กรุงเทพฯ--13 ก.ย.--ประชาสัมพันธ์ ช่อง 8
กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ว่าอยากดัง เมื่อ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” พิธีกร-นักแสดง-ผู้กำกับฯ และอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู โพสต์รูปและข้อความถึงโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ที่ปฏิเสธทำคลอดสาวท้องแก่จนเสียชีวิต จนเกิดวิวาทะในโซเชียลเน็ตเวิร์คนั้น รายการ “ปากโป้ง” ช่อง 8 โดย 2 พิธีกร หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย และ หนิง-ปณิตา ธรรมวัฒนะ จึงเชิญเจ้าตัวและสามีของผู้ตายมาพูดคุย เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง
โดย บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ชี้แจงว่า “ผมได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นดังกล่าว เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยข้อความระบุว่า ‘หญิงท้องแก่ปวดท้องคลอดอย่างรุนแรง จึงมาโรงพยาบาลที่ฝากครรภ์ไว้ แต่กลับถูกปฏิเสธทำคลอด เพราะนัดไว้วันที่ 14 ก.ย. ประกอบกับโรงพยาบาลไม่มีห้องทำคลอด จึงได้ส่งตัวหญิงคนดังกล่าวไปอีกโรงพยาบาล แต่เกิดอาการช็อกและกัดลิ้นตัวเองจนเสียชีวิตระหว่างทาง ทำให้ต้องผ่าเอาเด็กทารกในท้องออกมาทันที แต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลือเอาไว้ได้ทั้งแม่และลูก’ มีคนเข้ามากดไลค์ข้อความที่ผม โพสต์นับแสนคน และถูกส่งต่อกันอีกเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งเช้ามืดของอีกวันหนึ่ง มีเฟซบุคชื่อ ‘ผักโส๊มส้ม ภักดิ์สม บ่แม่นผักขมเด้อ’ ระบุว่ารู้จักกับนายแพทย์ผู้ปฏิบัติการของโรงพยาบาลที่ถูกกล่าวหา และโพสต์ข้อความออกมาชี้แจงตอบโต้คำพาดพิงของผมว่า ‘ผู้ป่วยน้ำเดินก่อนมาถึงโรงพยาบาล มีภาวะน้ำคร่ำเข้ากระแสเลือด เป็นภาวะที่คาดเดาไม่ได้และมีอัตราการเสียชีวิตสูง’ พร้อมกับยืนยันว่าไม่มีผู้ป่วยตั้งครรภ์รายไหนเจ็บท้องคลอดจนถึงขั้นขาดใจและกัดลิ้นตัวเองตาย ให้ยาแก้ปวดทั่วไปก็บรรเทาอาการได้ แต่สำหรับผู้ป่วยรายนี้มีอาการหัวใจหยุดเต้นตั้งแต่ก่อนจะนำตัวส่งต่อโรงพยาบาลอื่น และได้แพทย์เวรช่วยใส่ท่อช่วยหายใจและปั๊มหัวใจเอาไว้ อีกทั้งยังระบุว่า ห้องคลอดของโรงพยาบาลไม่มีเต็ม ภายหลังผมจึงได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กถึงประเด็นนี้อีกครั้งว่า ‘สิ่งที่นำมาโพสต์เป็นคำพูดจากปากสามีของผู้หญิงที่เสียชีวิต เพราะทันทีที่ถึงโรงพยาบาล หมอสั่งเขาให้เตรียมตั้งชื่อลูกและไปซื้อผ้าอ้อมไว้ ทั้งที่เขาอยากอยู่กับภรรยา จนกระทั่งได้รับโทรศัพท์ว่า ภรรยาหมดสติต้องส่งไปโรงพยาบาลอื่น เพราะห้องคลอดไม่ว่าง จนภรรยากับลูกในท้องเสียชีวิตในเวลาต่อมา’ หลังจากนั้นก็มีคนเข้ามาแสดงถึงความคิดเห็นถึงข้อความที่ผมโพสต์ต่างๆ นานา ทั้งในทางที่ดีและไม่ดี บางคนก็ว่าผมเข้ามายุ่งเรื่องนี้เพราะอยากดัง บางคนก็บอกว่าตัวเองเป็นนักวิชาการทางด้านการทำคลอดมาโต้ตอบผม บางคนก็ให้กำลังใจผม ในเมื่อยังมีคนเข้าใจผมผิด ผมจึงต้องมาชี้แจงให้ฟังพร้อมๆ กับสามีผู้ตายในรายการ ‘ปากโป้ง’ ว่าที่ผมต้องออกมาโพสต์ข้อความต่างๆ ในเฟซบุคเพื่อต้องการเป็นกระบอกเสียงและช่วยเหลือสังคมก็เท่านั้นครับ ไม่เหตุผลอะไรที่ผมต้องทำเพื่ออยากดังเลยสักนิด ผมทำเพื่อความถูกต้องและพร้อมที่จะช่วยเหลือครอบครัวนี้ เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมจากสังคมครับ”