กรุงเทพฯ--20 ก.ค.--เอซุส โอพี
“เอซุส”ผู้นำเทคโนโลยียุคดิจิตอลของโลก ประกาศความร่วมมือระดับโลกครั้งล่าสุดกับ “แคสเปอร์สกี้” ผู้ผลิตโปรแกรมแอนตี้ไวรัสคุณภาพสูง นำเสนอผลิตภัณฑ์โมเด็มเราเตอร์ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เน็ตเวิร์คกิ้งของเอซุสในรุ่น RT-N56U, RT-N66U และ DSL-N55U ที่ได้รับการพัฒนาให้เพิ่มฟังก์ชั่นการป้องกันไวรัสอย่างมีประสิทธิภาพด้วยโปรแกรมแอนตี้ไวรัส 2012 เวอร์ชั่นล่าสุดอย่างเต็มรูปแบบจากค่าย “แคสเปอร์สกี้” พร้อมวางจำหน่ายในตลาดเอเชียแปซิฟิกเร็วๆ นี้ โดยจะช่วยเอื้อประโยชน์ให้ผู้บริโภคได้รับความคุ้มครองในการใช้งานออนไลน์ที่ดีที่สุดจากระบบความปลอดภัยบนอินเตอร์เน็ตที่สมบูรณ์แบบ การผนึกกำลังของสองผู้นำระดับโลก “เอซุส” และ”แคสเปอร์สกี้”
อุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่ายทรงประสิทธิภาพทั้ง 4 รุ่นใหม่ล่าสุดจากเอซุสเปิดตัวพร้อมด้วยชุดโปรแกรมแอนตี้ไวรัสจากแคสเปอร์สกี้ โดยในกล่องประกอบด้วยซีดีลงโปรแกรมและรหัสติดตั้งโปรแกรม เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าและแสดงความขอบคุณแก่ลูกค้าผู้ซื้อสินค้าเครือข่ายไร้สายของเอซุสในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเอซุสและแคสเปอร์สกี้มอบโปรแกรมแอนตี้ไวรัสแบบเต็มรูปแบบแก่ผู้ซื้อเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความเร็วในการเล่นอินเตอร์เน็ตพร้อมๆ กับการรักษาความปลอดภัยให้การใช้งานของผู้บริโภคมีความเป็นส่วนตัวและได้รับการปกป้องที่ดียิ่งขึ้น ให้การเชื่อมต่อที่ดีกว่า รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
อุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่ายมาตรฐานชั้นยอดจากเอซุสที่ร่วมกับโปรโมชั่นนี้คือโมเด็มเราเตอร์รุ่น RT-N56U, RT-N66U และ DSL-N55U โดยทั้งสี่รุ่นนี้เปิดโอกาสให้ผู้ซื้อได้สัมผัสกับประสบการณ์การท่องโลกอินเตอร์เน็ตด้วยความเร็วสูงสุด ควบคู่ไปกับฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยอันแข็งแกร่งจากโปรแกรมแอนตี้ไวรัสเวอร์ชั่น 2012 ฉบับสมบูรณ์จากแคสเปอร์สกี้ ช่วยให้ได้การเชื่อมต่อที่ปลอดภัยที่สุดในอุตสาหกรรมปัจจุบันระบบรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุมทุกรูปแบบ
โปรแกรมแอนตี้ไวรัส 2012 จากแคสเปอร์สกี้มอบปราการที่แข็งแกร่งเพื่อป้องกันไวรัสที่มีอยู่ในปัจจุบันและที่เพิ่งเกิดใหม่ ด้วยการอัพเดตจากฐานข้อมูลอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ใช้งานได้รับความปลอดภัยในทุกเวลาที่ออนไลน์ ช่วยป้องกันมัลแวร์หลากหลายชนิด พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพของพีซีด้วยระบบจัดการทรัพยากรอย่างชาญฉลาด นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความสามารถในการประมวลผลให้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยโปรแกรมแอนตี้ไวรัสของแคสเปอร์สกี้นี้เป็นชุดโปรแกรมชั้นนำสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปและเป็นที่ยอมรับในวงการระดับโลกเสมอมาในเรื่องของประสิทธิภาพและความปลอดภัย
สุดยอดสินค้าเน็ตเวิร์คกิ้งแบบไร้สายจากเอซุสที่ร่วมโปรโมชั่นนี้มีวางขายในจำนวนจำกัดที่ร้านตัวแทนจำหน่ายเอซุสทั่วประเทศ ดูข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ www.asus.co.th หรือพูดคุยผ่านทาง www.facebook.com/ASUS.DIY
เกี่ยวกับเอซุส
เอซุส ผู้ผลิตมาเธอร์บอร์ดที่มียอดขายและได้รับรางวัลมากที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในสามสุดยอดผู้นำจำหน่ายโน้ตบุ๊กระดับโลก ซึ่งเป็นองค์กรผู้นำในยุคดิจิตอลใหม่ เอซุสออกแบบและผลิตสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของครัวเรือน สำนักงาน และบุคคลทั่วไปในยุคดิจิตอลได้อย่างลงตัวด้วยสายผลิตภัณฑ์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นมาเธอร์บอร์ด กราฟิกการ์ด ออฟติคอลไดรฟ์จอภาพ คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป อีบ๊อกซ์ ออลอินวันพีซี โน้ตบุ๊ก เน็ตบุ๊ก แท็บเล็ต เซิร์ฟเวอร์ โซลูชั่นมัลติมีเดียและโซลูชั่นไร้สาย อุปกรณ์เครือข่ายและโทรศัพท์มือถือ ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมและคุณภาพ ทำให้เอซุสคว้ารางวัลถึง 3,886 รางวัลในปี 2011 และได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ด้วย Eee PCTM เอซุสมีพนักงานทั่วโลกกว่า 11,000 คน พร้อมทีมวิจัยและพัฒนาระดับโลกอันประกอบด้วยวิศวกรจำนวน 3,100 คน และเอซุสมี ผลประกอบการในปี 2011 ถึงกว่า 11,900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เกี่ยวกับแคสเปอร์สกี้
แคสเปอร์สกี้เชื่อว่าทุกคนควรมีอิสระในการใช้เทคโนโลยีอย่างคุ้มค่า โดยที่ไม่ต้องกังวลถึงการถูกโจมตีหรือด้านความปลอดภัย ทีมผู้เชี่ยวชาญการถอดรหัสของเราจึงมอบอิสระแก่ลูกค้าให้สามารถใช้ชีวิตในโลกไซเบอร์ได้อย่างไร้กังวลในเรื่องการโจรกรรมข้อมูลหรือทรัพย์สินส่วนตัวทางอินเตอร์เน็ต ด้วยระยะเวลากว่า 14 ปีแล้วที่ทีมงานแคสเปอร์สกี้ได้ทุ่มเทเพื่อการค้นคว้า วิเคราะห์ และต้านทานผู้บุกรุกระบบ ทีมของเราได้สั่งสมประสบการณ์และความรู้ด้านการจัดการเกี่ยวกับมัลแวร์ไว้อย่างโชกโชน และห้องปฏิบัติการของแคสเปอร์สกี้ถือเป็นหนึ่งในบริษัทพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยทั่วโลกที่โตเร็วที่สุด ในวันนี้บริษัทฯ ได้รั้งตำแหน่ง 1 ใน 4 ของสุดยอดผู้สร้างโปรแกรม Endpoint Security ของโลก และบริษัทฯจะพัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อก้าวขึ้นไปอีกขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำของวงการ ด้วยบทพิสูจน์ด้านการเติบโตในแต่ละภูมิภาคตามรายงานการเงินของบริษัทฯ ในปี 2011 ห้องปฏิบัติการของแคสเปอร์สกี้ทั่วโลกมีผลประกอบการเพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และมียอดขายรวมมากกว่า 600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ