กรุงเทพฯ--17 ก.ย.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แนะวิธีขับขี่รถบนทางด่วนอย่างปลอดภัย โดยวางแผนศึกษาเส้นทาง โดยเฉพาะจุดขึ้น — ลง ทางด่วน ทางเบี่ยง ทางแยกรูปตัววาย และทางยกระดับ เพราะเป็นจุดเสี่ยงที่มักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง พร้อมหมั่นสังเกตเครื่องหมายจราจร ป้ายบอกทาง ป้ายจำกัดความเร็วรถบนทางด่วนและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ไม่เปลี่ยนช่องทางเดินรถกะทันหัน ชะลอความเร็วหรือหยุดรถในระยะกระชั้นชิด จะเพิ่มความเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า การขับรถบนทางด่วนมีความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายมากกว่าการขับรถบนถนนทั่วไป เพราะเป็นเส้นทางที่ผู้ขับขี่สามารถใช้ความเร็วสูง ทำให้มักเกิดอุบัติเหตุในลักษณะรุนแรง เพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอแนะการขับรถบนทางด่วนอย่างปลอดภัย ดังนี้ ก่อนการเดินทาง วางแผนและศึกษาเส้นทาง โดยเฉพาะจุดขึ้นลง ทางเบี่ยงบนทางด่วน จะได้เลือกใช้เส้นทางได้อย่างถูกต้องและป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดจากความไม่ชำนาญเส้นทาง พร้อมทั้งจดจำหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินสำหรับใช้ติดต่อขอความช่วยเหลือเมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือรถเสีย
บนทางด่วน ขณะเดินทาง เพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ ไม่ขับรถด้วยความเร็วสูง โดยเฉพาะจุดขึ้น — ลง ทางด่วน เส้นทางเบี่ยงและทางแยกรูปตัววายบนทางด่วนและทางยกระดับ เพราะเป็นจุดเสี่ยงที่มักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง รวมทั้งไม่เปลี่ยนช่องทางเดินรถกะทันหัน หมั่นสังเกตเครื่องหมายจราจร ป้ายบอกทาง ป้ายจำกัดความเร็วรถบนทางด่วนและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ไม่ชะลอความเร็วหรือหยุดรถในระยะกระชั้นชิด เพราะรถที่วิ่งบนทางด่วนใช้ความเร็วสูง อาจไม่สามารถเบี่ยงหลบได้ทัน ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ตลอดจนห้ามจอดหรือหยุดรถบนทางด่วน เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน หากจำเป็นต้องหยุดรถให้จอดรถในบริเวณจุดพักรถที่กำหนด กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ให้นำรถจอดชิดขอบทางด้านซ้าย และเปิดไฟฉุกเฉิน นำป้ายหรือวัสดุสะท้อนแสงอื่นๆ ตั้งไว้ด้านหลังรถก่อนถึงจุดเกิดเหตุไม่ต่ำกว่า 50 เมตร เพื่อเตือนให้ผู้ขับรถคันอื่นทราบจะได้เบี่ยงหลบได้ทัน พร้อมทั้งรีบโทรแจ้งศูนย์ควบคุมทางด่วน ที่สำคัญ รถบรรทุกคนหรือสิ่งของที่ไม่มีหลังคาปิดมิดชิด และรถบรรทุกที่มีน้ำหนักเกินกฎหมายกำหนดห้ามใช้ทางด่วนอย่างเด็ดขาด เพราะนอกจากจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนแล้วยังผิดกฎหมายอีกด้วย สุดท้ายนี้ เพื่อความปลอดภัย ผู้ขับขี่ควรขับรถด้วยความระมัดระวัง ไม่ขับรถเร็ว ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด รวมทั้งมีน้ำใจกับผู้ร่วมใช้เส้นทาง ตลอดจนคาดเข็มนิรภัยทุกครั้ง จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในลักษณะรุนแรงได้