กรุงเทพฯ--17 ก.ย.--IR network
บมจ. ที.เอ็ม.ซี.อุตสาหกรรม (TMC) ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องจักรระบบไฮดรอลิค เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ประกาศแต่งตั้ง บล. ฟินันเซีย ไซรัส เป็นแกนนำอันเดอร์ไรท์ เตรียมขายไอพีโอ 90 ล้านหุ้น ในไตรมาส 4 ปีนี้ นำเงินขยายโรงงาน รองรับออเดอร์ที่ทะลักล้นมือ ด้าน "ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่" ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ระบุนักลงทุนไม่ผิดหวังแน่นอน เหตุเป็นบริษัทที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง แนวโน้มในอนาคตยังสามารถขยายตัวได้อีกมากตามทิศทางอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยมีลูกค้าระดับชั้นนำของประเทศ อาทิ โตโยต้า ฮอนด้า และนิสสัน เป็นต้น นอกจากนี้ยังเป็นผู้ประกอบการเพียงรายเดียวในประเทศไทยที่สามารถผลิตเครนแบบพับได้ และเครื่องเพรสระบบไฮดรอลิคที่สร้างแรงกดได้ถึง 3,500 ตัน
นายสุรเชษฐ์ กมลมงคลสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.เอ็ม.ซี อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) (TMC) เปิดเผยว่าได้แต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) (FSS) เป็นผู้จัดการ การจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ของ TMC โดยบริษัทฯเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 200 ล้านบาท เป็น 290 ล้านบาท ด้วยการออกหุ้นสามัญใหม่ จำนวน 90 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท คิดเป็น 31.03% ของจำนวนหุ้นที่เรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายในครั้งนี้ แบ่งเป็นการเสนอขายต่อประชาชนจำนวน 85 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อผู้บริหารและพนักงานของบริษัทจำนวน 5 ล้านหุ้น โดยเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนในครั้งนี้ จะนำไปขยายโรงงานแห่งที่ 3 รวมถึงเป็นเงินทุนหมุนเวียนและชำระคืนเงินกู้ยืม
"ในปัจจุบันโรงงานทั้ง 2 แห่งผลิตเต็ม 100% ซึ่งไม่เพียงพอกับคำสั่งซื้อที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เป็นรายได้หลักกว่า 50% ซึ่งมีออร์เดอร์เข้ามาเป็นจำนวนมาก ตามยอดขายรถยนต์ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว รวมถึงการออกโมเดลใหม่ๆของรถยนต์ค่ายต่างๆ" นายสุรเชษฐ์กล่าว
ทั้งนี้ บมจ. ที.เอ็ม.ซี.อุตสาหกรรม (TMC) เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องจักรระบบไฮดรอลิค เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมทั้งเครนระบบไฮดรอลิค และเครื่องทุ่นแรงระบบ ไฮดรอลิค เพื่อใช้ในงานอุตสาหกรรมทั่วไปและศูนย์บริการรถยนต์ จักรยานยนต์ รวมทั้งจัดหาและจัดจำหน่ายเครื่องทุ่นแรงระบบไฮดรอลิคบางประเภท ภายใต้ตราสินค้า "TMC" โดยบริษัทฯสามารถผลิตเครื่องเพรสระบบไฮดรอลิคที่สามารถสร้างแรงกดได้ถึง 3,500 ตันได้เป็นรายเดียวในประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นผู้ผลิตเครนแบบพับได้เป็นรายเดียวในประเทศไทย ซึ่งลูกค้าหลักๆของบริษัท ได้แก่โรงประกอบรถยนต์ ของค่ายรถยนต์ยี่ห้อต่างๆ เช่น โตโยต้า ฮอนด้า และ นิสสัน รวมถึงผู้ผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ต่างๆ
นายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินเปิดเผยว่า TMC เป็นบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีแนวโน้มการเติบโตตามทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ยังคงสดใสตามยอดการผลิตรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น จนทำให้ผู้ประกอบยานยนต์ ผู้ผลิตแม่พิมพ์และผู้ผลิตชิ้นส่วน เพื่อป้อนให้กับค่ายผู้ประกอบยานยนต์ชั้นนำต้องสั่งเครื่องเพรสระบบไฮดรอลิคเพิ่ม เพื่อขยายกำลังการผลิตให้เพียงพอกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันการออกโมเดลรถยนต์ใหม่ของค่ายรถยนต์ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องมีการสั่งเครื่องจักรใหม่ เพื่อรองรับการประกอบรถยนต์รุ่นใหม่ด้วย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยบวกสำหรับ TMC
ในด้านของผลการดำเนินงานของ TMC มีการเติบโตของรายได้และกำไรสุทธิอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาโดยในปี 2552 บริษัทมีรายได้รวม 367.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 474.45 ล้านบาท ในปี 2553 และ 675.24 ล้านบาทในปี 2554 ขณะที่งวดครึ่งแรกของปี 2555 มีรายได้รวม 437.06 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิในปี 2552 อยู่ที่ 11.89 ล้านบาท ปี 2553 อยู่ที่ 11.35 ล้านบาท และปี 2554 มีกำไรสุทธิ 32.42 ล้านบาท ขณะที่งวดครึ่งแรกของปี 2555 มีกำไรสุทธิ 59.09 ล้านบาท
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส ในฐานะแกนนำการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ TMC ในครั้งนี้ คาดว่าจะสามารถเปิดจองซื้อหุ้น IPO รวมถึงเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้ภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ การที่บริษัทฯ เข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้ จะนำเงินส่วนใหญ่ไปขยายก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 3 ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 60 จากกำลังการผลิตที่มีอยู่ในปัจจุบัน อันจะส่งผลทำให้บริษัทฯ มีโอกาสเติบโตได้อีกในอนาคต นอกจากนี้ ยังช่วยเสริมสภาพคล่องของบริษัทฯ อีกด้วย โดยผมเชื่อว่าหุ้น TMC จะได้รับความสนใจจากผู้ลงทุน และเป็นทางเลือกที่มีคุณภาพอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับนักลงทุน