเกทได้บริจาคเงินกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและช่วยฟื้นฟูหลังการเกิดอุทกภัย โดยมูลนิธิชัยพัฒนาและสภากาชาดไทยได้รับเงินบริจาคองค์กรละ 250,000 เหรียญสหรัฐ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย นายไนการ์ดเล่าว่า จนถึงปัจจุบัน
ซีเกทได้มอบเงินจำนวนกว่า 140,000 เหรียญสหรัฐ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยแก่เอ็นจีโอจำนวน 2 รายคือ มูลนิธิรักษ์ไทยและมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย ซึ่งดำเนินโครงการฟื้นฟูต่าง ๆ หลังการเกิดอุทกภัย เช่น การจัดฝึกอบรมแก่สตรีและเด็ก ตลอดจนการติดตั้งสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นในศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
ในภาพจากซ้าย นายบ็อบ วิทมอร์ รองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี บริษัทซีเกท เทคโนโลยี นายเดฟ มอสเล่ย์ รองประธานบริหาร ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัทซีเกท เทคโนโลยี ดร. อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ที่ปรึกษาด้านการลงทุน คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และนายเจฟฟรี่ ไนการ์ด รองประธานฝ่ายปฏิบัติการประเทศไทยและปีนัง บริษัทซีเกท เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด