กทม. เสนอรวมหน่วยงานสาธารณูปโภคเพื่อเพิ่มงบพัฒนา กทม.

ข่าวทั่วไป Thursday August 19, 2004 12:11 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ส.ค.--กทม.
นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ส.ก.เขตมีนบุรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการพิจารณางบประมาณค่าครุภัณฑ์ ที่ดิน และสิ่งก่อสร้างของสำนักสวัสดิการสังคมและสำนักพัฒนาชุมชน เปิดเผยว่า จากการที่ไปลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการต่างๆ ที่ทั้งสองสำนักเสนอของบมา พบว่า มีหลายโครงการที่ควรถูกตัดงบประมาณ แต่ก็มีหลายโครงการเช่นกันที่ควรเพิ่มงบประมาณให้ เช่น โรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร ที่มีผู้สนใจมาเรียนจำนวนมากแต่มีจำนวนห้องเรียนไม่เพียงพอ สำหรับอุปสรรคที่พบในการพิจารณางบประมาณนั้น คือ เอกสารที่เสนอประกอบการพิจารณามีรายละเอียดไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่มีการแยกรายการให้เห็นอย่างชัดเจน อันอาจเป็นเพราะระยะเวลาในการทำงานน้อยเกินไป
ทั้งนี้แต่ละหน่วยงานควรมีการเตรียมการล่วงหน้า ในส่วนของสำนักสวัสดิการสังคมนั้น ควรมีการจัดสรรงบประมาณในส่วนของการสร้างโรงเรียนกีฬา ลานกีฬา เพิ่มและแบ่งเป็นสวัสดิการของนักกีฬาด้วย เพราะกรุงเทพมหานครนั้นมีนักกีฬาจำนวนมาก ควรที่จะมีการส่งเสริมอย่างจริงจังเพื่อพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาให้สูงขึ้นต่อไป รวมทั้งควรมีการเพิ่มงบประมาณในการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการกีฬาซึ่งขาดแคลนอยู่ด้วย
นอกจากนี้ในส่วนของสถานสงเคราะห์ของกรุงเทพมหานครนั้นควรมีการปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบ รวมถึงตัวอาคารให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ ในการพิจารณางบประมาณด้านการก่อสร้างนี้ ทางคณะกรรมการพิจารณาความเหมาะสมอย่างรอบคอบ รับรองได้ว่าเงินภาษีที่ประชาชนเสียให้กรุงเทพมหานครนั้นจะเป็นประโยชน์ และคุ้มค่ามากที่สุด
นายเพทาย จั่นเผื่อน ส.ก.เขตบางแค ในฐานะคณะกรรมการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2548 กล่าวว่า กรุงเทพมหานครเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบการบริการประชาชนที่อาศัยอยู่ในกทม.ทั้งหมด ซึ่งรวมถึงประชากรแฝงที่มาอาศัยอยู่ในกทม. โดยไม่มีทะเบียนบ้านในกรุงเทพฯ ด้วย ตนเห็นว่าการรวมหน่วยงานต่าง ๆ ทางด้านสาธารณูปโภคมาอยู่ในความรับผิดชอบของกทม.ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้า น้ำประปา และโทรศัพท์ นั้นจะทำให้กทม.มีงบประมาณเพียงพอที่จะนำไปพัฒนาชุมชนในระดับรากหญ้าได้ และจะทำให้การบริหารงานของกทม.ดีมากยิ่งขึ้น สำหรับวิธีการจัดสรรงบประมาณให้ดีที่สุดนั้น ตนคิดว่าควรให้ผู้นำหมู่บ้าน หรือผู้นำท้องถิ่นทำการสำรวจความต้องการในแต่ละพื้นที่และทำรายงานเสนอต่อกรุงเทพมหานคร เพื่อจะได้ร่วมกันพิจารณาแก้ไขปัญหาดังกล่าว และตนขอฝากให้คณะผู้บริหารกทม. ชุดใหม่ให้ความสำคัญหลายๆ ด้านไม่ใช่เน้นด้านใดด้านเดียว ในการนี้สภากรุงเทพมหานครก็จะทำหน้าที่ดูแลเรื่องของงบประมาณให้มีการจัดสรรไปถึงประชาชนที่เดือดร้อนอย่างเท่าเทียมกัน--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นห)--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ