สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันจันทร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2555 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 10, 2012 11:12 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 ก.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,695 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,735 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.08 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 25,000 บาท กับ 25,100 บาท และกลับมาปิดที่ 25,000บาท กับ 25,100 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 5,175คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 14,978 คู่สัญญา และSilver Futures อยู่ที่ 11 คู่สัญญา OpenInterest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 3.3 % แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 11.7% Silver Futures เพิ่มขึ้น 1.9 % GFV12 ปิด 25,700บาท และ GFZ12 ปิด 25,800บาท GF10V12 ปิดที่ 25,700 บาท GF10Z12 ปิดที่ 25,800บาท SVV12 ปิดที่ 1,048และ SVZ12 ปิดช่วงกลางคืนที่ 1,033 สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 34.9 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,740.5 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น1.016 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 33.690 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,293.14 ตัน (เท่าเดิม)น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 89 เซนต์ ปิดที่ระดับ 96.42 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น14.64 จุด ปิดที่ระดับ 13,306.64 จุด Ratio Gold / Silver 52 เท่ากับ ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ TheBullionDesk, Reuters, Infoquest และ CNBC การประกาศตัวเลข Non-farm payrolls ของสหรัฐเมื่อคืนวันศุกร์ที่ออกมาอ่อนแอ ได้กระตุ้นความคาดหวังในเรื่องมาตรการ QE3 ให้กลับมาอีกครั้ง ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และทำให้กลุ่มโลหะมีค่าปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบหลายเดือน โดยสัญญาทองคำส่งมอบเดือนธันวาคมพุ่งขึ้น 34.9 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,740.5 เหรียญ หลังจากขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,745.4 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ทั้งนี้ ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในวันศุกร์ 2% เป็นครั้งที่สองในรอบสองสัปดาห์ ตัวเลข Non-farm employment มีการคาดการณ์ไว้ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้น 123,000 ตำแหน่งในเดือนสิงหาคม แต่ผลที่ออกมากลับพบว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 96,000 ตำแหน่ง ลดลงจากระดับ 141,000 ตำแหน่ง จึงเป็นการจุดประกายความหวังขึ้นมาอีกครั้งว่า เฟดอาจมีการเข้าแทรกแซงตลาดด้วยการประกาศมาตรการ QE3 ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทันที 30 เหรียญหลังการประกาศตัวเลขดังกล่าว และโอกาสต่อไปของเฟดจะอยู่ที่การประชุม FOMC ในวันที่ 12 — 13 กันยายนนี้ โดยจะมีการแถลงผลกการประชุมในคืนวันพฤหัสบดี ผลสำรวจของรอยเตอร์ที่มีการสำรวจนักเศรษฐศาสตร์จำนวน 59 รายระบุว่า มีโอกาส 60% ที่เฟดจะประกาศมาตรการ QE3 ในการประชุม FOMC ในสัปดาห์นี้ สำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจจากจีนและอีซีบี เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จีนมีการประกาศโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1 ล้านล้านหยวน หรือ 1.55 แสนล้านดอลลาร์ โดยเป็นปริมาณเกือบ 2% ของมูลค่าเศรษฐกิจทั้งหมดของจีน ซึ่งเงินดังกล่าวจะถูกนำไปใช้กับโครงการการสร้างทางหลวง ทางน้ำ ทางรถไฟในเมือง รวมไปถึงการจัดการดูแลเรื่องพืชน้ำที่ไร้ประโยชน์ นอกจากนี้ ในวันพฤหัสบดี นายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบีได้เติมเต็มความต้องการจากตลาดโดยการประกาศแผนการเข้าซื้อพันธบัตรอายุไม่เกิน 3 ปีอย่างไม่จำกัดจำนวน เพื่อลดต้นทุนการกู้ยืมให้กับประเทศที่มีต้นทุนการกู้ยืมสูง เช่น สเปนและอิตาลี ภายใต้แผน Outright Monetary Transactions (OMTs) ซึ่งการประกาศแผนดังกล่าวส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสเปนและอิตาลีอายุ 10 ปีปรับตัวลดลงสู่ระดับ 5.58% และ 5.05% ตามลำดับ สำหรับการเปรียบเทียบในเรื่องมาตรการ QE กับกราฟเทคนิค นักลงทุนหลายรายมีความกังวลว่า มาตรการ QE3 จากเฟดที่จะมีการพิมพ์ธนบัตรเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพื่อรักษาระดับอัตราดอกเบี้ยระยะยาวให้อยู่ในระดับต่ำนั้น จะก่อให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเป็น 2 เท่าในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากเฟดมีการใช้มาตรการ QE เป็นจำนวน 2 ครั้งมาแล้ว โดยที่ราคาทองคำมีการฟื้นตัวขึ้นมามากถึง 10% ตั้งแต่เริ่มต้นเดือนสิงหาคม ผลักดันให้ RSI 14 วันมาอยู่ที่ระดับ 80 ซึ่งตัวเลขที่ดีกว่าระดับ 70 นั้นชี้ให้เห็นว่าตลาดอยู่ในภาวะ Overbought ทั้งนี้ ผู้สังเกตการณ์กราฟกล่าวว่า การฟื้นตัวดังกล่าวอาจเป็นไปอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ราคาฝ่านกรอบการซื้อขายในรอบ 6 สัปดาห์ที่ระดับ 1,636 เหรียญ เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การปิดตลาดเหนือระดับ 1,700 เหรียญเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านทำให้เป็นแนวรับทางจิตวิทยาของขาขึ้นของราคาทองคำ ในวันศุกร์ผ่านมา ปริมาณการถือครองทองคำของกองทุน ETF เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 72.125 ล้านออนซ์ โดยในปีนี้กองทุน ETFs เพิ่มการถือครองทองคำมากกว่า 38 ตัน โดยมีการเพิ่มจำนวนมากที่สุดตั้งแต่เดือนสิงหาคมจากความคาดหวังในการกระตุ้นเศรษฐกิจจากกลุ่มธนาคารกลางต่างๆ สำนักงานสำรวจจำนวนประชากรและสถิติของฮ่องกงรายงานว่า ในเดือนกรกฎาคม ฮ่องกงส่งออกทองคำไปยังจีนเกือบ 76 ตัน โดยรวมทั้งทองเก่าและเหรียญทอง ซึ่งเพิ่มขึ้น 12% และเพิ่มเป็น 2 เท่าเมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคมของปีก่อนหน้านี้ ในขณะที่ฮ่องกงมีการรับทองคำจากจีนเกือบ 30 ตัน นายออลรี่ เรห์น คณะกรรมาธิการ European Monetary Affairs กล่าวต่อสำนักข่าว CNBC เมื่อวานนี้ว่า ภายหลังการประกาศมาตรการเข้าซื้อพันธบัตรของอีซีบีในสัปดาห์ที่ผ่านมา สเปนต้องมีการขอรับความช่วยเหลือก่อน สมาชิกยูโรโซน ยูโรกรุ๊ป อีซีบี และไอเอ็มเอฟจึงจะมีการกำหนดเงื่อนไขที่ระบุเฉพาะเจาะจง ในขณะที่ทางด้านอิตาลี นายมาริโอ มอนติ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เขาไม่คิดว่าอิตาลีจะมีการเข้าใช้แผนการเข้าซื้อพันธบัตรจากอีซีบีในเร็วๆ นี้ ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันศุกร์ - Non-Farm Employment Change ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ163K ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 123K ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 96K - Unemployment Rate ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 8.3% ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 8.3% ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 8.1% ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ - ไม่มีตัวเลขที่ต้องติดตาม วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold — ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในตลาด COMEX หลังจากที่ตัวเลข Non-farm payrolls ออกมาต่ำกว่าที่คาด โดยออกมาเพียง 96,000 ตำแหน่ง ตลาดมีความคาดหวังอย่างยิ่งที่จะมีมาตรการ QE3 จากการประชุม FOMC ในวันที่ 12 — 13 กันยายนนี้ ทำให้มีแรงเข้าซื้ออย่างต่อเนื่อง ผลักดันให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นกว่า40 เหรียญ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,735 เหรียญได้ในเช้าวันนี้ และยังทรงตัวอยู่ในระดับที่สูง ในเชิงของข่าวตลาดน่าจะรอการแถลงของ FOMC ซึ่งจะมีขึ้นในคืนวันพฤหัสบดีเวลาประมาณตีหนึ่ง หรือเช้าวันศุกร์นั่นเอง ดังนั้น MTS Gold คาดว่า ราคาทองคำเคลื่อนตัวในช่วงนี้จะเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแคบระหว่าง 1,720 — 1,740 เหรียญในกรอบ นอกเสียจากว่าจะมีข่าวหรือการสัมภาษณ์ที่เข้ามากระตุ้นในทิศทางใดทิศทาง หนึ่ง มิฉะนั้นคงจะเป็นการรอแถลงคืนวันพฤหัสบดี แนะนำให้นักลงทุนขายทำกำไรเป็นช่วงๆ รอช้อนซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว โดยที่คาดว่าการอ่อนตัวของราคาทองคำคงลงไม่ลึกนักในช่วง 3 วันทำการข้างหน้า เป็นลักษณะรอข่าว ทองคำเข้าสู่ภาวะ Overbought ระยะสั้นในลักษณะกราฟรายชั่วโมง อย่างไรก็ดีภาพรวมของแนวรับแนวต้านอยู่ที่ระดับ 1,720 เหรียญเป็นแนวรับและ 1,750 เหรียญเป็นแนวต้านทางจิตวิทยาแรก ซึ่งน่าจะเป็นการแกว่งตัวในกรอบ Gold Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,600 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,800 บาท Gold Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,700 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,900 บาท Silver Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 1,070 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,100 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade) เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,725 -1,740 เหรียญ ให้เข้าช้อนซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว และขายเก็งกำไรเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้น นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade) แนะนำให้เข้าซื้อต่อเนื่องเมื่อราคาอ่อนตัว ทำพอร์ทให้อยู่ในสถานะ Long Position ประมาณ 20% ขายทำกำไรบริเวณแนวต้านตามที่ได้กล่าว คาดว่าเมื่อวันศุกร์คงขายทำกำไรไปหมดแล้ว โดยในวันนี้หาจังหวะเข้าช้อนซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง คาดว่าเมื่อวันศุกร์คงขายทำกำไรไปกว่า 50% รอจังหวะเข้าช้อนซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว คงพอร์ทประมาณ 30-40% สรุปได้ว่า ภาพรวมการซื้อขายใน 3 วันข้างหน้านี้ คาดว่าราคาน่าจะทรงตัวในทิศทาง Sideway ในกรอบ 1,720 — 1,740 เหรียญโดยประมาณ บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ