กรุงเทพฯ--25 ส.ค.--กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม
นายเฉลิมศักดิ์ วานิชสมบัติ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยถึงการจัดทำแผนบูรณาการด้านสิ่งแวดล้อมของกลุ่มภารกิจด้านสิ่งแวดล้อมว่า กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) และกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เป็น 2 กรมภายในกระทรวงฯ ที่จัดอยู่ในกลุ่มภารกิจด้านสิ่งแวดล้อม
ซึ่งมีพันธกิจร่วมกันในการกำกับดูแล ส่งเสริม ประสานและติดตามประเมินผลการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมให้เกิดผลสัมฤทธิ์และมีเอกภาพ โดยวางวิสัยทัศน์ร่วมกันว่าจะเป็นกลุ่มภารกิจหลักในการบูรณาการและบริหารจัดการเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ในส่วนของกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมนั้น ได้จัดทำกรอบเพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินงานสำหรับ 4 ปีข้างหน้า คือ พ.ศ. 2547-2550 โดยกำหนดเป็น 4 กลยุทธ์หลัก คือ
1.สร้างโอกาส ส่งเสริมและประสานให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจและมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
2.ส่งเสริมการวิจัยพัฒนา การถ่ายทอดเทคโนโลยี ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น
3.สร้างกลไกความร่วมมือของประชาชนในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และ
4.เสริมสร้างระบบการบริหารจัดการภายในองค์กร ตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวก็เพื่อผลักดันให้การปฏิบัติงานมุ่งไปสู่มาตรการการปรับเปลี่ยนกระบวนการและวิธีการทำงานตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการไทย
นายเฉลิมศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับกรมควบคุมมลพิษนั้น ได้มีการกำหนดกลยุทธ์ในการดำเนินงานสำหรับ พ.ศ. 2547-2550 ไว้ 5 กลยุทธ์หลัก คือ
1.ปฏิรูประบบบริหารจัดการให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง
2.พัฒนา ปรับปรุงระบบฐานข้อมูลให้ทันสมัย
3.เพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้และการปฏิบัติตามกฎหมาย
4.ป้องกันและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอันเนื่องมาจากภาวะมลพิษ และ
5.การดำเนินงานแบบบูรณาการและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม
โดยในส่วนของกรอบการดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์ดังกล่าวของ คพ.นั้น จะมีการให้ข้อเสนอแนะในการกำหนดกฎหมาย แผนงานและมาตรการในการจัดการกับมลพิษ การจัดการเรื่องร้องทุกข์และอุบัติภัยฉุกเฉินด้านมลพิษ การกำกับดูแลและติดตามประเมินผลของคุณภาพสิ่งแวดล้อมรวมถึงแหล่งกำเนิดมลพิษ ตลอดจนการจัดทำฐานข้อมูลสิ่งแวดล้อมเพื่อการบริหารจัดการและการให้บริการประชาชนด้วย
ทั้งนี้ สำหรับแผนปฏิบัติการบูรณาการด้านสิ่งแวดล้อม ที่กลุ่มภารกิจด้านสิ่งแวดล้อม (สส.และ คพ.) จะดำเนินการร่วมกัน ประกอบด้วยแผนปฏิบัติการในพื้นที่สำคัญ 4 แห่ง ได้แก่
1.พื้นที่ลุ่มน้ำปิง จะเน้นการแก้ปัญหาเรื่องน้ำ,ขยะ,สารเคมี และอากาศ
2.พื้นที่ลุ่มน้ำท่าจีน จะเน้นการแก้ปัญหาเรื่องน้ำ
3.พื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา จะเน้นเรื่องการแก้ปัญหาน้ำและขยะ
4.พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จะเน้นการแก้ปัญหาเรื่องอากาศ และขยะ โดยเฉพาะขยะอิเลคทรอนิกส์,พลาสติก และโฟม และแผนบูรณาการของกลุ่มภารกิจด้านสารสนเทศ และด้านวิจัย พัฒนา ฝึกอบรม
อย่างไรก็ดี หลังจากที่กลุ่มภารกิจด้านสิ่งแวดล้อมได้ร่วมกันดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการบูรณาการด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว จะส่งผลดีที่ทำให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รับโอกาสในการดำรงชีวิตหรือประกอบอาชีพที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ในขณะที่แต่ละท้องถิ่นเองจะมีองค์ความรู้จากการวิจัยและพัฒนาที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศ
อีกทั้งยังมีเครือข่ายองค์กรที่เข้มแข็งและให้ความร่วมมือในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--