สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพุธที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2555 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 5, 2012 10:21 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 ก.ย.--MTS Gold Futures ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,696 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,693 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 32.18 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,900 บาท กับ 25,000 บาท และกลับมาปิดที่ 24,900 บาท กับ 25,000 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 2,185คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 4,495 คู่สัญญา และSilver Futures อยู่ที่ 106 คู่สัญญา OpenInterest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 1.04 % แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 2.56 % Silver Futures เพิ่มขึ้น 3.03 % GFV12 ปิด 25,210 บาท และ GFZ12 ปิด 25,330 บาท GF10V12 ปิดที่ 25,220 บาท GF10Z12 ปิดที่ 25,330 บาท SVV12 ปิดที่ - และ SVZ12 ปิดช่วงกลางคืนที่ - สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 8.4 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,696 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น97.8 เซนต์ ปิดที่ระดับ 32.411 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,293.14 ตัน (ซื้อเพิ่ม 3.62 ตัน ) น้ำมัน NYMEX ปิดร่วงลง 1.17 เซนต์ ปิดที่ระดับ 95.30 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 54.90 จุด ปิดที่ระดับ 13,035.94 จุด Ratio Gold / Silver 52 เท่ากับ ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ TheBullionDesk, Reuters, Infoquest และ TheGuardian ราคาทองคำมีปรับตัวสูงขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยไปทำจุดสูงสุดในรอบ 5 เดือนครึ่ง หลังการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ISM Manufacturing PMI ประจำเดือนสิงหาคมออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ระดับ 49.6 ซึ่งมีการคาดการณ์ไว้ที่ 50.0 และต่ำกว่าระดับก่อนที่ 49.8 ซึ่งได้ยกระดับความคาดหวังในเรื่องมาตรการ QE3 มากขึ้น CME Group กล่าวในรายงานความเห็นของตลาดว่า ตลาดทองคำสามารถปรับตัวสูงขึ้นได้ต่อเนื่องจากวันศุกร์ ด้วยในช่วงบ่ายราคาทองคำไปทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบกว่า 5 เดือน อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเชิงลบจากภายนอกตลาดจะเห็นได้จากเทรดเดอร์หลายรายเข้ามามีอิทธิพลต่อราคาในช่วงกลางตลาด โดยความคาดหวังในเรื่องการผ่อนคลายการเงินรอบใหม่ของสหรัฐ จีน และยูโรโซนยังคงถูกให้เป็นปัจจัยสนับสนุนหลักๆ ของตลาดทองคำในช่วงเมื่อวานนี้ นักวิเคราะห์หลายรายกล่าวว่า ประเทศอื่นๆ อาจมีการผ่อนคลายนโยบายการเงินเช่นกัน ซึ่งจะเป็นผลดีต่อราคาทองคำ โดยล่าสุดตัวเลขภาคการผลิตของจีนออกมาต่ำกว่าที่คาดเมื่อวันจันทร์ และการคาดการณ์ในเรื่องการลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในเดือนนี้อาจไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ ในขณะที่นายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบีได้กระตุ้นความคาดหวังเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเช่นกัน โดยระบุว่าการเข้าซื้อพันธบัตรระยะสั้นของอีซีบีจะไม่เป็นการฝ่าฝืนกฎของสหภาพยุโรป เทรดเดอร์ต่างๆ จะมุ่งความสนใจไปที่การตัดสินใจในเรื่องอัตราดอกเบี้ยของสหภาพยุโรปในวันพฤหัสบดี และการประกาศตัวเลข Non-farm payrolls ของสหรัฐในคืนวันศุกร์ สำหรับตลาดทองคำแท่งที่สำคัญของอินเดีย ประธานสมาคมค้าทองคำแท่งกรุงบอมเบย์คาดว่า ราคาทองคำจะสามารถแตะระดับ 35,000 รูปีต่อ 10 กรัมได้ในช่วงไม่กี่เดือนที่จะมาถึง โดยยังคงมีปัญหาจีดีพี ซึ่งเป็นปัญหาการเติบโตของเศรษฐกิจอินเดีย ปัญหาปริมาณความต้องการทองคำล้วนเป็นปัจจัยทั้งหมดที่ผลักดันให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น นายจอร์จ เจโร นักวิเคราะห์จาก อาร์บีซี แคปปิตอล มาร์เก็ต กล่าวว่า ในส่วนปัจจัยทางเทคนิคของตลาดทองคำ การที่ราคาสามารถขึ้นไปใกล้ระดับ 1,700 เหรียญได้ในปลายสัปดาห์นี้อาจมีการดึงดูดเทรดเดอร์ต่างๆ ที่จะมีการเข้าซื้อหลังจากปริมาณการซื้อขายสูงขึ้น Open Interest สูงขึ้น และ Moving Averages สูงขึ้น ราคาทองคำและซิลเวอร์พุ่งขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบหลายเดือน เนื่องจากนักลงทุนเข้าร่วมลงทุนในกลุ่มโลหะมีค่า โดยมีเป้าหมายเพื่อ hedging กับความเสี่ยงในเรื่องภาวะเงินเฟ้อที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยสัญญาซิลเวอร์ฟิวเจอร์สพุ่งสูงขึ้นเกือบ 3% ในช่วงต้นตลาดทำจุดสูงสุดในรอบ 4 เดือนครึ่งที่ระดับ 32.38 เหรียญ/ออนซ์ ก่อนที่จะปรับตัวลดลงเล็กน้อยลงมาที่ระดับ 32.21 เหรียญในช่วงเวลาประมาณ 01.31 น. ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 32.411 เหรียญ ในขณะที่สัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สส่งมอบเดือนธันวาคมปรับตัวสูงขึ้น 8.4 เหรียญ หรือ 0.5% ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,696.5 เหรียญ หลังจากขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนที่ระดับ 1,699.6 เหรียญ อย่างไรก็ตาม ตลาดทองคำของเอเชียมีการเทขายทำกำไรเป็นช่วงๆ เนื่องจากราคาเข้าใกล้ระดับสำคัญที่ 1,700 เหรียญ เมื่อวานนี้มีการประชุมกลุ่มผู้นำในยูโรโซน ประกอบด้วยนายยานนิส สตูนาราส รัฐมนตรีคลังกรีซ นายโวล์ฟกัง ชอยบอล รัฐมนตรีคลังของเยอรมนี ซึ่งนายสตูนาราสของกรีซมีการเสนอแผนการตัดลดงบประมาณ 1.15 หมื่นล้านยูโร และการขอขยายระยะเวลามาตรการรัดเข็มขัดออกไปอีก 2 ปี ซึ่งทางเยอรมนีมีการแถลงการณ์ออกมาภายหลังว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ กรีซต้องปฏิบัติตามสัญญาผูกมัด และเยอรมนียังคงต้องรอรายละเอียดเนื้อหาที่ทางกลุ่มทรอยก้าประเมินเศรษฐกิจ ของกรีซก่อนที่จะตัดสินในว่ากรีซจะได้รับระยะเวลาเพิ่มเติมหรือไม่ ข่าวที่ว่ากลุ่มเจ้าหนี้ของกรีซ หรือกลุ่มทรอยก้าจะมีการเข้าทำงานประเทศกรีซเป็นเวลา 6 วันได้ดึงดูดความสนใจทางยุโรปขึ้นมาในช่วงค่ำคืนวานนี้ ซึ่งมีข้อเสนอจากกลุ่มทรอยก้าเพื่อขอปฏิรูปตลาดแรงงานที่ได้ถูกส่งไปยังรัฐบาลของกรีซเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ เมื่อวานยังมีการประชุมกันระหว่างนายมาริโอ มอนติ นายกรัฐมนตรีอิตาลี และนายฟรังซัวร์ ออลลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศสเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ ซึ่งทางนายมอนติกล่าวว่า อียูต้องยอมรับว่า ประเทศต่างๆ ที่ได้ปฏิบัติตามสัญญาควรได้รับการช่วยเหลือด้วยการกระจายพันธบัตร ในขณะที่นายออลลองด์กล่าวว่า กลุ่มผู้นำอียูควรตกลงยอมรับในเรื่องการแก้ไขปัญหาของกรีซและสเปนในการประชุมอียูซัมมิทเดือนตุลาคม ซึ่งบทบาทของสถาบันอียู รวมไปถึงอีซีบีต้องมีการตัดสินใจดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อลดอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน - (21.00) ISM Manufacturing Prices ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 49.8 คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ 50.0 ตัวเลขจริงที่ออกมาอยู่ที่ระดับ 49.6 ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ - German 10-y Bond Auction วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold — ราคาทองคำยังเคลื่อนไหวในทิศทาง Sideway ในระยะสั้นๆ มีกรอบแนวต้านด้านบนที่ระดับ 1,700 เหรียญ แนวรับด้านล่างอยู่ที่ระดับ 1,690 เหรียญ เป็นระยะสั้นรายวัน และมีแนวรับที่ระดับ 1,680 เหรียญเป็นแนวรับรอง ราคาทองคำยังเคลื่อนไหวตามตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวานที่ออกมาไม่ดีนัก ทำให้มีการทดสอบแนวต้านด้านบนที่บริเวณ 1,700 เหรียญเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน อย่างไรก็ดียังมีแรงเทขายทำกำไรอย่างหนาแน่น ทำให้ราคายังไม่สามารถเคลื่อนผ่าน 1,700 เหรียญไปได้ ส่วนใหญ่มีการซื้อขายบริเวณ 1,695 เหรียญบวกลบ คาดว่าราคาทองคำรอข่าววันศุกร์ด้วยการประกาศตัวเลข Non-farm payrolls ของสหรัฐสำหรับการเคลื่อนไหวมากกว่า Gold Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,120บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,320 บาท Gold Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,240บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,440 บาท Silver Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 1,010 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,040 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade) เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,685 — 1,695 เหรียญ โดยยังแนะนำให้ขายและซื้อสลับกันเมื่อชนแนวรับหรือแนวต้านเพื่อทำกำไร นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade) ทยอยเข้าช้อนซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวหรือลงมาบริเวณแนวรับ นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง เป็นการเข้าซื้อต่อเนื่อง โดยที่ให้พอร์ทประมาณ 20-30% บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ