กรุงเทพฯ--18 ส.ค.--hermes
ผลการดำเนินงาน “กลุ่มสิทธิผล” สดใส ครึ่งปีแรกเฉียด 13,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16%
เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยทุกธุรกิจขยับขึ้นทั้งหมด ธุรกิจเหล็กเติบโตมากที่สุดถึง 46% รองลงมาคือธุรกิจการตลาด และพลังงาน 39% และ 35% ตามลำดับ มั่นใจผลการดำเนินงานทั้งปีเกินเป้าหมาย ทะลุถึง 26,000 ล้านบาท
นายทนง ลี้อิสสระนุกูล กรรมการผู้จัดการกลุ่มสิทธิผล ผู้นำด้านอุตสาหกรรมผู้ผลิตชิ้นส่วน
และอะไหล่ยานยนต์รายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยว่าเฉพาะครึ่งปีแรก (มกราคม-มิถุนายน) ของปี 2547 นี้
กลุ่มสิทธิผล มีผลการดำเนินงานรวมทั้งสิ้น 12,900 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 15.7%
“ผลการดำเนินงานของกลุ่มสิทธิผล ถือว่าน่าพอใจมากเพราะเพียงครึ่งปีสามารถทำรายได้เกินกว่าครึ่งหนึ่งของเป้าหมายทั้งปีที่ได้วางไว้โดยกลุ่มสิทธิผลได้กำหนดเป้าหมายการดำเนินงานในปี 2547 ไว้ที่ 25,000 ล้านบาท มั่นใจว่าถ้าไม่มีปัจจัยแทรกซ้อนผลการดำเนินงานรวมของปีนี้จะทะลุเป้าหมายขึ้นไปอยู่ที่
26,000 ล้านบาท หรือสูงกว่าเป้าหมายไม่น้อยกว่าร้อยละ 4 และจะส่งผลให้ผลการดำเนินงานของปีนี้สูงกว่าปี 2546 ที่ได้ทำไว้ 22,300 ล้านบาท ถึง 18%
ปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จนี้ ได้แก่ การบริหารจัดการแหล่งวัตถุดิบความสามารถในการลดต้นทุนการผลิต และการจัดจำหน่ายการคาดการณ์สภาวะการตลาดและอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นทั้งตลาดในประเทศและตลาดส่งออก”นายทนงกล่าว
กลุ่มสิทธิผลประกอบธุรกิจหลัก 6 ประเภทโดยมีผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปีนี้แยกตามธุรกิจดังนี้ธุรกิจอุปกรณ์ส่องสว่างและชิ้นส่วนพลาสติก 5,500 ล้านบาทธุรกิจยาง 3,000 ล้านบาท ธุรกิจเหล็ก 1,600 ล้านบาทธุรกิจพลังงาน 1,400 ล้านบาท ธุรกิจการตลาด 1,200ล้านบาท และธุรกิจวิจัยและพัฒนา 200 ล้านบาท ทั้งนี้ธุรกิจของกลุ่มฯ ที่มีอัตราการเติบโตมากที่สุด 3อันดับแรก คือ ธุรกิจเหล็ก การตลาด และพลังงาน
โดยมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 46%, 39% และ 35% ตามลำดับ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
กรรมการผู้จัดการกลุ่มสิทธิผล กล่าวต่อไปว่า ทิศทางการดำเนินงานของกลุ่มสิทธิผลในช่วงครึ่งปีหลังนั้น สถานการณ์ของตลาดยานยนต์น่าจะมีแต่ปัจจัยบวก ทั้งนี้ สภาวะการตลาด และระบบภาษีทุกระบบก็เอื้ออำนวยต่อการเติบโตเช่นกัน และเชื่อว่าธุรกิจเหล็ก และพลังงานจะเป็นตัวแปรอย่างมากต่อผลการดำเนินงานในรอบครึ่งปีหลัง
ปัจจุบัน กลุ่มสิทธิผลมีบริษัททั้งสิ้น 26 แห่ง โดยบริษัทที่เป็นที่รู้จักกันดี เช่น บริษัท สิทธิผล
1919 จำกัด บริษัท ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า จำกัด (มหาชน)ซึ่งได้รับรางวัล Best Performance จากตลาดหลักทรัพย์(SET AWARDS) สองปีซ้อน บริษัท อีโนเวรับเบอร์(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัท โททาล ออยล์(ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ไออาร์ซี (เอเชีย) รีเสิร์ชจำกัด บริษัท ไดโด สิทธิผล จำกัด เป็นต้น.--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--