กรุงเทพฯ--17 ส.ค.--คอร์ แอนด์ พีค
“ไอที ซิตี้” และชมรม CAB CLUB ร่วมกันจัดDigital Camera Expo 2004 งานแสดงเทคโนโลยีกล้องดิจิตอลครั้งยิ่งใหญ่ในรอบปี
ไอที ซิตี้ ศูนย์รวมสินค้าไอทีครบวงจร ร่วมกับชมรมผู้ประกอบการกล้องถ่ายภาพและอุปกรณ์ จัดงาน Digital Camera Expo 2004 งานแสดงเทคโนโลยีกล้องดิจิตอลครั้งยิ่งใหญ่ในรอบปี โดยนำเอานวัตกรรมกล้องดิจิตอลรุ่นใหม่ล่าสุดกว่า 200 รุ่นมาให้เลือกชม พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษมากมายในงาน ระหว่างวันที่ 27 สิงหาคม - 5 กันยายน 2547 ณ บริเวณลานกิจกรรมชั้น 1 ห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่า
นายจรัสพงศ์ เจนจรัสสกุล ประธานชมรมผู้ประกอบการกล้องถ่ายภาพและอุปกรณ์กล่าวว่า
งาน Digital Camera Expo 2004 ในฐานะตัวแทนของผู้นำเข้ากล้องถ่ายภาพ กล้องถ่ายภาพดิจิตอล และอุปกรณ์การถ่ายภาพ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากผู้ผลิต ประกอบด้วย สมาชิกทั้งสิ้น 13 บริษัท หรือ 17 แบรนด์สินค้า ว่า
“ การจัดงาน Digital Camera Expo 2004 ดังกล่าวครั้งนี้ เป็นที่ 3 นับตั้งแต่ครั้งแรกที่จัดในปี 2002 ชมรมเรามีความตั้งใจที่จะจัดงานยิ่งใหญ่เช่นนี้ทุกๆ ปี อย่างน้อยปีละครั้ง โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดงานนี้ เป็นเช่นเดียวกันกับวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งชมรม ได้แก่
1. เพื่อเผยแพร่ความรู้ ข่าวสาร นวัตกรรม ของกล้องถ่ายภาพ ให้กับผู้ร่วมค้า และผู้บริโภค โดยเฉพาะกล้องถ่ายภาพดิจิตอล ที่เป็นสินค้าใหม่ ซึ่งผู้บริโภคยังขาดความรู้ความเข้าใจในการใช้กล้องให้ได้ประโยชน์สูงสุดของการถ่ายภาพ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพเพื่อความบันเทิง หรือ เพื่อธุรกิจ
2. เพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจและตลาดกล้องถ่ายภาพ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องไปแนวทางที่ถูกต้อง กล่าวคือ ธุรกิจต้องมีกำไรพอเพียงเป็นพื้นฐาน ที่ทำให้ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย สามารถให้บริการก่อนและหลังการขายแก่ผู้บริโภคได้
การจัดงาน Digital Camera Expo 2004 ในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอเทคโนโลยี่ใหม่ๆ ให้กับผู้เข้าร่วมชมงานเท่านั้น แต่ยังเป็นการยืนยันเจตนารมณ์ ของผู้นำเข้ากล้องถ่ายภาพ ที่ต้องการส่งเสริมร้านค้าที่ได้รับการแต่งตั้งจากผู้นำเข้าที่ถูกต้อง และให้ลูกค้า หรือ ผู้บริโภคแยกแยะให้ออก ว่าร้านค้าใด เป็นร้านค้าที่ได้รับการแต่งตั้งจากผู้นำเข้าที่ได้รับการแต่งตั้งจากโรงงานผู้ผลิตโดยตรง ลูกค้าที่ซื้อกล้องถ่ายภาพและอุปกรณ์ จากร้านค้าที่ถูกต้อง จะมั่นใจได้ว่า ได้รับสินค้าที่ถูกต้อง มีอุปกรณ์ครบถ้วน ราคายุติธรรม ได้รับการอธิบายวิธีการใช้เบื้องต้นอย่างถูกวิธี จากร้านค้าที่ได้รับการอบรมโดยตรงจากผู้ผลิต การดูแลเอาใจใส่หลังการขาย การตอบข้อสงสัยในการใช้กล้องหรือโปรแกรมซอพแวร์ต่างๆ การอัพเกรดซอพแวร์ในกล้องใหม่ การรับประกันสินค้าการซ่อมแซมปรับแต่งกล้องเมื่อกล้องมีปัญหาฯลฯ ต่างๆ เหล่านี้ล้วนมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง มากกว่าที่ลูกค้าจะไปซื้อกล้องที่นำเข้ามาอย่างไม่ถูกต้องและขายในราคาถูก
สำหรับกล้องถ่ายภาพที่นำเข้ามาอย่างไม่ถูกต้องและขายในราคาถูกนั้น นอกจากจะเป็นการทำลายเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้ผู้บริโภคที่ซื้อโดยไม่ทราบความจริงต้องได้รับความเสียหาย ไม่ได้รับบริการหลังการขายที่สมบูรณ์ยังทำให้ผู้บริโภคอาจจะต้องรับโทษตามกฏหมายว่าด้วยการรับซื้อของผิดกฏหมายโดยไม่รู้ตัวอีกด้วย
ดังนั้น ชมรมจึงจัดทำตราเครื่องหมายของชมรมผู้ประกอบการกล้องถ่ายภาพและอุปกรณ์ หรือ Camera and Accessories Club ( CAB CLUB ) โดยจะจัดทำเป็นสติ๊กเกอร์ติดไว้ตามหน้าร้านหรือในร้านที่ขายกล้องของสมาชิกชมรม CAB CLUB พร้อมกับออกหนังสือรับรองจากชมรม เป็นการรับรองการขายสินค้าที่นำเข้าอย่างถูกต้องโดยสมาชิกชมรมกว่า 13 บริษัท เป็นผู้ให้การรับรอง ชมรมฯ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคทุกท่าน กรุณาซื้อสินค้าในร้านค้าที่มีเครื่องหมายของชมรม CAB CLUB เท่านั้น เพื่อประกันความผิดพลาดที่เกิดจาการซื้อกล้องจากร้านที่ผิด
สำหรับรายละเอียดในการจัดงาน DIGITAL CAMERA EXPO 2004 ในครั้งนี้ โดยงานจะเริ่ม ในวันที่ 27 สิงหาคม ไปจนถึง วันที่ 5 กันยายนนี้ ในงานนี้ จะมีบริษัทผู้นำเข้ากล้องดิจิตอลและอุปกรณ์มาร่วมจัดงานถึง 13 บริษัท ประกอบไปด้วยกล้องถ่ายภาพดิจิตอล 17 แบรนด์ พริ้นเตอร์ต่างๆ ตลอดจนอุปกรณ์ประกอบการถ่ายภาพต่างๆ ครบครัน มีทั้งสินค้าที่มีจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน และ ยังมีการแสดงสินค้าใหม่ที่ยังไม่มีจำหน่าย เพื่อให้ผู้สนใจได้ชม สอบถามข้อสงสัยจากผู้เชี่ยวชาญของแต่ละบริษัท ก่อนการตัดสินใจ ซื้อได้จากร้านค้าที่ได้รับการแต่งตั้งจากผู้นำเข้าโดยตรง ที่มีเครื่องหมายชมรม CAB CLUB ติดแสดงอยู่หน้าร้าน หรือ ในร้าน ภายในห้างพันธ์ทิพย์พลาซ่าประตูน้ำนี้
ในการจัดงานครั้งนี้ ชมรมฯต้องขอขอบพระคุณบริษัทไอทีซิตี้จำกัด ( มหาชน ) ที่กรุณาดำเนินการและจัดการทุกสิ่งทุกอย่างจนกระทั่ง ออกมาเป็นงาน DIGITAL CAMERA EXPO 2004 นี้
ตลาดกล้องดิจิตอลในปี 2547
ตลาดกล้องดิจิตอล ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้บริโภคอย่างมากมาย เมื่อเปรียบเทียบในปี 2545 ซึ่งมีมูลค่าตลาดรวมเป็นจำนวนตัวเพียงแค่ 90,000 เครื่อง (เก้าหมื่นเครื่อง) หรือคิดเป็นมูลค่า 3,000 ล้านบาท ( สามพันล้านบาท ) และตลาดในปี 2546 ที่มีมูลค่าตลาดรวมเป็นจำนวนตัว ประมาณ 260,000 เครื่อง ( สองแสนหกหมื่นเครื่อง ) หรือ ประมาณ 5,000 ล้านบาท ( ห้าพันล้านบาท )
สำหรับในปี 2547 นี้ ทางชมรมฯ ได้มีการประมาณการตัวเลขตลาดโดยรวม ด้วยการรวบรวมตัวเลขจากสมาชิกผู้นำเข้ากล้องแต่ละบริษัทเข้าด้วยกัน ทำให้มีตัวเลขที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงที่สุด ตัวเลขนี้รวบรวมเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยประกอบด้วยตัวเลขยอดขายจริงใน 6 เดือนแรก รวมกันกับตัวเลขประมาณการใน 6 เดือนหลัง ถึงสิ้นเดือนธันวาคม ปีนี้ ซึ่งผลสรุปตัวเลขดังกล่าวนั้น มีตัวเลขประมาณการมูลค่าตลาดรวมเป็นจำนวนตัว เท่ากับ 600,000 ( หกแสนเครื่อง ) หรือ ประมาณ 7,000 ล้านบาท ( เจ็ดพันล้านบาท ) ซึ่งมีมูลค่าใกล้เคียงกันกับขนาดตลาดกล้องดิจิตอลของประเทศสิงคโปร์ และใหญ่กว่าตลาดกล้องประเทศมาเลเซีย
จากตัวเลขดังกล่าวจะเห็นได้ว่า ในปี 2546 เปรียบเทียบกับปี 2545 ตลาดโตขึ้น 189% และ ประมาณการปี 2547 นี้ 600,000 เครื่อง ก็โตขึ้นอีก 140% แสดงให้เห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าอัตราการเติบโตจะลดลง แต่ตัวเลขการเติบโตระดับนี้ ก็เป็นตัวเลขการเติบโตที่น่าสนใจ และค่อนข้างจะเป็นไปได้ยากในสินค้าหมวดอื่นในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้ ผู้ผลิตหลายๆ แบรนด์ได้ยกให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตเป็นอันดับที่ 2 รองมาจากประเทศจีนเลยที่เดียว
สำหรับระดับราคามีแนวโน้มลดลง 13 — 14% เปรียบเทียบกันกับ ระดับราคาในปีที่แล้วมา สาเหตุมาจากการผลิตที่มากขึ้น ทำให้ต้นทุนการผลิคลดลง ตลอดจนการพัฒนาเทคโนโลยี่ใหม่ ช่วยลดขนาดของกล้องลง ซึ่งก็ทำให้ต้นทุนลดลงอีกทางหนึ่ง แต่เป็นที่น่าสังเกตุว่า ราคากล้องในตลาดจะเริ่มเข้าสู่สภาวะคงที่ คือลดลงที่ละน้อย ไม่ลดลงอย่างรุนแรงเหมือน ช่วง 6 เดือนแรก ดังนั้นผู้บริโภคจึงไม่ต้องลังเล หรือ เป็นห่วงเรื่องราคาเปลี่ยนแปลงมากไป
แนวโน้มตลาดกล้องดิจิตอล
สำหรับแนวโน้มของเทคโนโลยี่ของตลาดกล้องดิจิตอลโดยรวม ยังคงแบ่งออกเป็นการเน้นการพัฒนาที่เห็นได้ชัดอยู่ 3 ประการ ได้แก่
ประการแรก การแข่งขันพัฒนาด้านขนาด และ ความละเอียดของ CCD และคุณภาพของเลนส์ เพิ่มให้ได้กล้องดิจิตอลที่ให้คุณภาพของภาพถ่ายที่ใกล้เคียงกับกล้องถ่ายภาพที่ใช้ฟิล์ม
ประการที่สอง การเพิ่มความหลากหลายของ Function การใช้งาน เช่น เพิ่มคุณสมบัติของการบันทึกภาพวีดีโอ ได้แก่ MPEG 4 ที่บันทึกวีดีโอได้นานขึ้นถึง 4 เท่า คุณภาพการบันทึกเสียง การสร้างภาพแอนนิเมชั่น การที่กล้องสามารถใช้แทนสแกนเนอร์ เป็นต้น
ประการที่สาม การเพิ่มขีดความสามารถ และ ความจุของแบตเตอรี่ ทำให้สามารถใช้งานกล้องได้นานขึ้นถ่ายภาพมากขึ้น หรือการพัฒนากล้องดิจิตอลให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น ใช้หลังงานไฟฟ้าน้อยลง ทำให้สามารถเพิ่มเวลาในการใช้งานได้มากขึ้น
นายบุญเจิด หาญวิชิตชัย รองผู้อำนวยการ ฝ่ายปฏิบัติการบริษัท ไอที ซิตี้ จำกัด(มหาชน) กล่าวถึงความร่วมมือระหว่างไอที ซิตี้ และชมรม Cab Club บริษัทผู้ค้ากล้องชั้นนำของไทยในการจัดงานดิจิตอล คาเมร่าเอ็กซ์โป 2004
การจัดงาน Digital Camera Expo 2004 เป็นการจัดงานของชมรมผู้ประกอบการกล้องถ่ายภาพและอุปกรณ์ โดยมี ไอทีซิตี้ เป็นผู้ดำเนินการจัดงานให้ การจัดงานครั้งนี้มีขึ้นเป็นครั้งที่ 3 และในฐานะที่ไอทีซิตี้เป็นซุปเปอร์สโตร์ทางด้านสินค้าไอที ได้เล็งเห็นว่าปัจจุบันความต้องการของผู้บริโภคไลฟ์สไตล์มากขึ้น มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในชีวิตประจำวันเพิ่มมากขึ้น ซึ่งกล้องดิจิตอลถือว่าเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ไฮเทคที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยคุณสมบัติการใช้งานที่ง่าย ไม่สลับซับซ้อ ขนาดเล็ก พกพาสะดวก และราคาไม่แพง ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ผู้บริโภคจะได้สัมผัสกับโลกแห่งการถ่ายภาพด้วยกล้องดิจิตอล เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด และกล้องดิจิตอลรุ่นใหม่ ๆ พร้อมทั้งพบโปรโมชั่นสินค้าราคาพิเศษที่น่าสนใจ ขอเชิญแวะมาเยี่ยมชมเทคโนโลยีกล้องดิจิตอลครบวงจรได้ในงาน Digital Camera Expo 2004 ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 27 สิงหาคม 2547 — 5 กันยายน ณ บริเวณลานกิจกรรมชั้น 1 ห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่า
ชมรมผู้ประกอบการกล้องถ่ายภาพและอุปกรณ์ (CAB Club)
ก่อตั้งขึ้นโดยความร่วมมือกันของผู้ค้ากล้องดิจิตอลในตลาดเมืองไทย ได้แก่ CASIO, CANON, CONTAX, FUJI, KODAK, KYOCERA, KONICA MINOLTA, NIKON, OLYMPUS, PENTAX, PANASONIC, SONY, SAMSUNG, SANYO, BRICA, BENQ และบริษัทผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ชั้นนำ ได้แก่ EPSON เพื่อร่วมกันพัฒนาตลาดการถ่ายภาพในระบบดิจิตอล โดยจุดประสงค์หลักของทางชมรมจะมุ่งพัฒนากลุ่มผู้ใช้ให้มีความรู้ความเข้าใจในระบบการถ่ายภาพดิจิตอล และสามารถขยายขอบเขตการใช้งานกล้องดิจิตอลได้มากยิ่งขึ้น
บริษัท ไอที ซิตี้ จำกัด (มหาชน)
บริษัท ไอที ซิตี้ จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2539 ประกอบธุรกิจค้าปลีก เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่อพ่วง รวมถึงสินค้าที่เกี่ยวข้องทางด้านไอทีแบบครบวงจร ภายใต้ชื่อทางการค้าว่า “ไอที ซิตี้” ซึ่งเป็นร้านค้าปลีกในรูปแบบไอทีซูเปอร์สโตร์ ภายใต้สโลแกนว่า “เมืองเทคโนโลยีครบวงจร” (The IT Superstore) โดยมีความหลากหลายของสินค้ากว่า 8,000 รายการ และมีนโยบายการขายสินค้าที่ชัดเจน โดยยึดหลักลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้ในราคาเดียวกันทุกสาขา บริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2546 ปัจจุบันมีสาขารวมทั้งสิ้น 20 แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
คุณบุษกร สนธิกร (นก) ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์
บริษัท คอร์ แอนด์ พีค จำกัด โทร. 0-2439-4600 ต่อ 8202
มือถือ 09-448-1221 อีเมล์ busakorns@corepeak.com--จบ--
--อินโฟเควสท์ (พห)--