กรุงเทพฯ--13 ก.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,734 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,732 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด31.01 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 25,350 บาท กับ 25,450 บาท และกลับมาปิดที่ 25,400บาท กับ 25,500 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 5,031คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 14,225 คู่สัญญา และSilver Futures อยู่ที่ 28 คู่สัญญา OpenInterest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 11.4 % แบบ 10 บาท มากขึ้น 16.2 % Silver Futures เพิ่มขึ้น 10.2% GFV12 ปิด 25,740 บาท และ GFZ12 ปิด 25,850บาทGF10V12 ปิดที่ 25,650 บาท GF10Z12 ปิดที่ 25,850บาท SVV12 ปิดที่ 1,050และ SVZ12 ปิดช่วงกลางคืนที่ 1,047
สัญญา Comex ปิดลดลง 1.2 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,733.7ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 27.4 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 33.292 ดอลลาร์/ออนซ์SPDR ถือครองทองคำ 1,289.42 ตัน (ขายออก 3.72 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดเลดลง 16 เซนต์ ปิดที่ระดับ 97.01 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น9.99 จุด ปิดที่ระดับ 13,333.35 จุด
Ratio Gold / Silver 51 เท่ากับ ต่อ 1
ข่าวที่สำคัญ
- TheBullionDesk, Reuters, Infoquest และ CNBC
ราคาทองคำปรับเปลี่ยนทิศทางในการซื้อขายเมื่อคืนนี้ สวนทางกับค่าเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนที่ระดับ 1.2937 ดอลลาร์/ยูโร โดยสัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สส่งมอบเดือนธันวาคมปรับตัวลดลง 1.2 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,733.7เหรียญ/ออนซ์ ภายหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาในเชิงบวก ส่งผลให้เทรดเดอร์บางรายทำการ hedging ในสถานะ Long ก่อนการแถลงนโยบายของเฟด โดยราคาทองคำมีการเคลื่อนไหวในกรอบ 1,727.3 — 1,749.5 เหรียญ มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นกว่าปกติประมาณ25% เหนือค่าเฉลี่ย 30 วัน
สแตนดาร์ด แบงก์ระบุว่า ราคาทองคำมีการฟื้นตัวขึ้นตอบรับผลการตัดสินของศาลเยอรมนีที่อนุมัติกองทุน ESM ซึ่งราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนเมื่อช่วงเวลาประมาณ 15.15 น. เมื่อวานนี้ ภายหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญของเยอรมนีได้ตัดสินว่า รัฐบาลสามารถดำเนินการใช้กองทุน ESM ซึ่งเป็นกองทุนช่วยเหลือทางการเงินถาวรของยุโรปที่จะมีศักยภาพการให้กู้ยืมสูงสุดถึง 5แสนล้านยูโร แต่อย่างไรก็ตาม กองทุน ESM จะต้องได้รับการอนุมัติโดยรัฐสภาเสียก่อนหากจะมีการเพิ่มการใช้วงเงินมากกว่า 1.9 แสนล้านยูโร
นายก รัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคล ของเยอรมนี กล่าวว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญเยอรมนีอนุมัติการให้สัตยาบันรับรองกองทุนกลไกรักษา เสถียรภาพยุโรป (ESM) ใน วันนี้ ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนให้กับยุโรป และที่เหนือกว่านั้นคือ เยอรมนีจะแบกรับความรับผิดชอบในฐานะประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรปและใน ฐานะพันธมิตรที่พึ่งพาได้"
ในขณะที่นายกรัฐมนตรีมาริโอ มอนติ ของอิตาลี ขานรับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเยอรมนี ที่อนุมัติการให้สัตยาบันรับรองกองทุน ESM ส่วนการที่ศาลระบุเงื่อนไขว่าควรมีการจำกัดภาระทางการเงินของเยอรมนีในกองทุนดังกล่าวไว้ที่ 1.9 แสนล้านยูโร (2.45แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) นั้น นายมอนติกล่าวว่า “เงื่อนไขดังกล่าวจะไม่เป็นอุปสรรคต่อกลไกรักษาเสถียรภาพ” ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนตั๋วเงินคลังอายุ 1 ปีของอิตาลีดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดนับแต่เดือนมี.ค.ในวันนี้ หลังมีคำตัดสินของศาลเยอรมนี โดยอิตาลีประมูลขายตั๋วเงินคลังอายุ 1 ปีได้ 9 พันล้านยูโร (1.1 หมื่นล้านดอลลาร์) และตั๋วเงินคลังอายุ 3 เดือนได้ 3 พันล้านยูโร (3.8 พันล้านดอลลาร์)
CME Group ระบุ ในรายงานความคิดเห็นตลาดว่า เทรดเดอร์หลายรายได้มองเห็นการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเยอรมนีให้เป็นตัว กระตุ้นความเสี่ยงในสินค้าโภคภัณฑ์ และสนับสนุนราคาทองคำอย่างแข็งแกร่งในช่วงบ่ายวันนี้ นอกจากนี้การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ในช่วงก่อนการแถลงการณ์ของเฟดนั้นก็ นับว่าเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับตลาดทองคำ อย่างไรก็ตาม การที่มีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาในเชิงบวกส่งผลในเชิงลบต่อราคาทองคำให้ ปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดตอนแรก
ความสนใจ ณ ขณะนี้มุ่งไปที่การประชุม FOMC ซึ่งจะมีการสรุปผลการประชุมประจำเดือนกันยายน โดยเทรดเดอร์หลายรายคาดหวังว่า เฟดจะมีการประกาศมาตรการ QE3 ซึ่ง ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริงจะเป็นการสนับสนุนราคาทองคำ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางรายได้ลดการเก็งกำไรในทิศทางขาขึ้นก่อนการตัดสินใจของเฟด
ผล สำรวจจากรอยเตอร์ระบุว่า มีโอกาสเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ที่เฟดจะดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อเร่งการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาภาคแรงงานและนโยบายการคลังที่ไม่แน่นอน ส่งผลให้มีความเป็นไปได้สูงที่เฟดจะออกมาประกาศนโยบายQE3 ใน วันนี้ และเนื่องจากการจ้างงานเป็นปัจจัยหลักสำหรับเฟด เพราะฉะนั้น การที่ตัวเลขภาคการจ้างงานของสหรัฐออกมาแย่กว่าที่คาดไว้ ทำให้เฟดมีเหตุผลที่ดีพอสำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจในตอนนี้
นาย โฮเซ มานูเอล บาร์โรโซ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปได้ออกมาเรียกร้องให้ประเทศในยุโรป โดยเฉพาะประเทศในยูโรโซนให้ร่วมมือกันสร้างสหพันธ์ขึ้นมา ซึ่งจะไม่ใช่การรวมทุกประเทศภายใต้ชื่อเดียว แต่จะเป็นสหพันธ์ที่ใช้ประชาธิปไตยเป็นหลักและจะร่วมมือกันแก้ไขปัญหาต่างๆ ด้วยการแบ่งปันอำนาจการปกครองที่จะเป็นประโยชน์ต่อทุกประเทศและประชาชนทั่ว ไป โดยที่สหรัฐและเอเชียต่างก็เห็นด้วยกับการที่ยุโรปจะทำงานร่วมกันเช่นนี้
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ราคานำเข้าเดือนส.ค.ปรับตัวสูงขึ้น 0.7% ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน เนื่องจากต้นทุนการนำเข้าน้ำมันเพิ่มขึ้น 4.1% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าราคานำเข้าจะเพิ่มขึ้น 1.4-1.5%
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันพุธ
- Import Prices m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.6% คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ 1.4% ตัวเลขจริงออกมาที่0.7%
- Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -7.4M คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ -1.8M ตัวเลขจริงออกมาที่ 2.0M
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้
- PPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.3% คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ 1.1%
- Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 365K คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ 370K
- Core PPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.4% คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ 0.2%
- Federal Budget Balance ตัวเลขเดิมอยู่ที่ -69.6B คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ -156.1B
- FOMC Press Conference
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold — โดยภาพรวมราคาทองคำเมื่อวานมีการแกว่งตัวในช่วงบ่ายสามโมง หลังจากการประกาศของศาลรัฐธรรมนูญเยอรมนีในการที่จะอนุมัติกองทุน ESM ให้มีการเข้าซื้อพันธบัตรของอีซีบีได้ ทำให้ราคาทองคำในช่วงนั้นพุ่งสูงขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 1,745 เหรียญโดยประมาณ แต่ก็มีแรงเทขายทำกำไรอย่างหนาแน่น ทำให้ในช่วงตลาด COMEX เองราคากลับปรับตัวลดลงมา และหลังจากที่ตัวเลข import prices ออกมาดีกว่าระดับเดิมเล็กน้อยมาอยู่ที่ 0.7% และความกังวลในเรื่องในการที่ว่าอาจจะไม่มีมาตรการ QE3 จึงทำให้มีแรงเทขายอย่างหนาแน่นลงมาที่ระดับ 1,730 เหรียญ และทดสอบจุดต่ำสุดเมื่อวานที่ระดับ 1,725 เหรียญโดยประมาณ และกลับมาปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,733.7 เหรียญ สรุปได้ว่า โดยภาพรวมราคาทองคำยังเป็นการแกว่งตัวอย่างมาก ยังมีการแกว่งตัวตาม Hedge Funds ต่างๆ แนะนำให้นักลงทุนลดสถานะ Long Position ปรับพอร์ทให้สมดุลก่อนการแถลงข่าวของเฟด ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 1.15 น. ในคืนนี้ ซึ่งราคาอาจจะเคลื่อนตัวไปได้ทั้ง 2 ทิศทาง
Gold Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,550 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,750 บาท
Gold Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,650 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,850 บาท
Silver Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 1,010 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,040 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade)
เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,730 -1,740 เหรียญ
นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade)
ลดพอร์ทให้เหลือเพียง 10% รอจังหวะเข้าช้อนซื้อและขายเมื่อการแถลงข่าวของเฟดออกมา
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
ลดพอร์ทลงเหลือ 10% เช่นเดียวกัน รอคำแถลงข่าวของเฟด
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัท ไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้ วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง