ตลาดคอนโดมิเนียมในชะอำ หัวหิน และปราณบุรี ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ข่าวอสังหา Friday September 14, 2012 11:17 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ก.ย.--Triple Eight Ideas ในช่วงระหว่างครึ่งปีแรกของปีพ.ศ.2555 ตลาดที่อยู่อาศัยในชะอำ หัวหิน และปราณบุรี ยังคงมีสัญญาณการเติบโตที่ดี และต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมในเขตชะอำ และหัวหิน อ้างอิงจากรายงานฉบับล่าสุดของคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย นายสุรเชษฐ กองชีพ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย รายงานว่า “อุปทานทั้งหมดของคอนโดมิเนียมในพื้นที่ชะอำ หัวหิน และปราณบุรี มีประมาณ 7,980 ยูนิต โดยที่ประมาณ 47% ของทั้งหมดนั้นอยู่ในพื้นที่หัวหินฝั่งทะเล ผู้ประกอบการหลายรายเริ่มให้ความสนใจในพื้นที่ชะอำมากขึ้นในช่วงระหว่างปีพ.ศ.2554 — 2555 และมีโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการที่เปิดขายในพื้นที่ชะอำ ดังนั้นในอีก 2 — 3 ปีข้างหน้าพื้นที่ชะอำเป็นพื้นที่ที่คอนโดมิเนียมอยู่มากที่สุด นอกจากนั้นการขาดแคลนที่ดินในพื้นที่หัวหินก็เป็นอีกอุปสรรคหนึ่งในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในพื้นที่หัวหิน โครงการคอนโดมิเนียมระดับบนส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่หัวหิน เพราะราคาที่ดินที่สูงกว่าพื้นที่อื่นๆ ทำให้ไม่เหมาะในการพัฒนาโครงการระดับกลางถึงล่าง” “คอนโดมิเนียมที่เปิดขายในช่วงครึ่งปีแรกของปีพ.ศ.2555 มีประมาณ 3,060 ยูนิต พื้นที่ชะอำยังคงได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา เพราะมีคอนโดมิเนียมประมาณ 1,422 ยูนิตที่เปิดขายในพื้นที่นี้ หรือประมาณ 46% ของยูนิตที่เปิดขายทั้งหมดในช่วง 6 เดือนแรกของปีพ.ศ.2555 เนื่องจากมีโครงการคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ที่มีจำนวนยูนิตมากกว่า 1,000 ยูนิตเปิดขายในช่วงครึ่งปีแรกนี้ และโครงการคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ที่เปิดขายในช่วง 1 — 2 ปีที่ผ่านมาโดยส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในพื้นที่ชะอำ เพราะยังคงมีที่ดินที่มีความเหมาะสมในการลงทุนพัฒนาโครงการและราคายังต่ำกว่าพื้นที่อื่นๆ” นายสุรเชษฐ กล่าว “เปอร์เซ็นต์ที่ขายได้เฉลี่ยของทุกพื้นที่ในช่วงครึ่งปีแรกพ.ศ.2555 นั้นอยู่ที่ประมาณ 61% ใกล้เคียงกับช่วงครึ่งปีหลังพ.ศ.2554 ถึงแม้ว่าจะมีคอนโดมิเนียมมากกว่า 3,000 ยูนิตที่เปิดขายในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ คอนโดมิเนียมในชะอำ และหัวหินยังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ซื้อ” นายสุรเชษฐ กล่าว เขายังกล่าวอีกว่า “เปอร์เซ็นต์ของยูนิตที่ขายได้ในพื้นที่หัวหินฝั่งภูเขาที่สูงกว่า 74% นั้น ในขณะที่ปราณบุรีแค่ 62% เท่านั้น เนื่องมาจากมี 2 โครงการจากผู้ประกอบการรายใหญ่จากกรุงเทพฯ ที่เปิดขายอย่างเป็นทางการในเดือนเมษายน พ.ศ.2555 และสามารถปิดการขายได้ระยะเวลารวดเร็ว ผู้ประกอบการในตลาดหลักทรัพย์หลายรายเข้ามาลงทุนพัฒนาโครงการในพื้นที่ชะอำ หัวหิน และปราณบุรีแล้ว ซึ่งผู้ประกอบการรายที่โดดเด่นที่สุดคือ แสนสิริ ด้วยจำนวนโครงการมากกว่า 10 โครงการ, ชาญอิสสระกับโครงการคอนโดมิเนียม และบ้านจัดสรรรวมแล้ว 3 โครงการ, เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์กับโครงการคอนโดมิเนียม 2 โครงการ, 1 โครงการจากแลนด์แอนด์เฮ้าส์ และเอสซี แอสเส็ท ที่เพิ่งเปิดตัวโครงการแรกไปในช่วงครึ่งปีแรกนี้เอง ซึ่งยังคงมีผู้ประกอบการรายใหญ่อื่นที่มีแผนจะลงทุนพัฒนาโครงการแรกในพื้นที่นี้เช่นกัน” “ราคาขายเฉลี่ยในพื้นที่หัวหินฝั่งทะเลสูงที่สุดโดยอยู่ที่ประมาณ 73,500 บาทต่อตารางเมตร ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา สาเหตุที่ทำให้พื้นที่หัวหินฝั่งทะเลมีราคาขายเฉลี่ยคือบางโครงการที่สร้างเสร็จแล้วและยังคงขายไม่หมด ทำให้ราคาที่เสนอขายนั้นสูงขึ้นมาก” นายสัญชัย คูเอกชัย ผู้จัดการอาวุโส สาขาหัวหิน กล่าว “การจราจรในตัวเมืองหัวหินนั้นติดขัดมากทุกๆ วันหยุดสุดสัปดาห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงวันหยุดยาว คนไทยเป็นจำนวนมากเลือกที่จะพักอยู่ที่ชะอำมากกว่าเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหารถติดในหัวหิน ชะอำจึงเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น และเหมาะที่จะเป็นสถานที่สำหรับบ้านหลังที่สอง เนื่องจากความเงียบสงบ และไม่วุ่นวาย นอกจากชาวไทยแล้วในช่วงระหว่าง 6 เดือนแรกของปีนี้ พวกเราได้รับการสอบถามเรื่องคอนโดมิเนียมจากผู้ซื้อที่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งจากจีน และสิงคโปร์ ในขณะที่ชาวต่างชาติจากทางยุโรป และอเมริกานั้นหายไปเลยในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา โดยที่ชาวต่างชาติจากประเทศเพื่อนบ้านเรานั้นสนใจในโครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ฝั่งชายทะเล” นายสัญชัย กล่าวเพิ่มเติม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยจำกัดพัทธ์ธีรา สุกใส (แตงโม) โทร 02 664 0888 E-mail:patteera@888ideas.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ