กรุงเทพฯ--7 ก.ย.--ศศินทร์
ศาสตราจารย์เติมศักดิ์ กฤษณามระ ผู้อำนวยการสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า เมื่อ 32 ปี ที่ผ่านมานายบัญชา ล่ำซำ CEO ของธนาคารกสิกรไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมการสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีความคิดที่จะก่อตั้งสถานศึกษาด้านการบริหารธุรกิจ โดยใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อในการเรียนการสอนเพื่อผลิตนักบริหาร เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยในสมัยนั้น จึงได้ก่อตั้ง สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ หรือ GIBA (the Graduate Institute of Business Administration of Chulalongkorn University) ขึ้นในวันที่ 15 กันยายน 2525 ด้วยความร่วมมือระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับวิทยาลัยการจัดการ เคลลอกก์ แห่งมหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์น และวิทยาลัยวาร์ตัน แห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย
ต่อมาได้จึงได้กราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานชื่อสถาบันจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นศิริมงคลแก่สถาบัน ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานชื่อว่า “ศศินทร์ ” ซึ่งแปลว่า “ผู้เป็นใหญ่ในหมู่กระต่าย” และพระราชทานชื่ออาคารเรียนว่า “ศศปาฐศาลา” ส่วนอาคารหอพักให้เรียกว่า “ศศ นิเวศ” โดยเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2533 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้เสด็จพระราชดำเนินไปเป็นประธานในพิธีเปิดอาคารดังกล่าว
ศาสตราจารย์เติมศักดิ์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า การดำเนินงานด้านต่าง ๆ ของสถาบันบัณฑิตฯ ศศินทร์ ในรอบ 3 ทศวรรษที่ผ่านมา มีการพัฒนาด้านต่าง ๆ ทั้งได้รับความร่วมมือจากองค์กรและสถาบันการศึกษาชั้นนำระดับโลก รวมถึงการเปิดหลักสูตรการเรียนการสอนในหลักสูตรใหม่ ๆ เพิ่มเติม เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลกปัจจุบัน โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้สถาบันบัณฑิตฯ ศศินทร์เป็นที่ยอมรับในระดับสากลมากขึ้น ทั้งนี้การพัฒนาด้านต่าง ๆ ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมามีดังนี้
ทศวรรษที่ 1 (1982-1992 : Collaboration : การร่วมมือ )
ในช่วงแรกของการก่อตั้งสถาบันบัณฑิตฯ ศศินทร์ ในปี 2526 ได้เริ่มเปิดสอนหลักสูตร MBA เต็มเวลา เป็นภาษาอังกฤษเป็นแห่งแรกในประเทศไทย โดยความร่วมมือระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับ วิทยาลัยการจัดการ เคลลอกก์ แห่งมหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์น และวิทยาลัยวาร์ตัน แห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย และในปีต่อมา สถาบันบัณฑิตฯ ศศินทร์ ได้เปิดหลักสูตร Executive MBA หรือ MBA สำหรับนักบริหาร ขึ้นอีก 1 โปรแกรม
การดำเนินการเรียนการสอนในช่วง 10 ปีแรกนี้ สถาบันบัณฑิตฯ ศศินทร์ได้ให้ความสำคัญกับการสรรหาคณาจารย์ประจำมาสอนเพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งจัดให้มีโครงการแลกเปลี่ยนนิสิตศศินทร์กับมหาวิทยาลัยชั้นนำ คือ วิทยาลัยการจัดการ เคลลอกก์ แห่งมหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์น และวิทยาลัยวาร์ตัน แห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย เพื่อเปิดโอกาสให้นิสิตได้เปิดโลกทัศน์และเรียนรู้วิชาการต่างๆในต่างประเทศไปพร้อมๆกัน นอกจากนี้แล้วยังริเริ่มให้มีหลักสูตรการเรียน 3 สัปดาห์สำหรับผู้บริหาร หรือ SEP (Senior Executive Program )
ทศวรรษที่ 2 (1992-2002 : Diversification: ความหลากหลาย)
สำหรับช่วงปี 1992-2002 สถาบันบัณฑิตฯ ศศินทร์ ได้เปิดหลักสูตรประกาศนียบัตรการบริหารงานบุคคล และ และหลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาการจัดการบริหารงานบุคคล (M.Sc. in HRM) โดยร่วมมือกับ SOAS (School of Oriental and African Studies) มหาวิทยาลัย ลอนดอน เพื่อเสริมศักยภาพของหลักสูตรการบริหารงานบุคคล (HRM) ให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ และเพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสในการเรียนรู้ในต่างประเทศและเปิดโลกทัศน์ของนิสิต และหลักสูตร MBA Dual Degree program ร่วมกับ Schulich School of Business แห่งมหาวิทยาลัย ยอร์ค ใน แคนาดา
นอกจากนี้แล้วยังได้ก่อตั้งศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษา Sasin Management Consulting (SMC) โดยดำเนินงานวิจัยให้คำปรึกษากับองค์กรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ที่สำคัญยังได้จัดโครงการ Sasin-Kellogg Residential Program เพื่อให้นิสิต Executive MBA ไปศึกษาที่ Kellogg School of Management เป็นเวลา 1 สัปดาห์ (ปัจจุบันเพิ่มเป็น 2 สัปดาห์) รวมทั้งการจัดทำโครงการ The Bangkok Business Challenge เพื่อเปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาทั่วไปในประเทศไทยได้เรียนรู้ถึงการทำแผนธุรกิจต่างๆ
ทศวรรษที่ 3 (2002-2012 : Global Recognition : เป็นที่ยอมรับในระดับสากล)
สำหรับการก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 3 นั้น สถาบันบัณฑิตฯ ศศินทร์ เป็นสถาบันแห่งแรกและแห่งเดียวในไทยที่ได้รับการรับรองคุณภาพมาตรฐานการศึกษาระดับโลกจาก 2 สถาบันที่มีชื่อเสียงของโลก ได้แก่ AACSB (The Association to Advance Collegiate Schools of Business) จากสหรัฐอเมริกา และ EQUIS (European Quality Improvement System) จากภาคพื้นยุโรป ทำให้ศศินทร์ก้าวขึ้นเป็นสถาบันการศึกษาบริหารธุรกิจระดับแนวหน้าของภูมิภาคเอเชีย ตามวิสัยทัศน์ที่ว่า “To be at the forefront of graduate management study in the Asia Pacific region and among leading international management institutions.”
ในช่วงนี้มีการเปิดการเรียนการสอนหลักสูตรปริญญาเอก สาขา การตลาดและการเงิน รวมถึงการก่อตั้ง Sasin Institute for Global Affairs (SIGA) เพื่อทำการวิจัยในเรื่องต่าง ๆ ในระดับโลก
นอกจากนี้ สถาบันบัณฑิตฯ ศศินทร์ต้องการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล จึงได้มีสาขาวิชาต่าง ๆ ให้เลือกมากขึ้น เช่น “Multi-cultural Marketing” (MBA), “Multi-cultural Marketing Management” (EMBA), “International Finance” (MBA), “Finance for International Business” (EMBA), “Strategy in Domestic & International Business” (MBA), “Managing Human Capital in a Global Context” (HRM) รวมทั้งการก่อตั้ง Sasin Centre for Sustainability Management (SCSM) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง ศศินทร์ และ The Corporate Responsibility & Ethics Association for Thai Enterprise (CREATE)
ทศวรรษที่ 4 (2012-2022 : Self-Sustainability:การพัฒนาอย่างยั่งยืน)
ในอนาคตอันใกล้นี้ยังมีแผนที่จะเปิดวิชาหลักสำหรับ MBA และ EMBA ชื่อว่า “Sustainability Management”
และวิชาเลือกสำหรับหลักสูตร Executive MBA เพื่อรองรับการเปิดเสรีอาเซียน ชื่อว่า “ASEAN Business Opportunities”
ล่าสุดสถาบันบัณฑิตฯ ศศินทร์ได้ดำเนินการก่อสร้าง Sasin International Learning Center (SILC) ขณะนี้กำลังรอพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยศูนย์ดังกล่าวอยู่ห่างจากสนามบินนานาชาติภูเก็ตเพียง 20 นาทีเท่านั้น โดยมีวัตถุประสงค์ให้ “ศูนย์การเรียนรู้นานาชาติ” เป็นศูนย์กลางการพัฒนาในทุก ๆ ด้าน เพื่อรองรับการขยายตัวของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นศูนย์กลางของการศึกษาและการวิจัยต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้
ศาสตราจารย์ เติมศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “ เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 30 ปี จึงขอเรียนเชิญนิสิตศศินทร์ทุกรุ่น เข้าร่วมงานกาล่าดินเนอร์ที่จะจัดให้มีขึ้น ณ Bangkok Convention Center โรงแรม Centara Grand Hotel ศูนย์การค้า Central World ในวันที่ 15 ก.ย. นี้ ตั้งแต่เวลา 18.00-22.00 น. เพื่อฉลองความสำเร็จตลอด 3 ทศวรรษทีผ่านมาร่วมกัน” สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อจองบัตรเข้าร่วมงานได้ที่ ฝ่ายนิสิตเก่าสัมพันธ์ โทร 0-2218-3877 หรือ 0-2218-4014 E-mail: alumni@sasin.edu หรือ alumni.association@sasin.edu หรือที่เวปไซด์ www.sasin.edu