กรุงเทพฯ--4 ก.ย.--สหมงคลฟิล์ม
นอกเหนือจากเนื้อหาและทีมนักแสดงที่กำลังได้รับการกล่าวถึงอยู่ในขณะนี้แล้ว ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ “จันดารา” (ปฐมบท-ปัจฉิมบท) ก็ยังมีงานสร้างสุดละเมียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมที่เห็นกันอย่างชัดเจน ซึ่งงานนี้ “มนตรี วัดละเอียด” เมคอัพอาร์ทติสชั้นครู (สุริโยไท, โหมโรง, ชั่วฟ้าดินสลาย, อุโมงค์ผาเมือง ฯลฯ) และ “อธิษฐ์ ฐิรกิตติวัฒน์” แฟชั่นดีไซเนอร์ชื่อดัง (คู่กรรม, ซีอุย, ต้มยำกุ้ง, Me, Myself ขอให้รักจงเจริญ) มาร่วมกันสร้างสรรค์แฟชั่นเสื้อผ้าหน้าผมย้อนยุคนับตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 จนถึงปัจจุบันได้อย่างอลังการงานสร้างสมกับความยิ่งใหญ่ของภาพยนตร์มหากาพย์แห่งโศกนาฏกรรมทั้งสองภาคเรื่องนี้
หม่อมน้อยกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า
“เนื่องจากเรื่อง ‘จันดารา’ นี้มีการดำเนินเรื่องอย่างยาวนานถึง 4 รัชกาล ดังนั้นงานออกแบบเครื่องแต่งกายและแต่งหน้าทำผมจึงมีความสำคัญในการบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยตามท้องเรื่อง ซึ่งต้องอาศัยการค้นคว้าข้อมูลทางประวัติศาสตร์อย่างพิถีพิถันเพื่อความสมจริง ซึ่งเราโชคดีที่ได้ผู้ชำนาญการพิเศษชั้นครูอย่าง อ.ขวด-มนตรี วัดละเอียด และคุณโจ้ อธิษฐ์ มาเป็นผู้แต่งหน้า-ออกแบบทรงผมและการแต่งกายในภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้เป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะงดงามและสวยจริงตามยุคสมัยด้วย”
มนตรี วัดละเอียด เผยว่า
“ภาพรวมของเรื่องนี้ เราทำหนังเสมือนจริง ก็พยายามอ้างอิงให้มันใกล้เคียงกับความจริง แต่ก็ไม่ใช่สารคดีซะเลยทีเดียว เรื่องนี้มีตัวละครค่อนข้างจะเยอะ งานค่อนข้างจะมาก ช่วงเวลาของนักแสดงในเรื่องมันจะมีตั้งแต่เด็กจนแก่ พอมีเรื่องวัยช่วงอายุเข้ามาเกี่ยวข้อง มันก็จะมีเรื่องแฟชั่นตามยุคสมัยที่จะต้องปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย ก็พยายามอ้างอิงให้ใกล้เคียงกับยุค แต่ว่ายังมีความเป็นตัวละครอยู่ เวลาทำงานก็ต้องคุยกับผู้กำกับก่อนว่าผู้กำกับมองภาพเป็นยังไงแล้วต้องการอะไร หม่อมน้อยจะบรีฟเยอะมาก เหตุเกิดขึ้นเมื่อไรถึงปีไหนแล้วมันก็มีภาพเทียบว่าย้อนอะไรไปถึงอะไร ก็ให้เน้นเรื่องของเวลา เรื่องของวัย ตรงแฟชั่นก็จะตีความกันหลายๆ แบบ หลายๆ คน ก็จะมีตัวคุณบุญเลื่องที่บ่งบอกความเป็นแฟชั่นมากที่สุด มันก็เป็นการทำงานที่ร่วมกันหลายๆ ฝ่าย ตรงฝ่ายหน้าผมนี้ก็จะทำงานร่วมกับฝ่ายเสื้อผ้าไปตลอดเรื่อง ในส่วนของเมคอัพก็มีการแต่งหน้าหลายแบบทั้งสวยงามตามปกติ แล้วก็จะมีการแต่งแก่มากในส่วนของจันดารา และเคน กระทิงทองที่จะเป็นส่วนค่อนข้างยาก และอุปสรรคก็คือเรื่องของอากาศร้อนเกินกว่าจะทำงานกัน มันก็จะมีผลต่อกาว เครื่องสำอาง และอื่นๆ อีกมากที่จะต้องดูแลกันมากขึ้น ก็พยายามปรับหาวิธีมาใช้ให้ได้ผลดีที่สุดครับ”
อธิษฐ์ ฐิรกิตติวัฒน์ พูดถึงเครื่องแต่งกายในเรื่องนี้ว่า
“เรื่องนี้รีเสิร์ชเยอะมาก ปกติผมก็เป็นคนอ่านหนังสือพวกประวัติศาสตร์อยู่แล้ว สนใจในเรื่องของเสื้อผ้าของไทยอยู่แล้ว ก็จะค้นคว้าจากหนังสือที่มีอยู่เหล่านี้ แล้วก็ทางอินเตอร์เน็ตด้วย ก็เป็นการรีเสิร์ชที่สนุกเพราะเป็นสิ่งที่เราสนใจ เราชอบอยู่แล้ว ได้ข้อมูลเยอะมาก บวกกับหม่อมบรีฟรายละเอียดมาเยอะมาก เพราะหม่อมจะมีภาพในหัวอยู่แล้วว่าจะให้ออกมาอย่างไร แล้วเราก็ไปทำงานในส่วนของเราออกมา แล้วก็นำมาเสนอหม่อมให้เป็นไปในทางเดียวกัน เราก็จะเอา Reference หลายๆ อย่างมาผสมกันให้ลงตัว แต่ไม่ได้ทำตามทั้งร้อยเปอร์เซนต์ เราต้องดูคาแร็คเตอร์ตัวละครเป็นหลักด้วยว่าทำไมเขาถึงใส่เสื้อผ้าแบบนี้ ก็เอามาปรับให้ลงตัว วัตถุดิบที่เอามาตัดเย็บก็จะหาจากหลายๆ จังหวัด บางอย่างก็สั่งทำ ก็จะเลือกวัตุดิบที่มีหรือใกล้คียงสมัยนั้น แพทเทิร์นของเสื้อผ้าสมัยก่อนก็จะแตกต่างจากสมัยนี้ ก็ต้องตัดเย็บใหม่เกือบทุกชุด การตีความแต่ละช่วงอายุของจันดาราก็ทำให้คอสตูมที่ใส่เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นการรับเอาวัฒนธรรมต่างประเทศเข้ามา การเปลี่ยนแปลงบุคลิกของตัวละครผสมความเป็นไทยด้วย โทนสีก็จะทำให้กลมกลืนไปในแต่ละตัวละครและปูมหลัง แต่ก็ไม่ได้เจาะจงเป๊ะๆ ว่า คนนี้ต้องโทนสีนี้ เอาความเหมาะสมเป็นหลักมากกว่า เราทำงานร่วมกันกับทีมเมคอัพเป็นหลัก ก็เป็นการทำงานที่มีความสุข เพราะต่างคนก็ตั้งใจทำกันอย่างเต็มที่ให้ออกมาได้ดั่งใจต้องการ ผมเชื่อว่าเมื่อเราทำงานอย่างมีความสุข ผลงานก็จะออกมาดี และส่งผลไปถึงคนดูที่จะได้รับงานที่มีคุณภาพตามไปด้วยอย่างเต็มที่ ก็อยากให้มาชมผลงานคุณภาพนี้กันครับ”
เตรียมพบกับแฟชั่นสุดอลังการได้ใน “จันดารา ปฐมบท” พร้อมฉาย 6 กันยายนนี้ และ “จันดารา ปัจฉิมบท” เร็วๆ นี้ในโรงภาพยนตร์