ก.พลังงาน จับมือก.คมนาคม เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในภาคขนส่ง หวังมัดใจให้ประชาชนร่วมมือตามมาตรการประหยัดพลังงานชาติ

ข่าวทั่วไป Wednesday August 18, 2004 11:44 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 ส.ค.--สนพ.
จากการประชุมร่วมกันระหว่างกระทรวงพลังงานและกระทรวงคมนาคมเพื่อกำหนดมาตรการประหยัดพลังงานในภาคขนส่ง ที่มีนายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ประชุมมีผลสรุปว่ามาตรการประหยัดพลังงาน โดยเฉพาะการประหยัดน้ำมัน ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลจะต้องรณรงค์ประชาชนให้ความร่วมมือมากที่สุด เพื่อลดผลกระทบจากราคาน้ำมันที่มีความจำเป็นต้องปรับเพิ่มสูงขึ้นตามราคาในตลาดโลก
ทั้งนี้ ในการหารือระหว่างกระทรวงพลังงาน และกระทรวงคมนาคมวันนี้(17 ส.ค.47 ) เป็นการหาแนวทางเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ทั้งในภาคขนส่งสินค้า เพื่อประหยัดการใช้น้ำมันดีเซล และภาคขนส่งคน เพื่อประหยัดการใช้น้ำมันเบนซิน ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในภาคคมนาคมขนส่งของกระทรวงพลังงาน และยุทธศาสตร์การเพิ่มการใช้ประโยชน์จากระบบโครงข่ายคมนาคมขนส่งที่มีอยู่ และยุทธศาสตร์การผสานและเชื้อมโยงโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนและระบบขนส่งสาธารณะทั้งคนและสินค้าของกระทรวงคมนาคม
ทั้งนี้ มาตรการลดการใช้น้ำมันดีเซลในการขนส่งสินค้า จะดำเนินการสนับสนุนกรมขนส่งทางบกจัดระบบขนส่งสินค้า เพื่อลดการเดินรถเที่ยวเปล่า โดยตั้งศูนย์ ศูนย์Call Center ระบบเว็บไซด์ รวบรวมข้อมูลความต้องการว่าจ้างและความต้องการรับจ้างการขนส่งในแหล่งเดียว ซึ่งมีเป้าหมายลดรถเที่ยวเปล่าได้ 7.82 ล้านเที่ยวต่อปี คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายใน 2 เดือนแนวทางการเปลี่ยนจากน้ำมันดีเซลมาใช้ ก๊าซธรรมชาติเหลวหรือ CNG โดยจะร่วมกับ สมาคมขนส่งสินค้า เปลี่ยนรถหัวลาก 3 ล้านตู้ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปลี่ยนหัวรถจักร ใช้ก๊าซธรรมชาติเหลวเป็นเชื้อเพลิงแทน ซึ่งได้มีการทบสอบกับเครื่องยนต์แล้ว ว่าไม่มีผลกระทบแต่อย่างไรมาตรการลดการใช้น้ำมันเบนซิน ในการขนส่งคน เพื่อลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว และสนับสนุนให้เกิดการใช้รถสาธารณะเพิ่มขึ้น กระทรวงพลังงานได้สนับสนุนการจัดระบบการจอดรถ (Park&ride) เพื่อลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลในเขตที่มีระบบราง วิ่งผ่าน กระทรวงพลังงานได้สนับสนุนค่าปรับพื้นที่สถานีหมอชิต และบางซื่อ ให้กรุงเทพมหานคร จำนวน 17 ไร่ พื้นที่จอดรถ 1,500 คัน ซึ่งจะนำทหารช่างมาดำเนินการโดยเร็วที่สุด และการรถไฟแห่งประเทศไทย จำนวน 10 ไร่ พื้นที่จอดรถ 2,000 คัน คาดว่าจะเปิดใช้ได้ภายใน 90 วัน นอกจากนี้ รถไฟฟ้าลอยฟ้า(บีทีเอส) รถไฟฟ้ามหานคร(รฟม.) และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) จะเร่งหาพื้นที่ Park&ride เพิ่มเติมสนับสนุนบัตรใบเดียวโดยสารรถมวลชนเชื่อมต่อได้หลายระบบ โดยจะร่วมกับสนข. พิจารณานำระบบตั๋วร่วมมาใช้ในระบบขนส่งมวลชน เพื่ออำนวยความสะดวก
ในการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้าใต้ดินของรฟม. กับรถไฟฟ้าลอยฟ้าในระยะแรก โดยคำนึงถึงระบบอื่นๆ เพิ่มเติมในอนาคตด้วย และการส่งเสริมลดราคาและจัดสมนาคุณพิเศษ ในช่วงเวลาเร่งด่วนดำเนินการร่วมกับ บีทีเอส รฟม. รฟท. ขสมก. เรือด่วน และสนข. จัดระบบ ขนส่งรถตู้บริการรับช่วงต่อจากสถานีรถไฟ และขนส่งมวลชน การจัดระบบโครงข่ายเข้าออกเมืองอย่างเพียงพอ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ที่เดินทางจาก ชานเมือง และปริมณฑล
สำหรับในช่วงสั้นที่ระบบขนส่งสาธารณะระบบรางยังไม่สมบูรณ์ จะเร่งปรับปรุงการบริหารของรถเมล์ให้ดีขึ้น ทั้งจำนวนเที่ยววิ่งที่มากขึ้น และปรับปรุงสภาพรถให้ดีขึ้น สะอาด และสะดวกรวมทั้งการให้ทางพิเศษกับรถยนต์ที่มีคนนั่ง 3 ขึ้นไป โดยกรมการขนส่งทางบก และสนข. พิจารณา ความเป็นไปได้ในการอนุญาติใช้ไหล่ทางถนน เปิดเป็นเส้นทางพิเศษ สำหรับรถยนต์ที่มีผู้นั่งตั้งแต่ 3 คนการบำรุงรักษาเครื่องยนต์ จะดำเนินการปรับปรุงกฎหมายให้กรมควบคุมมลพิษ เพิ่มอำนาจแก่เจ้าหน้าที่ ดำเนินการตรวจรถควันดำ หรือลงโทษ ปรับปรุงเครื่องวัดให้ทันสมัย และเพียงพอต่อจราจร และกทม. นอกจากนี้จะร่วมกับ กรมขนส่งทางบก ตำรวจจราจร เคร่งครัดต่อการตรวจจับรถควันดำและลงโทษ โดยกระทรวงพลังงานจะดำเนินการจัดกิจกรรมให้ประชาชนเห็นความสำคัญและใส่ใจต่อการบำรุงรักษารถยนต์ นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานจะร่วมกับ กทม. และผู้ประกอบการร้านค้าเอกชน เพื่อร่วมกันหารือถึง กรมการขนส่งทางบกเร่งปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบภาษีป้ายรถยนต์ให้สอดคล้อง กับการลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์ที่มี่ผลบังคับใช้แล้ว รวมทั้งดำเนินการลดภาษีป้าย สำหรับรถที่สามารถลดใช้พลังงานลงกึ่งหนึ่ง--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ