กรุงเทพฯ--6 ก.ย.--อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น
กรมส่งเสริมการส่งออก เดินหน้านโยบายเชิงรุกบุกตลาดอาเซียน ชูธงยุทธศาสตร์ส่งเสริมผู้ประกอบการไทยเร่งพัฒนาศักยภาพโลจิสติกส์เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลกำไรทางธุรกิจ ปูทางเตรียมความพร้อมจัดงานใหญ่ TILOG 2012 เปิดเวทีแสดงนวัตกรรมสินค้าและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับระบบโลจิสติกส์และ ซัพพลายเชนอย่างครบวงจร เล็งกระตุ้นภาคเอกชนร่วมหาแนวทางปรับปรุงคุณภาพด้านโลจิสติกส์ พร้อมต่อยอดโอกาสในการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจที่เข้มแข็ง เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันให้สินค้าไทยขยายตัวออกสู่ตลาดโลกมากยิ่งขึ้น
นางอัญชลี พรหมนารถ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นในปี 2558 ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้เกิดการเชื่อมโยงการค้า การลงทุน และการจ้างงานทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค จึงเป็นโอกาสทางการตลาดมูลค่ามหาศาลสำหรับผู้ประกอบการไทยและกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนที่ต้องการส่งออกสินค้าและบริการไปยังตลาดอาเซียนเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้การแข่งขันด้านการค้าระหว่างประเทศมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นด้วย ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยต้องปรับตัวเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับการเปิดเสรีการค้าอาเซียน โดยเฉพาะในแง่ของการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ซึ่งเป็นเครื่องมือในการดำเนินธุรกิจที่จะช่วยสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันและผลักดันโอกาสในการช่วงชิงตลาดส่งออกได้มากขึ้น
กรมส่งเสริมการส่งออกจึงได้ดำเนินนโยบายในการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพโลจิสติกส์เพื่อยกระดับขีดความสามารถเชิงรุกให้กับผู้ประกอบการไทยอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมกับสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย และสมาคมผู้ประกอบธุรกิจวัตถุอันตราย จัดงานแสดงสินค้าโลจิสติกส์ 2555 หรือ The 9th Thailand International Logistics Fair 2012 (TILOG 2012) ขึ้นระหว่างวันที่ 19 - 22 กันยายนนี้ ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา เพื่อเป็นเวทีในการแสดงนวัตกรรมด้านโลจิสติกส์ระดับนานาชาติ พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ผลิต ผู้ส่งออกและผู้นำเข้า ตลอดจนผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ได้พบปะเจรจาการค้าและสร้างเครือข่ายโลจิสติกส์ที่แข็งแกร่งเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลกำไรทางธุรกิจอย่างเป็นระบบ สนับสนุนให้สินค้าไทยขยายตัวออกสู่ตลาดโลกมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นการเผยแพร่ศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางด้านการค้าและระบบโลจิสติกส์ของภูมิภาคอาเซียน รวมทั้งสามารถเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานในการขับเคลื่อนสินค้าไปยังตลาดโลกอีกด้วย
ความโดดเด่นของงาน TILOG 2012 ในครั้งนี้เป็นการรวบรวมเทคโนโลยี นวัตกรรมสินค้าและบริการจากบริษัทชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศมาจัดแสดงอย่างครบวงจร ครอบคลุมกลุ่มผู้ให้บริการโลจิสติกส์ ผู้ผลิตซอฟต์แวร์ ระบบไอที รวมถึงเครื่องมือและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบโลจิสติกส์ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมพิเศษที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้ประกอบการที่กำลังมองหาแนวทางในการลดต้นทุนและเพิ่มผลกำไรให้กับธุรกิจ อาทิ นิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมด้านโลจิสติกส์ การจัดแสดงข้อมูลการเลือกใช้เส้นทางขนส่งในกลุ่มประเทศ ASEAN+3 และ ASEAN +6 การสัมมนาเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการลดต้นทุนระบบโลจิสติกส์ นิทรรศการ Green Logistics ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจอย่างมากในแวดวงการค้าโลก การสัมมนา Symposium : ASEAN Trade Logistics Connectivity รวมทั้งการเปิดโลจิสติกส์ คลินิก โดยเชิญ 60 กูรูผู้เชี่ยวชาญของเมืองไทย มาร่วมให้คำปรึกษา ให้ความรู้ ความเข้าใจ และแนะนำแนวทางในการแก้ไขปัญหาด้านโลจิสติกส์อย่างเจาะลึกครบทุกประเด็นที่ผู้ประกอบการสนใจ
“ระบบโลจิสติกส์ที่มีคุณภาพถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ นับเป็น กลยุทธ์เชิงรุกที่มีส่วนช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน และเสริมสร้างภาพลักษณ์ด้านการตลาดให้น่าเชื่อถือโดดเด่นเหนือคู่แข่ง อีกทั้ง การบริหารงานที่สามารถลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ยังช่วยเพิ่มผลกำไรให้กับธุรกิจได้อย่างยั่งยืน ในงาน TILOG 2012 ครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสอันดีที่ผู้ผลิต ผู้ส่งออกจะได้มาพบคำตอบในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาระบบโลจิสติกส์ รวมทั้งพบปะเจรจาการค้าและสร้างเครือข่ายทางธุรกิจใหม่ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสการค้าไปยังตลาดโลกและอาเซียนได้มากขึ้น” นางอัญชลี กล่าว
สำหรับผู้ส่งออก ผู้นำเข้า และผู้ประกอบการที่สนใจข้อมูลเกี่ยวกับงาน The 9th Thailand International Logistics Fair 2012 (TILOG 2012) สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.logisticsfair.com, www.thaitradefair.com และ http://www.facebook.com/TilogThailandInternationalLogisticsFair หรือสายตรงผู้ส่งออก 1169