กรุงเทพฯ--17 ก.ย.--ปตท.
ราคาน้ำมันเฉลี่ยในสัปดาห์ 10-14 ก.ย. น้ำมันดิบดูไบ (Dubai) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.66 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนหน้า (W-O-W) อยู่ที่ระดับ 113.82 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล น้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) เพิ่มขึ้น 1.58 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 115.74 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบเวสท์ เท็กซัสฯ (WTI) เพิ่มขึ้น 1.96 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลอยู่ที่ 97.61 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาเฉลี่ยน้ำมันน้ำมันเบนซินออคเทน 95 เพิ่มขึ้น 4.41 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 128.55 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตาม น้ำมันดีเซลลดลง 0.31 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 132.38 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ ได้แก่
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันในเชิงบวก
- การแก้ปัญหาวิกฤตหนี้ยุโรปคืบหน้า โดยประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยืนยันแผนเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลของกลุ่มประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโร 17 ประเทศ ที่มีปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ โดยไม่จำกัดวงเงิน และ ศาลรัฐธรรมนูญเยอรมนีตัดสินว่าการร่วมตั้งกองทุน กลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ของรัฐบาล ไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญ
- ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve หรือ Fed) ประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณเป็นครั้งที่ 3 (Quantitative Easing หรือ QE3) โดยไม่จำกัดวงเงิน ซึ่งต่างจาก 2 ครั้งแรก โดย Fed จะเข้าซื้อหนี้ภาคอสังหาริมทรัพย์มูลค่า 4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือน จนกว่าการขยายตัวของตลาดแรงงานจะมีเสถียรภาพ
- เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำลิเบีย และนักการทูตอีก 3 นาย ถูกสังหารในระหว่างการประท้วงปิดล้อมสถานกงสุลที่เมือง Benghazi ซึ่งเกิดจากความไม่พอใจของชาวมุสลิมต่อหนังสั้น “Innocence of Muslims” ที่มีเนื้อหาลบหลู่ศาสนา ในเวลาต่อมาสหรัฐฯ ส่งเรือรบ 2 ลำเข้าไปใกล้น่านน้ำลิเบีย
- การประท้วงต่อต้านสหรัฐฯ แผ่ขยายในโลกอาหรับ มีผู้พยายามบุกเข้าสถานทูตสหรัฐฯ ในเยเมนที่เมือง SANA อียิปต์ที่กรุงไคโร กลุ่มผู้ประท้วงใน ซูดาน โมร็อกโก ตูนีเซีย รวมทั้ง กลุ่ม Hezbollah กองกำลังติดอาวุธของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ในเลบานอน เรียกร้องให้ชาวเลบานอนออกมาประท้วงต่อต้านเช่นกัน
- สำนักสารสนเทศพลังงานของสหรัฐฯ (Energy Information Administration หรือ EIA) รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 7 ก.ย. 55 ลดลงกว่าที่คาดการณ์ โดยลดลง 7.4 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 357.1 ล้านบาร์เรล
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันในเชิงลบ
- OPEC รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในเดือน ส.ค. 55 เพิ่มขึ้น 0.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ 31.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย นาย Ali al-Naimi กล่าวปริมาณการผลิตน้ำมันของผู้ผลิตในอ่าวเปอร์เซียหลัก 3 ประเทศ ได้แก่ คูเวต, ซาอุดีอาระเบีย และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (United Arab Emirates หรือ UAE) ในเดือน ส.ค. 55 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน รวม 0.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยคูเวตผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 0.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 3.0 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของอิรักในครึ่งแรกของเดือน ก.ย. 55 เพิ่มขึ้น อยู่ที่ 31.6 ล้านบาร์เรล หรือ 2.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน จาก 2.02 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือนก่อนหน้า
- ลิเบียผลิตน้ำมันดิบใน 7 เดือนแรกของ พ.ศ. 2555 เฉลี่ยอยู่ที่ 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน กลับมาใกล้เคียงกับระดับหลังสงครามกลางเมือง เร็วกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ทั้งนี้ ปกติลิเบียมีกำลังการผลิตน้ำมันดิบประมาณ 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- อิหร่านยังสามารถส่งออกน้ำมันดิบสู่ตลาดโลก แม้ชาติตะวันตกออกมาตรการคว่ำบาตร ที่ทำให้บริษัทประกันของสหภาพยุโรปงดรับประกันภัยเรือบรรทุกน้ำมันจากอิหร่าน โดยบริษัทประกันของอิหร่านเป็นผู้ออกกรมธรรม์รับประกันภัยเรือที่ขนส่งน้ำมันจากประเทศตนเอง
แนวโน้มราคาน้ำมัน
ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น นักลงทุนหันมาสนใจสินค้าโภคภัณฑ์หลัง Fed ประกาศใช้มาตรการ QE3 เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณชะลอตัว และมีแนวโน้มจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0% จนถึงกลางปี พ.ศ. 2558 และ นายกรัฐมนตรีอิสราเอล นาย Benjamin Netanyahu ออกมาเตือนโครงการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่านจะประสบความสำเร็จในอีก 6 เดือนข้างหน้า โดยจะมียูเรเนียมสมรรถนะสูงสำหรับผลิตอาวุธในระดับอันตราย และกดดันสหรัฐฯ ขีดเส้นตาย "Red Zone" ให้อิหร่านหยุดดำเนินการ และ สถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ในโลกอาหรับมีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงและลุกลามขยายวงกว้าง อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจจีนชะลอตัวต่อเนื่องจากภาคการผลิตที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจยุโรป สถาบันสถิติแห่งชาติรายงานผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือน ส.ค. 55 ชะลอตัว ลดลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน โดยลดลง 0.3% จากเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ 8.9% สัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันยังคงแข็งแกร่ง ในระยะสั้นราคาน้ำมันดิบ Brent และ WTI ในตลาดซื้อขายล่วงหน้าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 113-120 USD/BBL และ 95-103 USD/BBL ตามลำดับ ให้จับตามองสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มประเทศอาหรับกับตะวันตกอย่างใกล้ชิด เพราะอาจทำให้อุปทานน้ำมันดิบจากตะวันออกกลางตึงตัว