กรุงเทพฯ--12 ก.ย.--IR network
FPI สุดฮอต! นักลงทุนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะมองเห็นอนาคตสดใสและเติบโตได้อีกมาก จากการดำเนินธุรกิจที่โดดเด่น มีความสามารถในการทำกำไรสูง อีกทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์กำลังขยายตัวอย่างมาก บล.ฟินันเซีย ไซรัส มั่นใจเข้าเทรดวันแรก 20 ก.ย.นี้ ให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ ด้าน “สมพล ธนาดำรงศักดิ์”ปลื้มนักลงทุนเชื่อมั่นใน FPI พร้อมเดินหน้าปั๊มผลประกอบการปี 2555 โตต่อเนื่อง ตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 20%
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และแกนนำการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) (FPI) เปิดเผยถึงผลการเปิดจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 63 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ในราคาเสนอขาย 3.50 บาทต่อหุ้น ปรากฏว่านักลงทุนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยได้เสนอขายให้กับประชาชนทั่วไประหว่างวันที่ 10-12 กันยายนที่ผ่านมา โดยหุ้น FPI จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 20 กันยายน 2555
“การที่นักลงทุนให้การต้อนรับหุ้น FPI อย่างน่าประทับใจ ถือเป็นสัญญาณบวกที่ดีมาก สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อตัวบริษัท ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยพื้นฐานที่อยู่ในเกณฑ์ที่ดีเยี่ยม ฐานะการเงินมีความแข็งแกร่ง และมีศักยภาพในการเติบโตสูงในอนาคต ขณะที่การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นที่ถือว่าเป็นระดับราคาที่น่าสนใจอย่างมาก โดยมีส่วนลด (Discount) ให้กับนักลงทุนประมาณ 34% ดังนั้นเชื่อว่าเมื่อหุ้น FPI เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ mai จะมีความคึกคักและได้รับการต้อนรับที่ดีจากนักลงทุน” นายสมภพกล่าว
ด้านนายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) (FPI) กล่าวว่าจากผลการสรุปยอดจองซื้อหุ้นไอพีโอของบริษัท พบว่านักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาจองซื้อหุ้นจำนวนมาก สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัท โดยได้เล็งเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องของผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์ยังมีศักยภาพที่จะเติบโตต่อไปได้อีกมากในอนาคต ซึ่งต้องขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้ความสนใจกับหุ้นของ FPI อย่างดีเยี่ยม หลังจากเปิดให้จองซื้อในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้เชื่อว่าภายหลังการระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai จะยิ่งทำให้ชื่อเสียงของ FPI เป็นที่รู้จักในวงกว้างรวมถึงเป็นที่ยอมรับมากยิ่งขึ้นด้วย ที่สำคัญส่งผลให้ฐานทุนของบริษัทมีความแข็งแกร่ง และยังทำให้บริษัทมีช่องทางหรือทางเลือกในการระดมเงินทุนมากขึ้น เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่ส่งผลบวกต่อการขยายธุรกิจในอนาคตทั้งสิ้น โดยบริษัทยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจเพื่อผลักดันให้ผลประกอบการปี 2555 เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 20%
"กระแสตอบรับจากนักลงทุนที่มีต่อหุ้น FPI ดีเกินกว่าที่คาดไว้ ซึ่งปัจจัยสำคัญสุดอยู่ที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นและมั่นใจในศักยภาพการเติบโตของบริษัท ซึ่งธุรกิจมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก ดังนั้นเชื่อว่าเมื่อ FPI เข้าซื้อขายเป็นวันแรกในวันที่ 20 กันยายนนี้ จะทำให้นักลงทุนทุกท่านมีแต่รอยยิ้มของความสุขเกิดขึ้นถ้วนหน้า" นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ FPI กล่าวในที่สุด