กรุงเทพฯ--7 ก.ย.--อีริคสัน
การวิจัยของอีริคสันเปิดเผยตัวเลขการเจริญเติบโตอย่างมากของตลาดอุปกรณ์สมาร์ทโมบายล์ และแสดงให้เห็นลักษณะในการใช้งาน ของผู้บริโภคในประเทศไทย
จำนวนผู้ใช้แท็บเล็ตในประเทศไทย คาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึงสี่เท่าตัว (จาก 2% เป็น 8%) ในระยะเวลาหกเดือนข้างหน้า และจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนน่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 25% #
ปัจจัยหลักที่กระตุ้นให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสมาร์ทโฟน คือ เพื่อใช้งานอินเตอร์เน็ททั่วไป เพื่อเข้าถึงบริการด้านการบันเทิง และเพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆได้อย่างทันท่วงที
จากการวิจัยพบว่า การใช้งานด้านการสื่อสาร (เช่น โทรศัพท์ผ่านอินเตอร์เน็ท, อีเมล, โซเชียลเน็ทเวิร์ค, การส่งข้อความ, และ VoIP เป็นต้น) รายการทีวี และวีดีโอ น่าจะเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมสูงสุดในอนาคตอันใกล้นี้ ส่วนการใช้งานด้านอื่น เช่น การโทรศัพท์แบบเห็นหน้า (video calling), push to talk, การแปลงเสียงเป็นข้อความ (speech-to-text), อีเมล, และการใช้งานอินเตอร์เน็ททั่วไป ถือได้ว่ามีการใช้งานที่เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวนี้น่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องและนักพัฒนาโมบายล์แอ็พพลิเคชั่นต่างๆ
ผลจากการวิจัยนี้ ถือเป็นการตอกย้ำว่าผู้ให้บริการจำเป็นต้องพัฒนาเครือข่ายของตน ให้พร้อมรองรับสมาร์ทโฟน ขยายพื้นที่ครอบคลุมให้ทั่วถึง เพื่อเพิ่มคุณภาพสัญญาณ ความเร็วในการรับส่งข้อมูล ความเสถียรของระบบ รวมทั้งความพร้อมเพื่อรับมือกับการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของการสื่อสารข้อมูลบนมือถือ ซึ่งถูกผลักดันโดยบริการประเภท non-voice ต่างๆ
# ตามข้อมูลที่ผู้ตอบแบบสอบถามแสดงความสนใจ
ผลการสำรวจโดย Ericsson ConsumerLab พบว่าผู้บริโภคในประเทศไทยให้ความสนใจกับอุปกรณ์มือถือมากขึ้น รวมทั้งมีการใช้งานบางประเภทที่ได้รับความนิยมสูงสุด
“ปัจจัยหลักที่กระตุ้นให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อแท็บเล็ต คือ เพื่อใช้งานอินเตอร์เน็ททั่วไป เพราะขนาดที่เหมาะแก่การพกพา และซื้อเพื่อใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ค ในขณะที่ปัจจัยหลักในการใช้สมาร์ทโฟน คือ เพื่อใช้งานอินเตอร์เน็ททั่วไป เพื่อเข้าถึงบริการด้านการบันเทิง และเพื่อรับข้อมูลอย่างทันต่อเหตุการณ์” นาย Afrizal Abdul Rahim หัวหน้าศูนย์ ConsumerLab แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และกลุ่มประเทศในมหาสมุทรแปซิฟิก กล่าว
ผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยให้ข้อมูลว่า ในปัจจุบันพวกเขาใช้สมาร์ทโฟนเพื่อใช้บริการ voice, SMS, และอินเตอร์เน็ททั่วไป เป็นส่วนใหญ่ แต่การใช้งานประเภทอื่นๆ เช่น การโทรศัพท์แบบเห็นหน้า (video calling), push to talk และ การแปลงเสียงเป็นข้อความ (speech-to-text) เป็นสิ่งที่น่าสนใจ และน่าจะเติบโตได้ดีที่สุดในอนาคต
สำหรับแอ็พพลิเคชั่นที่ได้รับความนิยมสูงสุด และสร้างแรงผลักดันให้ตลาดสื่อสารข้อมูลบนมือถือ ได้แก่ ด้านเอ็นเตอร์เทนเมนท์ ตามด้วยเกมส์ และการค้นหาข้อมูลทั่วไป
และเมื่อถูกถามว่าพวกเขาใช้แอ็พพลิเคชั่นบ่อยแค่ไหน ผู้ตอบแบบสอบถาม 15 เปอร์เซ็นต์ ให้ข้อมูลว่าพวกเขาใช้หลายครั้งต่อวัน, 14 เปอร์เซ็นต์ใช้อย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อวัน, และ 29 เปอร์เซ็นต์ใช้วันละหนึ่งครั้ง
เมื่อศึกษาถึงแอ็พพลิเคชั่นและการดาวน์โหลดที่น่าจะเป็นที่นิยมในอนาคต พบว่าบริการที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารยังคงเป็นที่นิยมสูงสุด ตามด้วยรายการทีวี และวีดีโอที่ขึ้นมาอยู่เป็นอันดับสาม
การแสดงความสนใจในแอ็พพลิเคชั่นเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ผู้บริโภคชาวไทยยังคงให้ความสำคัญกับบริการด้านการสื่อสารและเอ็นเตอร์เทนเมนท์เป็นหลัก ซึ่งผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่า ผู้ให้บริการเครือข่ายและผู้ให้บริการด้านการบันเทิง ควรให้ความสำคัญและเพิ่มการลงทุนในเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้มากขึ้น
“สำหรับผู้ให้บริการเครือข่าย ผลการสำรวจนี้ถือเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อการวางแผนพัฒนาโครงข่าย ซึ่งต้องรองรับการเจริญเติบโตของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต รวมทั้งแสดงให้เห็นประเภทของการใช้งานและบริการอันเป็นที่นิยมสำหรับการสื่อสารข้อมูลบนมือถือ และสำหรับผู้ค้าปลีก ผลการสำรวจยังชี้ให้เห็นถึงเหตุผลหลักในการตัดสินใจซื้ออุปกรณ์สื่อสารต่างๆอีกด้วย” นาย Afrizal กล่าว
เป็นที่คาดการณ์กันว่าโปรโมชั่นแบบเติมเงิน จะเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันการใช้งานสมาร์ทโฟนในประเทศไทยให้สูงขึ้น “ความคุ้มค่าของบริการถือเป็นสิ่งที่ลูกค้าในตลาดเติมเงินให้ความสำคัญมาก ดังนั้นโปรโมชั่นที่เหมาะสมจึงควรเป็นแพ็คเกจขนาดเล็ก กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในตลาดเติมเงินที่มี ARPU ต่ำนั้น คือการเสนอแพ็คเกจที่หลากหลาย ตรงกับลักษณะการใช้งานของลูกค้าให้มากที่สุด และในขณะเดียวกันต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าสามารถควบคุมการใช้จ่ายของตนเองได้ การแบ่งกลุ่มลูกค้าอย่างเหมาะสม และการสร้างพันธมิตรกับ content provider ถือเป็นสิ่งสำคัญในการสนับสนุนให้มีการใช้อินเตอร์เน็ทบนมือถือเพิ่มมากยิ่งขึ้น” นาย Afrizal กล่าว
นาย Joacim Damgard ประธานอีริคสันประเทศไทย กล่าวด้วยว่า “ผลการวิจัยนี้ยังแสดงให้เห็นว่าการเติบโตของตลาดในอนาคตจะถูกผลักดันโดยการใช้อินเตอร์เน็ทบนมือถือ และเหล่าผู้ให้บริการจะเตรียมพร้อมรับมือกับตลาดที่เติบโตรวดเร็วเช่นนี้ได้อย่างไร”
“ผู้ให้บริการต้องพร้อมพัฒนาเครือข่ายให้เหมาะสมกับการใช้งานผ่านสมาร์ทโฟน ขยายพื้นที่ครอบคลุมสัญญาณอย่างเพียงพอ เพื่อให้บริการได้ด้วยความเร็วสูงและมีเสถียรภาพ รวมทั้งต้องสามารถรองรับการเติบโตที่รวดเร็วของการใช้งานอินเตอร์เน็ทบนมือถือ ซึ่งถูกผลักดันด้วยบริการแบบ non-voice ประเภทต่างๆ” นาย Joacim กล่าว
Ericsson ConsumerLab ได้ทำการศึกษาแบบตัวต่อตัวกับกลุ่มตัวอย่างในประเทศไทย อายุ 16-60 ปี ซึ่งถือเป็นตัวแทนของประชากรจำนวน 16.8 ล้านคนในทางสถิติ นี่เป็นส่วนหนึ่งของการสำรวจโดย TNS ในกว่า 58 ประเทศ กับกลุ่มตัวอย่างรวมทั้งหมดถึง 47,577 คน Ericsson ConsumerLab มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี ในการศึกษาพฤติกรรมและการให้คุณค่า รวมไปถึงวิธีการแสดงออกและความคิดของผู้บริโภคที่มีต่อผลิตภัณฑ์และบริการ ICT ประเภทต่างๆ Ericsson ConsumerLab ยังให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาดและผู้บริโภคอีกด้วย
Ericsson ConsumerLab ได้รับความรู้จากการศึกษาผู้บริโภคทั่วโลก โดยการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างกว่า 100,000 คน ในกว่า 40 ประเทศ และในมหานครกว่า 15 แห่ง ในแต่ละปี ซึ่งถือเป็นตัวแทนประชากรกว่า 1.1 พันล้านคนในเชิงสถิติ มีการศึกษาทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ และได้ใช้เวลานับร้อยๆชั่วโมงในการสัมภาษณ์ใกล้ชิดกับผู้บริโภคจากหลากหลายวัฒนธรรม
และเพื่อให้เรามีความใกล้ชิดกับตลาดและผู้บริโภค Ericsson ConsumerLab จึงมีนักวิเคราะห์ในเกือบทุกภูมิภาคที่มีอีริคสันอยู่ ซึ่งทำให้เรามีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในตลาดและโมเดลของธุรกิจ ICT ทั่วโลก
ข้อมูลเพิ่มเติม:
ConsumerLab: www.ericsson.com/consumerlab
Emerging app culture http://www.ericsson.com/res/docs/2012/ericsson_emerging_app_culture.pdf
From Apps to everyday situations http://www.ericsson.com/res/docs/2011/silicon_valley_brochure_letter.pdf
เกี่ยวกับ Ericsson ConsumerLab — เสียงจากผู้บริโภค
Ericsson ConsumerLab ได้มุ่งมั่นศึกษาพฤติกรรมและทัศนคติของผู้บริโภคที่มีต่อผลิตภัณฑ์และบริการ ICT ด้านต่างๆ มานานกว่า 15 ปี โดยได้ให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีลักษณะเฉพาะทั้งในด้านการตลาดและแนวโน้มผู้บริโภค Ericsson ConsumerLab สามารถเข้าถึงข้อมูลความรู้ต่างๆได้ ผ่านโครงการศึกษาผู้บริโภค จากการสัมภาษณ์ผู้คนกว่า 100,000 รายในแต่ละปี ในประเทศต่างๆกว่า 40 ประเทศ และในเมืองใหญ่ๆกว่า 10 แห่ง ซึ่งถือว่าเป็นความคิดเห็นของผู้คนกว่า 1.1 พันล้านคน ในเชิงสถิติ โดยมีการศึกษาทั้งในเชิงปริมาณ (Quantitative Method) และในเชิงคุณภาพ (Qualitative Method) อย่างถี่ถ้วน โดยเราได้ใช้เวลาหลายร้อยชั่วโมงในการสัมผัสผู้บริโภคทั่วโลก จากหลากหลายวัฒนธรรม
และเพื่อให้เราได้ใกล้ชิดกับตลาดและผู้บริโภค Ericsson ConsumerLab มีนักวิเคราะห์ในเกือบจะทุกภูมิภาคทีมี ที่ทำการของบริษัท Ericsson อยู่ ซึ่งทำให้เรามีความเข้าใจแนวโน้มตลาดและธุรกิจ ICT ทั่วโลกอย่างลึกซึ้ง
บริษัทอีริคสันเป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีและการบริการ ด้านการสื่อสารโทรคมนาคมชั้นนำ เรากำลังเปิดทางเครือข่ายสังคมด้วยโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพแบบเรียลไทม์ที่ทำให้พวกเราทั้งหมดสามารถศึกษา ทำงานและใช้ชีวิตได้อย่างอิสระมากขึ้น ในสังคมที่ยั่งยืนทั่วโลก
การนำเสนอของเรารวมถึงการบริการ ซอฟต์แวร์และโครงสร้างพิ้นฐานภายในเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสำหรับบรรดาผู้ให้บริการระบบโทรคมนาคมและอุตสาหกรรมอื่นๆ ปัจจุบันการใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่านทางอุปกรณ์เคลื่อนที่มากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ของโลกผ่านทางเครือข่ายของบริษัทอีริคสันและเรายังสนับสนุนเครือข่ายของเหล่าลูกค้าที่ให้บริการมากกว่า 2 พันล้านราย
บริษัทมีการปฏิบัติการใน 180 ประเทศและว่าจ้างพนักงานมากกว่า 100,000 คน บริษัทอีริคสันก่อตั้งในปี 2419 โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ในปี 2554 บริษัทมีรายรับ 226.9 พันล้านโครน (35.0 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ๗ บริษัทอีริคสันเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ OMX ในสตอกโฮล์มและ NASDAQ ในนิวยอร์ก