สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันศุกร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2555 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Friday September 14, 2012 11:08 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ก.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,731 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,733 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.01 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 25,300 บาท กับ 25,400 บาท และกลับมาปิดที่ 25,300บาท กับ 25,400 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 3,664คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 10,932 คู่สัญญา และSilver Futures อยู่ที่ 24 คู่สัญญา OpenInterest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 3.02 % แบบ 10 บาท มากขึ้น 7.5 % Silver Futures เพิ่มขึ้น 2.7% GFV12 ปิด 25,630 บาท และ GFZ12 ปิด 25,730บาท GF10V12 ปิดที่ 25,600 บาท GF10Z12 ปิดที่ 25,740บาท SVV12 ปิดที่ 1,030และ SVZ12 ปิดช่วงกลางคืนที่ - สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 38.4 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,772.1 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 148.6 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 34.778 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,292.43ตัน (ซื้อเข้า3.01)น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 1.3 เซนต์ ปิดที่ระดับ 98.31 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 206.51 จุด ปิดที่ระดับ 13,539.86 จุด Ratio Gold / Silver 50 เท่ากับ ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ TheBullionDesk, Reuters, Infoquest ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น 2% แตะระดับสูงสุดของปีในการซื้อขายเมื่อคืนนี้ โดยสามารถทะลุระดับ 1,760 เหรียญได้ หลังจากเฟดได้ประกาศว่า จะมีการออกมาตรการ QE3 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและลดระดับการว่างงาน และจะใช้จนกว่ามุมมองในตลาดแรงงานจะฟื้นตัวอย่างยั่งยืน โดยสัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สส่งมอบเดือนธันวาคมปรับตัวสูงขึ้น 38.4 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,772.10 เหรียญ/ออนซ์ มีปริมาณการซื้อขายแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม อยู่ที่ระดับ 40% เหนือค่าเฉลี่ย 250 วัน ในขณะที่สัญญา Options ในตลาด COMEX บ่งชี้ว่า ราคาทองคำอาจปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามที่นักลงทุนรีบกลับเข้าซื้อกลบการลงทุนในทิศทางขาลงหลังการประกาศของเฟด ในแถลงการณ์นโยบายของ FOMC ระบุว่า คณะกรรมาธิการมีมติให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ โดยการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 (QE3) ด้วยการเข้าซื้อหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน (MBS) ในวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน นอกจากนี้ เฟดยังได้มีการใช้มาตรการ Operation Twist ต่อไปจนถึงสิ้นปี ซึ่งจะเป็นการขยายอายุครบกำหนดไถ่ถอนเฉลี่ยของสินทรัพย์ที่ถืออยู่ แถลงการณ์ของเฟดระบุว่า การใช้มาตรการ QE3 ด้วยการซื้อ MBS ซึ่งจะช่วยให้เฟดสามารถเพิ่มการถือครองหลักทรัพย์ระยะยาวได้อีก 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในแต่ละเดือนจนถึงสิ้นปี 2555 นั้น จะช่วยลดแรงกดดันของอัตราดอกเบี้ยระยะยาว, สนับสนุนการทำธุรกรรมในตลาดกู้จำนอง และยังช่วยผ่อนคลายภาวะตึงตัวด้านการเงินในวงกว้างด้วย" การกระตุ้นเศรษฐกิจจากธนาคารกลางสหรัฐจะเป็นตัวสนับสนุนราคาทองคำ เนื่องจากการอัดฉีดสภาพคล่องพิเศษจะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงและก่อให้เกิดภาวะเงินเฟ้อในอนาคต ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0 - 0.25 % ในการประชุมระยะเวลา 2 วันซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวานนี้ (13 ก.ย.) พร้อมขยายระยะเวลาการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษออกไปจนถึงกลางปี 2558 จากเดิมที่กำหนดไว้ถึงช่วงกลางปี 2557 นอกจากนี้ เฟดยังได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในปีนี้ ลงมาอยู่ที่ระดับ 1.7-2% จากที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 1.9-2.4% US-base เทรดเดอร์ กล่าวว่า ตลาดกำลังบ่งชี้ว่าการประกาศของ FOMC เป็นแถลงการณ์ที่มีความแข็งแกร่งมาก ซึ่งภาษาที่ใช้นั้นมีความโดดเด่น โดยเฟดได้กล่าวว่า จะหยุดการอัดฉีดสภาพคล่องหากถึงช่วงเวลาที่เศรษฐกิจฟื้นตัวแข็งแกร่งมากขึ้น นอกจากนี้ ทองคำได้รับผลประโยชน์ได้เรื่องนี้มากที่สุดอย่างเด่นชัด ทั้งนี้อาจเห็นความแน่นอนของราคาที่ระดับ 1,800 เหรียญในระยะอันใกล้ และระดับ 1,919 เหรียญอาจเป็นสิ่งที่น่าท้าทายที่จะเผชิญในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีเดือนพฤศจิกายน อีซีบีระบุในรายงานประจำเดือนว่า มีการคาดการณ์ถึงการเติบโตของเศรษฐกิจในยูโรโซนว่ายังคงมีความอ่อนแอ และไม่แน่นอนมากขึ้น ซึ่งกำลังส่งผลต่อความเชื่อมั่น อีกทั้งยังมีการคาดการณ์ถึงภาวะเงินเฟ้อว่ายังคงอยู่ต่อไปอีกด้วย OECD ระบุเมื่อวานนี้ว่า ภาวะเศรษฐกิจชะลอในกลุ่มประเทศกำลังเกิดใหม่ เช่น จีน อินเดีย และรัสเซีย จะยังคงมีอยู่ในช่วงไม่กี่ไตรมาสที่จะมาถึง ในขณะที่มุมมองเศรษฐกิจต่อประเทศในยูโรโซนยังคงอ่อนแอ เมื่อวานนี้กองทุนทองคำ SPDR เพิ่มการสำรองทองคำ 3.016 ตัน หรือ 0.2% มาอยู่ที่ระดับ 1,292.432 ตัน ในเช้านี้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ในตลาดเอเชีย โดยได้รับผลกระทบหลักมาจากแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ของเฟดในการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ ในวันนี้ช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา นายเดนนิส ล็อคฮาร์ดจะออกมากล่าวแสดงความคิดเรื่องผลสรุปภาคการจ้างงานของการประชุม Great Recession Conference ที่รัฐแอตแลนตา ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันพฤหัสบดี - PPI m/mตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.3% คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ 1.1% ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 1.7% - Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 365K คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ 370Kตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 382K - Core PPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.4% คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ 0.2%ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 0.2% - FOMC Statement - FOMC Press Conference ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ - Core CPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.1% คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ 0.2% - Core Retail Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.8% คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ 0.7% - Retail Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.8% คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ 0.7% - CPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.0% คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ 0.5% - Prelim UoM Consumer Sentiment ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 74.3% คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ 74.1% วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold - ราคาทองคำได้รับแรงขับเคลื่อนจากข่าว QE3 ที่มีแถลงการณ์ออกมาประมาณออกมาตอน 23.30 น. ทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีการแกว่งตัวในช่วงก่อนที่จะมีการแถลงการณ์ FOMC ราคาปรับลงมาบริเวณ 1,725 เหรียญจากการคาดหวังบางส่วนว่าจะไม่มี QE3 แต่ข่าวกลับออกมามี ทำให้มีการดีดตัวอย่างรวดเร็วของราคาในช่วงเวลาประมาณ 23.30 น. ขึ้นมาที่บริเวณ 1,740 เหรียญ และมีแรงซื้ออย่างต่อเนื่องมากมาย ทำให้ราคาได้รับแรงผลักดันขึ้นอย่างรวดเร็วตลอดที่ระดับ 1,750 — 1,760 และ 1,770 เหรียญโดยตลอดตามลำดับ ราคาทองคำกลับมาปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,772.1 เหรียญ โดยเช้านี้เปิดตลาดลงมาประมาณ 1,770 เหรียญ โดยที่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างหนาแน่น ทั้งซื้อและขายสลับกันตลอด MTS Gold วิเคราะห์ได้ว่า ทางเทคนิคราคาทองคำยังคงเป็นแนวโน้มขาขึ้น โดยมีราคาเป้าหมายถัดไปที่ระดับ 1,780 เหรียญเป็นแนวต้านแรกในระยะสั้นๆ สำหรับนักลงทุนรายวัน และราคาเป้าหมายถัดไปคือระดับ 1,800 เหรียญ โดยแนวรับขยับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1,750 เหรียญ สำหรับราคาทองคำแท่งของไทยยังถูกกดด้วยค่าเงินบาทอย่างต่อเนื่อง โดยที่เงินบาทเองเมื่อคืนแข็งค่าต่อเนื่องอย่างรวดเร็วกว่า 15 สตางค์ จากระดับ 31.02 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นมาที่ระดับ 30.88 บาท/ดอลลาร์ในช่วงท้ายตลาด ในขณะที่เปิดตลาดเช้านี้ค่าเงินบาทมาอยู่ที่ระดับ 30.85 บาท/ดอลลาร์ ดังนั้นเงินบาทก็จะมีส่วนกดดันราคาทองคำประมาณบาทละ 150 บาทในขณะนี้ โดยภาพรวมวิเคราะห์ได้ว่า ทิศทางแนวโน้มของทองคำเป็นขาขึ้น และมีโอกาสที่จะไปทดสอบที่ระดับจุดสูงสุดที่ 1,930 เหรียญสำหรับระยะเวลาในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้เป็นเป้าหมายในระยะยาว Gold Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,850 บาท และแนวต้านที่ระดับ 26,050 บาท Gold Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,950 บาท และแนวต้านที่ระดับ 26,150 บาท Silver Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 1,050 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,080 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade) เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,765 -1,780 เหรียญ นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade) เป็นการซื้อเพิ่มเมื่อคืนนี้ตามที่ได้วิเคราะห์ไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า ถ้ามี QE3 ให้เข้าซื้อเพิ่มตลอด ถือครองพอร์ทที่ 30% ให้ขายทำกำไรออกไปบ้างเนื่องจากราคาแกว่งตัวมาก ซึ่งน่าจะซื้อตั้งแต่เมื่อวานและน่าจะขายในวันนี้ นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง เข้าซื้อเก็บสะสมต่อเนื่อง ถือครองพอร์ท 30-40% สรุปได้ว่า โดยภาพรวมในระยะยาวมองทองคำเป็นขาขึ้น แต่อาจจะขึ้นไม่มากนักเนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ