กรุงเทพฯ--1 เม.ย.--สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์
- การค้นคว้าวิจัยสารธรรมชาติ (Natural products) และจุลินทรีย์ในประเทศไทย
- โนวาร์ตีสมุ่งเน้นการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ประเทศไทย
ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ หรือไบโอเทค และบริษัทเวชภัณฑ์โนวาร์ตีส แห่งสวิตเซอร์แลนด์ ลงนามข้อตกลงในการพัฒนายารักษาโรคจาก สารธรรมชาติ (Natural Products) ที่ค้นพบในประเทศไทย ความร่วมมือวิจัยค้นหายาใหม่ (Drug Discovery) นี้มีเป้าหมาย ที่จะค้นพบศักยภาพการใช้จุลินทรีย์และสารธรรมชาติเป็นตัวยา
ภายใต้ข้อตกลงนี้ ศูนย์ไบโอเทคจะได้รับการถ่ายทอดความรู้เทคโนโลยีในการทำงานวิจัยแล้ว และจะได้รับทุนสนับสนุนวิจัย และทุนสำหรับนักวิทยาศาสตร์ไทย เข้ารับการฝึกอบรม ณ ศูนย์วิจัยของ โนวาตีสที่เมืองบาเซิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โนวาร์ตีสมีความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับไบโอเทคสร้าง ความเข้มแข็งด้านการวิจัยให้ประเทศไทย
ดร.เดเนียล วาเซลล่า ประธานและผู้อำนวยการบริหารโนวาร์ตีส กล่าวว่า “ความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นการสร้างองค์ความรู้ในเรื่องสารธรรมชาติที่พบมากมายในประเทศไทย โนวาร์ตีสหวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าความร่วมมือวิจัยการถ่ายทอดเทคโนโลยี จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับการวิจัยและพัฒนา ของประเทศไทย บริษัทตั้งเป้าที่ค้นพบศักยภาพของสารธรรมชาติที่พบในประเทศไทย เพื่อนำไปพัฒนา เป็นยารักษาโรคสำคัญ เช่น มะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคเขตร้อน”
ความร่วมมือระหว่างไบโอเทคและโนวาร์ติสนี้ เป็นรูปแบบที่พิเศษที่จะร่วมค้นคว้าศึกษาทรัพยากร ชีวภาพในประเทศไทย มาตรวจสอบฤทธิ์ทางยาและพัฒนาไปเป็นเวชภัณฑ์ยาสำหรับออกสู่ตลาดสากล และจะเสริมสร้างให้ประเทศไทยเป็นศูนย์ความเป็นเลิศด้านการค้นหายาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สารธรรมชาติในที่นี้หมายถึงสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่ได้จากธรรมชาติหรือสารที่ปรับแต่งจากสาร ธรรมชาติซึ่งนำมาใช้ในการรักษามนุษย์ได้ สารเหล่านี้ได้มาจากการสกัดจากแหล่งธรรมชาติ เช่น แบคทีเรีย รา หรือพืช
ศ.ดร.มรกต ตันติเจริญ ผู้อำนวยการศูนย์ไบโอเทค กล่าวว่า “จำนวนของราทั่วโลก นั้นคาดกันว่า มีประมาณ 1.5 ล้านชนิด ซึ่งจากตัวเลขที่ว่าประเทศไทยน่าจะมีความหลากหลาย ทางชีวภาพร้อยละ 7-10 ของความหลากหลายทางชีวภาพของโลก เราจึงอาจคำนวณได้ว่าประเทศไทยจะมีราอยู่ประมาณ 100,000 — 150,000 ชนิด ในจำนวนนี้มีเพียงแค่ประมาณร้อยละ 1 เท่านั้นที่ถูกค้นพบในปัจจุบัน”
ประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงทั้งในพืช สัตว์ และจุลินทรีย์ ปัจจุบัน มีจุลินทรีย์ที่ถูกค้นพบและบันทึกไว้แค่เพียง 1.75 ล้านชนิด และคาดว่ายังมีจุลินทรีย์อีกมาก ถึง 12 ล้านชนิดที่ยังรอการค้นพบอยู่
ศ.ดร.มรกต ตันติเจริญ กล่าวเสริมว่า “ไบโอเทคมีความยินดีที่จะได้ร่วมมือกับบริษัท โนวาร์ตีส ซึ่งเป็นการประสานความชำนาญของทั้งสองฝ่ายเข้าด้วยกัน กล่าวคือศูนย์ไบโอเทคคือ ความชำนาญ ในด้านจุลินทรีย์ ตั้งแต่การเก็บตัวอย่าง การจำแนกชนิดของจุลินทรีย์ตามหลัก อนุกรมวิธาน การเก็บรักษา ในสภาวะการเลี้ยงแบบต่างๆ ไปจนถึงการคัดแยกและการศึกษาลักษณะของสารประกอบบริสุทธิ์ ในขณะ ที่โนวาร์ติสมีความชำนาญในด้านการวิจัยและพัฒนายา ตลอดจนถึงการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับสารประกอบ ที่ได้จากสารสังเคราะห์และจากธรรมชาติ”
ความร่วมมือระหว่างไบโอเทคและโนวาร์ตีสนี้ ริเริ่มโดย ฯพณฯ กร ทัพพะรังสี รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่สนับสนุนให้ไบโอเทคแสวงหาความร่วมมือกับองค์กร ภายนอกที่มี ความสามารถเชิงส่งเสริมกัน (Complementary expertise) ในการพัฒนาเวชภัณฑ์ยา จากสารธรรมชาติ ในการนี้ ฯพณฯ กร ทัพพะรังสี ได้นำคณะนักวิจัยไทยเดินทางไปเยือน สำนักงานใหญ่ของโนวาร์ติส ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
ความร่วมมือนี้จะเริ่มต้นในเดือนเมษายน 2548 จนถึง มีนาคม 2551 และจะมี คณะกรรมการร่วม (Joint Steering Committee: JSC) เป็นผู้บริหารจัดการ โดยคณะกรรมการร่วม จะประกอบด้วย นักวิทยาศาสตร์จากทั้งสองหน่วยงาน
เกี่ยวกับไบโอเทค
ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ หรือไบโอเทค เป็นส่วนหนึ่งของสำนักงาน พัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดำเนินการ สนับสนุนงานวิจัยและวิศวกรรมทางด้านเทคโนโลยีชีวภาพของประเทศ โดยมีการทำงานร่วมกับ มหาวิทยาลัย และหน่วยงานต่างๆของรัฐบาล และยังดำเนินการเชื่อมโยงความร่วมมือความร่วมมือระหว่าง ภาคอุตสาหกรรมและสถาบันการศึกษา นอกจากนี้ ไบโอเทค ยังดำเนินการวิจัยเพื่อสนับสนุนให้ ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางทางการพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพของภูมิภาค ตามนโยบายแห่งชาติ ไบโอเทคมีทุนสนับสนุนปีละ 800 ล้านบาท (หรือ 20 ล้านเหรียญ สหรัฐ) มีบุคลากรทั้งสิ้น 450 คน ซึ่งรวมถึงนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย และบุคลากรทั่วไป
เกี่ยวกับโนวาร์ตีส
บริษัทเวชภัณฑ์โนวาร์ตีส (รหัส NVS ดัชนีตลาดหุ้น NYSE) เป็นบริษัทเวชภัณฑ์และ ผลิตภัณฑ์ สุขภาพชั้นนำของโลก ในปี 2547 กลุ่มธุรกิจมียอดขาย 28.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ และมีรายได้สุทธิ 5.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ กลุ่มธุรกิจลงทุนสูงถึง 4.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในงานวิจัยและพัฒนา สำนักงาน ใหญ่ของโนวาร์ตีส ตั้งอยู่ ณ กรุงบาเซิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กลุ่มธุรกิจโนวาร์ตีสมีบุคลากรทั้งสิ้น 81,400 คน รายละเอียดเกี่ยวกับโนวาร์ตีสสามารถค้นหาได้ที่ http://www.novartis.com
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ
คุณดวงแก้ว จงขจรพงษ์
โทรศัพท์: 662 564-6700 (ต่อ 3516)
อีเมล: gal@biotec.co.th
บริษัท โนวาร์ตีส (ประเทศไทย) จำกัด
ดร. ปีเตอร์ แจกเกอร์
โทรศัพท์: 0-2685-0999 (ต่อ 0711)
อีเมล: Peter.jager@novartis.com
บุคคลในภาพ (จากซ้ายไปขวา)
1. ศ. ดร. มรกต ตันติเจริญ, ผู้อำนวยการศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
2. ฯพณฯ กร ทัพพะรังสี, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
3. ดร. เดเนียล วาเซลล่า, Chairman and CEO of Novatis Ltd.
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--