เอส 26 คลับ เชิญกูรูตอกย้ำ “ศักยภาพล้ำหน้าของลูกน้อยทุกช่วงวัย” สร้างได้ด้วย Brain Based Learning

ข่าวทั่วไป Tuesday September 4, 2012 10:06 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 ก.ย.--Public Hit เอส-26 คลับ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและพัฒนาการเด็กตอกย้ำความเป็นผู้นำและผู้ริเริ่ม “นวัตกรรมใหม่ๆ ด้านโภชนาการสำหรับเด็ก” ระดับโลก เปิดปฏิบัติการ S-26 Club Brain Based Learning ปี 3 : 5 พลังสมองสร้างศักยภาพล้ำหน้า” เพิ่มศักยภาพสมองทั้ง 5 ส่วน ของลูกน้อยผ่านกิจกรรมการเล่นและการเรียนรู้ พร้อมเชิญกูรูด้านพัฒนาการและโภชนาการสำหรับเด็กวัย 1 — 5 ปีมาให้ความรู้อย่างใกล้ชิด โดยกิจกรรมจัดขึ้น ณ ชั้น 7 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เวิลด์ เมื่อเร็วๆนี้ 5 พลังสมองสร้างศักยภาพล้ำหน้า หมายถึง การที่คุณพ่อคุณแม่สามารถสร้างศักยภาพของลูกน้อยให้ล้ำหน้า โดยยึดหลักของทฤษฎีการจัดกิจกรรมการ “เรียนรู้” และการ “เล่น” โดยใช้สมองเป็นฐาน หรือที่เรียกว่า Brain Based Learning มากระตุ้นให้สมองทั้ง 5 ส่วน ได้แก่ 1. การแก้ไข การวางแผน (ฟรอนทัลโลบ) 2. ประสาทสัมผัสและการจดจำ (พาไรทัลโลบ) 3. ภาษา ความจำ อารมณ์ (เทมโปรัลโลบ) 4. การมองเห็น รับรู้ ความเข้าใจ (ออกซิพิทัลโลบ) 5. ระบบกล้ามเนื้อ การเคลื่อนไหว (ซีรีเบลลัม) มีการทำงานอย่างเต็มที่ และ พัฒนาสมองแบบองค์รวม (A Holistic Approach) เพื่อสร้างศักยภาพล้ำหน้าทั้งด้านพัฒนาสมองและสายตา เพิ่มพลังการเรียนรู้ เสริมสร้างร่างกายแข็งแรง และพัฒนาการสมวัยตามเอกลักษณ์ของลูกน้อยแต่ละคน สภาพร กังวานเวชกุล ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจโภชนาการ บริษัทไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตนมผง S-26 Progress GOLD (เอส-26 โปรเกรส โกลด์) นมผงคุณภาพระดับพรีเมี่ยมและผ่านการค้นคว้าวิจัยสำหรับเด็ก กล่าวว่า ศักยภาพล้ำหน้าของลูกน้อยในแต่ละช่วงวัยสามารถสร้างได้ไม่ยาก หากได้รับการดูแลและกระตุ้นสมองอย่างถูกวิธี และเหมาะสมตามวัย ด้วยทฤษฎี Brain Based Learning ที่เป็นการใช้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสมองเป็นเครื่องมือออกแบบการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมศักยภาพสูงสุดในการเรียนรู้ คุณพ่อคุณแม่จะสามารถกระตุ้นพลังสมองทั้ง 5 ส่วน อย่างถูกวิธี เพื่อช่วยให้ลูกน้อยสามารถพัฒนาศักยภาพให้ถึงขีดสุด และใช้ความสามารถของตนเองได้เต็มที่ นอกจากนี้ การมอบโภชนาการที่ดีสำหรับลูกน้อยเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญเพื่อพัฒนาสมองล้ำหน้า ซึ่งมีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่า การมอบโภชนาการที่ประกอบด้วยสารอาหารหลากหลายชนิด ตามสัดส่วนและช่วงวัยที่เหมาะสม จะช่วยสร้างศักยภาพที่ล้ำหน้าให้กับเด็ก ผศ.ดร.อุษณีย์ อนุรุทธ์วงศ์ ประธานศูนย์พัฒนาอัจฉริยภาพเด็ก มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร นักวิชาการด้านพัฒนาการและการเจริญเติบโตของเด็กระดับแถวหน้าของประเทศ กล่าวว่า สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่อยากให้ลูกเป็นอัจฉริยะ ขอให้เข้าใจก่อนว่า การเป็นอัจฉริยะนั้นเราสร้างไม่ได้ แต่ศักยภาพเป็นสิ่งที่สามารถสร้างได้ เด็กทุกคนมีศักยภาพ เพียงแต่ในฐานะพ่อแม่จะสามารถมองเห็นและพัฒนาศักยภาพที่เขามีและส่งเสริมได้อย่างถูกทางหรือไม่เท่านั้น คุณพ่อคุณแม่สามารถเสริมพัฒนาการต่างๆ โดยปล่อยให้ลูกได้ฝึกประสาทสัมผัสทั้ง 5 เพื่อพัฒนาสมองทั้ง 5 ส่วนด้วย เด็กตั้งแต่ 0-6 ขวบ ต้องเล่นให้เพียงพอ ต้องปีนต้องป่าย ใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กให้คล่องแคล่ว เพื่อกระตุ้นสมอง “การที่ลูกจะเป็นศักยภาพล้ำหน้าบุคคลนั้น เขาจะเป็นคนเลือกเอง เพราะกว่าจะไปถึงจุดนั้นได้เขาต้องเติบโตและฝ่าฟันทั้งสังคมภายนอก อุปสรรคในชีวิตต่างๆ ดังนั้นเมื่อลูกยังเล็กๆ พ่อแม่ไม่ควรทำให้ลูกทุกอย่าง ปล่อยให้ลูกมีอิสระทางด้านความคิด งดพูดคำว่า “อย่า” กับลูก อยากให้ลูกประสบความสำเร็จ อยากสร้างตึกใหญ่ ต้องวางรากฐานมั่นคง ก็ต้องเลี้ยงดูและให้ความอบอุ่นแก่ลูกๆ ตอนเล็กๆ อย่างมั่นคงด้วย” ดร.อุษณีย์ แนะนำ ทั้งนี้ จากการทดสอบเด็กไทยในระดับหลักหมื่นคนในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา โดยศูนย์อัจฉริยภาพเด็ก พบว่า ศักยภาพทางความคิดของเด็กไทยอยู่ในระดับวิกฤติไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเด็กที่มีระดับไอคิวสูงหรือต่ำ ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ศักยภาพของเด็กไทยอยู่ในระดับวิกฤติ เกิดจากการขาดการเลี้ยงดูอย่างเข้าใจ และคุณพ่อคุณแม่ รวมถึงวิธีการสอนในโรงเรียน การประเมินผลที่มุ่งเน้นความรู้ความจำมากเกินไป หรือจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ไม่สอดคล้องกับการทำงานของสมอง ทำให้เด็กไม่สามารถพัฒนาศักยภาพให้ถึงขีดสุด และใช้ความสามารถของตนเองได้เท่าที่ควร ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุด คือ คุณพ่อคุณแม่ต้องสร้างกระบวนการเรียนรู้พัฒนาสมองของลูกน้อยให้ครบทั้ง 5 ส่วน ไม่ใช่ส่วนใดส่วนหนึ่ง และให้เขาสามารถดึงศักยภาพในตัวเองออกมาให้ได้มากที่สุด โดยยึดหลักของทฤษฎี Brain Based Learning ด้าน ดร. พรรณี เกษกมล ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาศักยภาพสมองด้วยทฤษฎี Brain Based Learning กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ดีของกิจกรรมที่จะช่วยสร้างศักยภาพล้ำหน้าให้กับเด็กๆ อาศัยทฤษฎี Brain Based Learning ที่เป็นการใช้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสมองเป็นเครื่องมือออกแบบการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมศักยภาพสูงสุดในการเรียนรู้ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถกระตุ้นพลังสมองทั้ง 5 ส่วนของลูกน้อยได้ในทุกช่วงวัย ตั้งแต่ในครรภ์ และทำอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยให้ลูกน้อยสามารถพัฒนาศักยภาพให้ถึงขีดสุด และใช้ความสามารถของตนเองได้เต็มที่ โดยเน้นในเรื่องของ 1) การสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้-การเล่นโดยยึดหลักทฤษฎี Brain Based Learning และ 2) การให้ความสำคัญด้านโภชนาการ ซึ่งลูกควรได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ หลากหลายชนิด เช่น นมผงเอส-26 โปรเกรส โกลด์ เพื่อเพิ่มพัฒนาการทั้งเรื่องสมอง-สายตา เพิ่มพลังการเรียนรู้ ร่างกายแข็งแรง นอกจากกูรูผู้เชี่ยวชาญเรื่องเด็กแล้ว ภายในงานยังได้ 2 คุณแม่ นักธุรกิจที่ทุ่มเทใจและเวลามาเลี้ยงดูลูกน้อย และยึดหลักการพัฒนาศักยภาพสมองทั้ง 5 ส่วนแบบองค์รวม ด้วยทฤษฎี Brain Based Learning มาปฏิบัติจริงในชีวิตประจำวัน ได้แก่ คุณแม่ณิชยา เอครพานิช ผู้บริหารบลู ริเวอร์ ผู้ผลิตเครื่องประดับอัญมณีแบรนด์หรู พาน้องเนียวัยขวบกว่ามาเปิดตัวโชว์ความน่ารัก และคุณแม่สุนทรี ใบหยก ผู้จัดการบริหารโรงแรมใบหยกบูทีค ก็พาน้องอัย มาร่วมกิจกรรมพร้อมเผยเคล็ดลับการเลี้ยงดูลูกน้อยอย่างได้ผล คุณณิชยา ถึงเคล็ดลับการเลี้ยงดูน้องเนียว่า “ส่วนตัวศึกษาข้อมูลมาค่อนข้างเยอะค่ะ จนปัจจุบันก็ยังไม่หยุดศึกษา โดยเฉพาะเรื่อง Brain Base Learning ทุกวันนี้แม่จะพูดภาษาอังกฤษกับลูก ส่วนคนรอบข้างจะพูดภาษาไทย น้องเนียจึงพูดได้ทั้ง 2 ภาษา นอกจากนั้นก็สนับสนุนให้น้องได้ศึกษาในสิ่งรอบตัว ที่บ้านคุณพ่อเค้าจะชอบเลี้ยงสัตว์ ทั้งปลาและเต่า น้องก็จะได้เรียนรู้ชีวิตของสัตว์เลี้ยง จะไม่บังคับให้ลูกเรียนตามสถาบันต่างๆ ค่ะ เพราะเด็กเล็กขนาดนี้น่าจะไปรับเชื้อโรคมากกว่าได้รับความรู้ ทุกวันนี้น้องเนียจะไปทำงานกับคุณแม่ เพื่อเราจะได้ดูแลเขาอย่างใกล้ชิด และสำคัญที่สุดคือการมอบโภชนาการที่ดีให้ลูกน้อย เลือกนมที่มีคุณค่าสารอาหารที่ครบถ้วน วันนี้ที่ได้มาฟังอาจารย์เล่าให้ฟังถึงเคล็ดลับพัฒนาสมอง ก็ตั้งใจไว้ว่า จะนำความรู้เพิ่มเติมกลับไปทดลองทำที่บ้านเหมือนกันค่ะ” ด้านคุณแม่สุนทรี ที่ใส่ใจในการเลี้ยงดูลูกน้อย โดยลาออกจากงานประจำมาเลี้ยงดูน้องอัยตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 2 ขวบ เล่าว่า “น้องชอบร้องเพลง ชอบแต่งตัว เสริมสวย พูดเก่ง มีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง จะเน้นการเลี้ยงดูทั้งกิจกรรมและอาหาร โดยอาหารนั้นจะพยายามจัดอาหารที่ครบ 5 หมู่ ที่ไม่ซ้ำกัน เพื่อไม่ให้ลูกเบื่อ เล็งเห็นความสำคัญของโภชนาการที่ดี มอบสารอาหารหลากหลายชนิดที่ทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างเสริมความแข็งแรงและพื้นฐานทุกด้านที่สำคัญต่อศักยภาพของเด็ก โดยเฉพาะสารอาหารกลุ่ม 10-5-5-10 ที่จะสามารถเสริมสร้างศักยภาพให้ลูกน้อยฉลาดล้ำหน้า เพิ่มพลังเรียนรู้ เติบโตแข็งแรง มีพัฒนาการสมวัย และที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่จะพยายามเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกค่ะ” ได้เคล็ดลับกันดีๆ แบบนี้ คุณพ่อคุณแม่ที่เตรียมพร้อมสร้างศักยภาพล้ำหน้าให้ลูกน้อยๆ ก็สามารถนำกลับไปฝึกฝนและพัฒนาศักยภาพสมองของลูกๆได้เองที่บ้าน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ