กรุงเทพฯ--19 ก.ย.--กรมธนารักษ์
นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะกำกับดูแลกรมธนารักษ์เปิดเผยว่า กรณีการก่อสร้างท่าเทียบเรือเกาะเสม็ด ซึ่งกำลังเป็นข่าวขัดแย้งอยู่ในขณะนี้นั้น จังหวัดระยองโดยสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ระยองได้ดำเนินการจัดให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดระยองเช่าพื้นที่บริเวณที่เป็นจุดเชื่อมต่อกับท่าเทียบเรือซึ่งเป็นที่ราชพัสดุเพื่อใช้เป็นทางขึ้น - ลง ท่าเทียบเรือ และบางส่วนที่ใช้เป็นที่จอดรถยนต์ เนื้อที่ประมาณ 0-1-31 ไร่ ที่อยู่นอกเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า - หมู่เกาะเสม็ด ส่วนอาคารที่พักผู้โดยสารและสะพานท่าเทียบเรือเกาะเสม็ดสร้างด้วยงบประมาณการก่อสร้างจากกองทุนกระจายการผลิตและการจ้างงานไปสู่ภูมิภาค (กจภ.) จึงเป็นทรัพย์สินขององค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง และส่วนบริเวณที่ตั้งอยู่ในน้ำนั้น มิใช่ที่ราชพัสดุ กรมธนารักษ์จึงไม่สามารถนำมาจัดให้เช่าได้ ซึ่งได้มีการประชุมร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ องค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง กรมธนารักษ์ กรมเจ้าท่าและกรมอุทยานฯ ในส่วนอาคารท่าเทียบเรือที่อยู่ในน้ำจะต้องได้รับอนุญาตและยินยอมจากกรมเจ้าท่าและ กรมอุทยานฯ ก่อน
นายวิรุฬฯ กล่าวต่อว่า พื้นที่บนเกาะเสม็ดทั้งหมด เนื้อที่ประมาณ 4,200 ไร่ เป็นที่ราชพัสดุที่ใช้ในราชการทหารเรือเพื่อเป็นที่ตั้งด่านทหาร ประภาคารและบ้านพักผู้รักษาประภาคาร ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 และในปี 2524 ได้มีการประกาศให้เป็นพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติบางส่วน เนื้อที่ประมาณ 3,500 ไร่ จึงคงเหลือพื้นที่นอกเขตอุยานฯ เนื้อที่ประมาณ 700 ไร่ ซึ่งกองทัพเรือได้ส่งคืนพื้นที่ดังกล่าวให้แก่กรมธนารักษ์เรียบร้อยแล้ว กรมธนารักษ์จึงมีอำนาจในการบริหารจัดการที่ราชพัสดุนอกเขตอุทยานฯ ได้ตามระเบียบของกระทรวงการคลัง
ท้ายสุด เพื่อความเข้าใจในแนวทางปฏิบัติกรณีมีการประกาศเขตอุทยานฯ ซ้อนทับที่ราชพัสดุ นายวิรุฬฯ กล่าวว่า แม้จะมีประกาศเขตอุทยานฯ ที่ดินเหล่านั้นก็ยังคงเป็นที่ราชพัสดุ ซึ่งหากกรมธนารักษ์ จะดำเนินการประการใด ก็จะมีการขออนุญาตหรือขอความเห็นชอบจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ก่อนเริ่มดำเนินการ ซึ่งที่ผ่านมาบนพื้นที่บริเวณอุทยานฯ เกาะเสม็ด ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่กรมธนารักษ์ ว่าในการจะดำเนินการทุกครั้ง จะขอความเห็นชอบจากเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยาน ในจังหวัด