สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2555เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 3, 2012 10:22 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 ก.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,653 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,676 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.39 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,500 บาท กับ 24,600 บาท และกลับมาปิดที่ 24,550 บาท กับ 24,650 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 6,125 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 11,422 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 226 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 7.02 % แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 4.87 % Silver Futures เพิ่มขึ้น 17.7% GFV12 ปิด 25,000 บาท และ GFZ12 ปิด 25,110 บาท GF10V12 ปิดที่ 25,010 บาท GF10Z12 ปิดที่ 25,110 บาทSVV12 ปิดที่ 978 และ SVZ12 ปิดช่วงกลางคืนที่ - สัญญา Comex ปิดเพิ่ม 30.5 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,687.6 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 99.6 เซนต์ ปิดที่ระดับ 31.442 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,289.52 ตัน (ถือครองเท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 1.85 เซนต์ ปิดที่ระดับ 96.47 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 90.13 จุด ปิดที่ระดับ 13,090.84 จุด Ratio Gold / Silver 53 เท่ากับ ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ TheBullionDesk, Reuters, Infoquest และ CNBC -ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วทันทีที่มีการแถลงของนายเบอร์นันเก ก่อนที่จะรีบาวน์กลับมาพุ่งขึ้นถึง 45 เหรียญแตะระดับสูงสุดในรอบ 20 สัปดาห์ในช่วงต้นเดือนมกราคมเมื่อคืนวันศุกร์ หลังจากตลาดได้พิจารณาคำกล่าวของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด ในการประชุมที่แจ็คสัน โฮล ว่าคำกล่าวต่างๆ ได้สร้างความคาดหวังอย่างมากในเรื่องมาตรการ QE3 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ โดยหลังจากที่ราคาทองคำมีการซื้อขายอยู่ในกรอบมาเป็นเวลา 4 เดือน ก็ได้มีการฝ่ากรอบขึ้นไปใกล้ระดับ 1,700 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับที่เห็นล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคม และดูเหมือนว่าราคาทองคำจะสามารถทรงตัวเพื่อไปแตะระดับสูงสุดในปีนี้ได้ เนื่องจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ฟื้นตัวขึ้นและมีสัญญาณการเข้าซื้อทางเทคนิค ราคาทองคำเมื่อวันศุกร์สามารถปรับตัวสูงขึ้นได้ดีที่สุดในรอบ 2 เดือน เอาชนะตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งปรับตัวสูงขึ้นในช่วงปลายตลาด โดยราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นถึง 4.5% เมื่อรวมตลอดทั้งเดือนสิงหาคม เป็นการปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม ซึ่งราคาเมื่อวันศุกร์ขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,691.8 เหรียญ สัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สส่งมอบเดือนธันวาคมปรับตัวสูงขึ้น 30.5 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,687.6 เหรียญ โดยมีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุดในรอบ 1 เดือน นอกจากนี้ กลุ่ม Hedge funds และผู้จัดการการเงินได้กระตุ้นการเข้าถือครองสถานะ Long position สุทธิในสัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สและสัญญา Options สู่ระดับสูงสุดในรอบมากกว่า 5 เดือนในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 สิงหาคม ในคำแถลงของนายเบอร์นันเก้ที่การประชุมแจ็คสัน โฮล เขาเปิดเผยว่า มี “ความกังวลอย่างร้ายแรง” ในเรื่องภาวะซบเซาของตลาดแรงงาน และกล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐได้เผชิญกับความท้าทายที่น่ากังวลใจ อย่างไรก็ตามเมื่อเฟดได้พิจารณาถึงความไม่แน่นอนและข้อจำกัดต่างๆ ของเครื่องมือทางนโยบาย เฟดจะจัดหาการผ่อนปรนมาตรการมากกว่านี้ตามความจำเป็นเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และทำให้สภาพตลาดแรงงานพัฒนาขึ้นอย่างยั่งยืนในเรื่องของความมีเสถียรภาพของราคา นอกจากนี้ นายเบอร์นันเก้ยังได้กล่าวอีกว่า ความเสียหายในเรื่องนโยบายที่ไม่เป็นไปตามแบบแผนนั้นสามารถจัดการได้ และเราไม่ควรที่จะปฏิเสธถึงการใช้นโยบายที่เหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจ สำหรับการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันศุกร์ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐประจำเดือนสิงหาคมพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนที่ 74.3 สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 73.7 ส่วนดัชนี PMI เขตชิคาโกปรับตัวลงเกินคาดสู่ระดับ 53.0 ในเดือนสิงหาคม จากระดับ 53.7 ในเดือนก่อน ซึ่งร่วงหนักกว่าที่คาดการณ์ว่าจะลดลงสู่ระดับ 53.2 ในขณะที่ยอดสั่งซื้อของโรงงานสหรัฐ หรือ Factory Orders ประจำเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 2.8% ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 1.7% ความเห็นของนายเบอร์นันเก้มีส่วนสัมพันธ์อย่างยิ่งกับอัตราการว่างงาน ซึ่งจะต้องจับตาดูการประกาศตัวเลข Non-farm payrolls ในคืนวันศุกร์ และการประชุม FOMC ประจำเดือนกันยายนในวันที่ 12 — 13 กันยายน นอกจากนี้วันนี้ตลาดยังคงเฝ้ารอคำแถลงของนายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบีที่มีกำหนดการแถลงในกรุงบรัสเซลส์ เวลา 20.30 น. เกี่ยวกับเรื่องการรวมกันทางภาคธนาคารก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจของรัฐสภายุโรป โดยคำแถลงของนายดรากีอาจเปิดเผยนัยสำคัญใดๆ เกี่ยวกับการตัดสินใจในเรื่องอัตราดอกเบี้ยของอีซีบี ในขณะที่ความตึงเครียดระหว่างนายดรากีกับธนาคารกลางเยอรมนีกำลังเพิ่มมากขึ้นในเรื่องการคัดค้านแผนการเข้าซื้อพันธบัตร และนอกจากนี้ยังมีข่าวลือที่ว่า ประธานธนาคารกลางเยอรมนีอาจลาออกเนื่องจากความตึงเครียดจากกลุ่มผู้ประท้วง อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนเพิ่มขึ้นกว่าที่คาดในเดือนสิงหาคม ซึ่งลดโอกาสที่อีซีบีจะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมอีซีบีวันที่ 6 กันยายนนี้ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา สหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) เผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตยังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องในเดือนสิงหาคม มาอยู่ที่ระดับ 49.2 จากระดับ 50.1 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน และบ่งชี้ว่า ภาคการผลิตของจีนกำลังชะลอตัวลง ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา OECD ได้เปิดเผยว่า อีซีบีควรดำเนินการมากขึ้นในการแก้ไขปัญหาวิกฤตยูโรโซน เนื่องจากการให้ความช่วยเหลือทางการเงินในปัจจุบันยังไม่เพียงพอ ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน - Chicago PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 53.7 คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ 53.6 - Revised UoM Consumer Sentiment ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 73.6 คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ 73.7 - Fed Chairman Bernanke Speaks - Jackson Hole Symposium วันที่ 2 ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ - Bank Holiday - ECB President Draghi Speaks วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold — ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วกว่า 2% หรือกว่า 35 เหรียญ ท่ามกลางการซื้อขายที่แกว่งตัวในคืนวันศุกร์ จากการคาดหมายในเนื้อหาที่นายเบอร์นันเกให้คำปราศรัยที่แจ็คสัน โฮล ว่าน่าจะมีมาตรการ QE3 เนื่องจากตลาดมองว่า นายเบอร์นันเกยังให้ความกังวลและความพร้อมที่จะต้องปรับปรุงมาตรการทางการ เงินเพื่อกระตุ้นภาวะการว่างงานที่ยังอยู่ในระดับสูงที่ระดับ 8.3% โดยที่ในวันนี้ตลาดอเมริกาหยุด แต่ MTS Gold เองยังเปิดให้บริการ Gold Online ตามปกติตามตลาดอิเล็กทรอนิกส์ที่มีอยู่ ฉะนั้นในส่วนทิศทางราคาทองคำ MTS Gold มองว่า ราคาทองคำเป็นทิศทางขาขึ้น โดยมีเป้าหมายในการขึ้นครั้งนี้ที่ระดับ 1,720 เหรียญ ภายในอีก 3 สัปดาห์ข้างหน้า โดยในขณะที่ราคาปรับตัวขึ้นมาเร็ว นักลงทุนระยะสั้นที่เป็นนักลงทุนรายวันไม่เกิน 1 สัปดาห์แนะนำให้ขายทำกำไรบ้าง ช้อนซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวโดยจะมีแนวรับแรกที่ระดับ 1,675 เหรียญ และแนวรับที่สองที่ระดับ 1,670 เหรียญ โดยภาพรวมราคาทองคำเป็นแนวโน้มขาขึ้น จึงแนะนำให้ทำกำไรในแนวน้ามทิศทางขาขึ้น นักลงทุนที่ยังมี Short Position แนะนำให้หาจังหวะปิดให้ได้ภายใน 3 วัน ทำกำไรบริเวณแนวรับ 1675 เหรียญ +/- น่าจะเป็นบริเวณที่ปิด Short Position หรือพิจารณา Timeframe ที่เหมาะสม Gold Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,000 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,200 บาท Gold Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,110 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,310 บาท Silver Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 970 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,000 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade) เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในทิศทางขาขึ้นในกรอบ 1,675 — 1,690 เหรียญ คาดว่าราคาน่าจะมีการแกว่งตัวจากการขายทำกำไรในตลาด ให้ขายบริเวณแนวต้านด้านบน นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade) แนะนำให้ขายทำกำไร พอร์ทอยู่ที่ 0% และรอจังหวะเข้าช้อนซื้อบริเวณแนวรับประมาณ 20 - 30% นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง รอจังหวะเข้าช้อนซื้อบริเวณแนวรับ อาจทำกำไรบ้างเป็นช่วงๆ Portfolio ทำเป็นสถานะ Long Position ประมาณ 30% สรุปได้ว่า แนวโน้มเป็นขาขึ้น ควรถือสถานะ Long Position เท่านั้น นักลงทุนระยะสั้นเท่านั้นถึงจะถือ Short Position แต่ต้องมี Stop Loss อยู่เสมอ บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ