โอ ปอง แปง ครบรอบ 7 ปี พร้อมปรับโฉมครั้งใหญ่ ตั้งเป้ารักษาตลาดผู้นำ “เบเกอรี่ คาเฟ่” ในไทย

ข่าวทั่วไป Tuesday August 24, 2004 11:30 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 ส.ค.--โอ ปอง แปง
โอ ปอง แปง วางแผนขยายธุรกิจ “เบเกอรี่ คาเฟ่” ภายหลังเปิดดำเนินธุรกิจในไทยจนประสบความสำเร็จต่อเนื่องตลอด 7 ปี เร่งปรับภาพลักษณ์ใหม่ใช้สีฟ้าเหลืองเพิ่มความสดใสและทันสมัยประเดิมสาขาอาคารมาลีนนท์แห่งแรก พร้อมทยอยปรับทั่วประเทศ ควบคู่เปิดสาขาใหม่อีก 5 แห่งด้วยงบประมาณไม่ต่ำกว่า 4 ล้านบาทต่อสาขา เตรียมออกเมนูขนม-เครื่องดื่มใหม่ รวมทั้งขยายบริการ Delivery และ Catering คาดสิ้นปีขยายตัวไม่ต่ำกว่า 5%
นายนาดีม ซาเวียร์ ซาลฮานี กรรมการบริหาร บริษัท รอยัล เอบีพี จำกัด ผู้นำธุรกิจเบเกอรี่ คาเฟ่ จากประเทศอเมริกา ภายใต้แบรนด์ “โอ ปอง แปง” เปิดเผยถึงนโยบายและแผนงานของบริษัทฯ ในขณะนี้ว่า บริษัทฯ ได้เตรียมขยายตลาดเชิงรุกมากขึ้นภายหลังเปิดร้านโอ ปอง แปง ในประเทศไทยครบ 7 ปี โดยได้ดำเนินการปรับภาพลักษณ์ครั้งใหญ่ตามบริษัทแม่ที่สหรัฐอเมริกาไม่ว่าจะเป็นโลโก้ โต๊ะ เก้าอี้ เคาน์เตอร์ และสีสันภายในร้าน โดยใช้สีฟ้าและเหลืองซึ่งโดดเด่น สะดุดตา เข้ามาเพิ่มความสดใส สะท้อนความเป็นเบเกอรี่ในเมืองที่ทันสมัยและมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร รวมทั้งยูนิฟอร์มพนักงานก็ได้ปรับใช้สีขาวเหมือนเชฟ เพื่อให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นถึงความเชี่ยวชาญด้านเบเกอรี่และอาหารอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ใช้งบประมาณ 4 ล้านบาทในการปรับปรุงแต่ละสาขาซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 29 แห่ง รวมทั้งการเปิดร้านใหม่อีก 5 สาขาในกรุงเทพและต่างจังหวัดภายในสิ้นปี โดยรูปแบบร้านใหม่ได้เปิดให้บริการที่สาขาอาคารมาลีนนท์เป็นแห่งแรกและจะทยอยปรับให้ครบทุกสาขา
นายซาลฮานี กล่าวว่า บริษัทฯ ยังคงเน้นนโยบายด้านการตลาดที่ไม่หยุดนิ่งเพื่อรักษาความเป็นผู้นำตลาดด้านเบเกอรี่ ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอสินค้าใหม่ๆ เข้ามาให้ผู้บริโภคได้เลือกมากขึ้น โดยล่าสุดบริษัทได้ออกบราวนี่ และ สโคนใหม่อีก 3 ชนิด รวมทั้งเพิ่มชา “โบดัม” 6 ชนิด ซึ่งเป็นใบชาที่
ถูกคัดสรรจากประเทศต่างๆแล้วนำมาผลิตเป็นชาที่หลากหลายในประเทศเยอรมัน จนเป็นชาคุณภาพดีและมีชื่อเสียงทั่วโลก นอกจากนี้ ยังจะมีการปรับปรุงพื้นที่บางส่วนเพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกหยิบสินค้าหรือสั่งอาหารได้สะดวกขึ้น
“จุดเด่นของ โอ ปอง แปง อยู่ที่สินค้ามีคุณภาพ เรายึดหลักการความใหม่สดให้ลูกค้า โดยสินค้าของโอ ปอง แปง จะถูกกำหนดเวลาที่เรียกว่า Kill Time เพื่อเป็นมาตรฐานของสินค้าว่ามีระยะเวลาในการขายกี่ชั่วโมง จึงมั่นใจได้ถึงคุณภาพและความอร่อยที่เหมือนเดิม นอกจากนี้ การนำเสนอสินค้าใหม่ไม่ว่าจะเป็นแซนวิช เบเกอรี่ ซุป หรือเครื่องดื่มต่างๆจะมีส่วนผสมและวิธีทำจากบริษัทแม่ และได้รับการคัดสรรให้เหมาะกับลูกค้าคนไทย หรือหากเป็นสินค้าอื่นก็จะเป็นสินค้าที่มีมาตรฐานสูงเช่นเดียวกัน” นายซาลฮานี กล่าวพร้อมให้รายละเอียดว่า
ภายในครึ่งปีหลังนี้ โอ ปอง แปง จะขยายธุรกิจการจัดเลี้ยง (Catering) เพิ่มมากขึ้น หลังจากมีประสบการณ์มาเกือบ 4 ปี โดยบริษัทฯ ได้นำทีมงานบริหารที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาขยายตลาดออกไปให้กว้างขึ้น โดยจะเจาะกลุ่มเป้าหมายตามงานเปิดตัวสินค้า งานฉลองพนักงานบริษัท งานแต่งงาน งานวันเกิด ฯลฯ อีกทั้งยังเน้นการให้บริการด้านส่งอาหาร (Delivery) ซึ่งบริษัทฯ ได้มีการพัฒนาด้านการให้บริการมากขึ้นเพื่อรองรับกับแนวโน้มของตลาดที่ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก โดยบริษัทฯ ได้ใช้กลยุทธ์ทางการตลาดด้วยการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ทางหนังสือพิมพ์ นิตยสาร วิทยุ และการจัดโปรโมชั่น ด้วยงบประมาณ 3.5 % ของยอดขายรวม
สำหรับผลประกอบการในครึ่งปีแรก โอ ปอง แปง มีการเติบโตต่อเนื่องด้วยยอดขายเฉลี่ยต่อสาขาประมาณ 1-2.5 ล้านบาทต่อเดือน ทั้งนี้ เป็นผลมาจากบริษัทฯ มีการปรับทีมผู้บริหารและปรับปรุงระบบการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งคาดว่า ในสิ้นปีนี้ โอ ปอง แปง จะมีอัตราการขยายตัวด้านยอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 5%
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ
สาวิตรี ปึงเจริญกุล ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์
01-816-4598--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--

แท็ก มาลี   ขนม  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ