กรุงเทพฯ--12 ก.ย.--HBIRM
HBIRM เตรียมความพร้อมรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เร่งพัฒนาบุคลากรเพิ่มทักษะการสื่อสารกับลูกค้าต่างชาติ เผยแรงงานคุณภาพจะเคลื่อนย้ายเข้าไทยเพราะเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค ย้ำเป็นธุรกิจบริหารอาคารและชุมชนแห่งเดียวของไทยที่ร่วมทุนกับต่างชาติ มั่นใจพันธมิตรสัญชาติมาเลเซียมีศักยภาพพร้อมลุยตลาดบริหารอาคารในอาเซียน
นายธนันทร์เอก หวานฉ่ำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอช บี อินเตอร์ เรียลตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด (HBIRM) เปิดเผยถึงนโยบายในการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการไหลของชาวต่างชาติ หลังจากที่มีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ว่า ในฐานะที่บริษัทดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการบริหารและจัดการหมู่บ้านจัดสรร อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า รวมทั้งคอนโดมิเนียม ที่ผ่านมาได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพ เพื่อบริการลูกค้าซึ่งมีทั้งชาวไทยและต่างชาติ แต่หลังจากปี 2558 ที่มีการเปิดตลาดเสรีกับกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน เชื่อว่าจะมีลูกค้าชาวต่างชาติเข้ามาพักอาศัยในอาคารชุดต่างในกรุงเทพมหานครเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นการรองรับการขยายตัวของตลาดที่คาดว่าจะมีอาคารพักอาศัยเข้ามาในพอร์ทการบริหารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ จึงได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาและเพิ่มทักษะของบุคลากรให้สามารถทำงานเพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าในทุกระดับ
“HBIRM ได้สนับสนุนและส่งเสริมด้านการเงินเพื่อให้พนักงานได้เรียนภาษาอังกฤษเพื่อเพิ่มทักษะในการสื่อสารกับลูกค้า รวมทั้งมีนโยบายให้พนักงานฝึกพูดและโต้ตอบภาษาอังกฤษในสำนักงาน เพื่อสร้างความมั่นใจในการสื่อสารกับลูกค้าชาวต่างชาติ โดยเฉพาะประโยคที่สามารถนำมาใช้พูดกับลูกค้า ไม่ใช่เฉพาะพนักงานในระดับผู้จัดการและผู้อำนวยการเท่านั้นที่จะต้องพัฒนาตัวเองเพื่อรับมือกับการเปิด AEC แต่ส่วนพนักงานฝ่ายปฏิบัติการไม่ว่าจะเป็นวิศวกร บัญชี การตลาด รวมทั้งช่างซ่อมบำรุงประจำอาคารก็ต้องได้รับการพัฒนาเช่นกัน เนื่องจากอาคารพักอาศัยกลางเมืองส่วนใหญ่มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก” นายธนันทร์เอกกล่าวและเปิดเผยเพิ่มเติมถึงประโยชน์ที่ธุรกิจบริหารอาคารและชุมชนจะได้รับจากการเปิด ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ว่า ปัจจุบัน HBIRM เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจบริหารอาคารและชุมชนรายเดียวของประเทศไทย ที่ร่วมทุนกับบริษัทเฮนรี่ บูชเชอร์ มาเลเซีย (Henry Butcher Malaysia Sdn. Bhd.) ซึ่งเป็นพันธมิตรชาวมาเลเซีย การเปิดเสรีในกลุ่มอาเซียนจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับธุรกิจนี้ เนื่องจากจะสามารถแลกเปลี่ยนพนักงานเพื่อพัฒนาและเพิ่มทักษะการทำงาน รวมทั้งจะเป็นโอกาสที่ดีในการขยายธุรกิจไปยังประเทศต่าง ๆ มากขึ้น เห็นได้จากที่ผ่านมาการเข้าไปบริหารสนามบินในประเทศลาวทางบริษัทผู้ร่วมทุนก็ใช้แบรนด์ของ HBIRM ทำตลาดในประเทศดังกล่าวแล้ว
อย่างไรก็ตาม การเปิด AEC จะทำให้บริษัทมีโอกาสในการขยายธุรกิจเพื่อบริการลูกค้าชาวต่างชาติมากขึ้น ที่สำคัญยังทำให้อาชีพด้านบริการสามารถทำงานในประเทศสมาชิกได้อย่างเสรี และเชื่อว่าประเทศไทยเป็นเป้าหมายในอันดับต้น ๆ ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในภูมิภาคอาเซียนและต้องการเดินทางมาทำงาน ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรได้ ทั้งนี้ ธุรกิจต่าง ๆ ของไทยจะมีโอกาสในการจ้างแรงงานต่างชาติที่จบการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งมีทักษะและความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี และเชื่อว่าข้อได้เปรียบที่ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคนี้ จะทำให้มีแรงงานต่างชาติเคลื่อนย้ายเข้ามาทำงานมากขึ้น เช่น แรงงานจากประเทศฟิลิปปินส์ เวียดนาม พม่า ลาว และประเทศอื่น ๆ ที่ใช้ภาษาอังกฤษได้และค่าจ้างสำหรับแรงงานกลุ่มนี้ถูกกว่าคนไทย
“หากคนไทยไม่ยอมปรับตัวและไม่เพิ่มทักษะด้านภาษาต่างประเทศ เมื่อเปิดเสรีทางด้านแรงงานบริษัทต่าง ๆ ก็จะเปิดรับต่างชาติมาทำงานแทน แม้จะต้องจ่ายแพงกว่าบริษัทก็ยินดี แต่โดยรวมแล้วน่าจะถูกกว่าคนไทย ยกเว้นแรงงานที่มาจากสิงคโปร์ซึ่งเราต้องจ่ายแพงกว่าคนไทยอยู่แล้ว เชื่อว่าหลังจากปี 2558 เป็นต้นไปแรงงานที่จะเคลื่อนย้ายเข้ามาทำงานจะเป็นคนละกลุ่มคนที่มีการศึกษามากขึ้น เห็นได้จากขณะนี้มีชาวเวียดนามเริ่มมาสมัครงานกับเราแล้ว ดังนั้น คนไทยที่เล่นตัวและไม่ยอมพัฒนาตัวเองจะหางานทำยากขึ้น” นายธนันทร์เอกกล่าว