สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพุธที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2555 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 19, 2012 10:45 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ก.ย.--MTS Gold Futures ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,756 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,771(22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.82 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 25,600 บาท กับ 25,700 บาท และกลับมาปิดที่ 25,600บาท กับ 25,700 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 2,717คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 8,622 คู่สัญญา และSilver Futures อยู่ที่ 23 คู่สัญญา OpenInterest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 3.8% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 2.1% Silver Futures เพิ่มขึ้น 0.3% GFV12 ปิด 26,030 บาท และ GFZ12 ปิด 26,130บาท GF10V12 ปิดที่ 26,030 บาท GF10Z12 ปิดที่ 26,130บาท SVV12 ปิดที่ 1,076 สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 60 เซนต์ ปิดที่ระดับ 1,771.2 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 35.1เซนต์ ปิดที่ระดับ 34.718 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,303.29ตัน (ซื้อเพิ่ม 1.81 ตัน)น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 1.33 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 95.29 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 11.54 จุด ปิดที่ระดับ 13,564.64 จุด Ratio Gold / Silver เท่ากับ 51.02 ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ ราคาทองคำเคลื่อนตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบวันในช่วงปลายตลาดเมื่อคืนนี้ หลังจากมีการปรับตัวสูงขึ้นจากความคาดหวังในการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากทั่วโลก โดยสัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สส่งมอบเดือนธันวาคมปรับตัวเพิ่มขึ้น 60 เซนต์ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,771.20 เหรียญ/ออนซ์ ด้วยปริมาณการซื้อขายประมาณ 10% เหนือค่าเฉลี่ย 30 วัน นายอูเจ็น เวนเบิร์ก จากคอมเมิร์ซแบงก์กล่าวว่า มีความคาดหวังมากขึ้นเกี่ยวกับการกระตุ้นทางการเงินเพิ่มเติม ซึ่งเป็นปัจจัยที่ผลักดันราคาทองคำ โดยการที่ธนาคารต่างๆ คาดว่าราคาทองคำจะขึ้นไปเหนือระดับ 2,000 เหรียญได้ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นของทองคำ และส่วนตัวเขาเองก็คิดว่าราคาทองคำกำลังมุ่งหน้าสู่แนวโน้มขาขึ้น การปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจาก FOMC ประกาศผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม เพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจภายในประเทศ ทำให้เฟดเป็นธนาคารลำดับที่ 3 ที่มีการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากธนาคารกลางจีนและอีซีบีได้ปฏิบัติเช่นเดียวกันก่อนหน้านี้ นายไมเคิล วิดเมอร์ นักวิเคราะห์จาก แบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินท์ กล่าวเมื่อวานนี้ว่า มาตรการ QE3 แบบปลายเปิดนั้น ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกว่าอัตราการว่างงานของสหรัฐจะแข็งแรงเพียงพอที่จะมีการปรับเปลี่ยนนโยบาย นอกจากนี้ ราคาทองคำอาจได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการ QE3 ในภาวะตลาดกระทิงจนสามารถขึ้นไปสู่ระดับ 2,400 เหรียญต่อออนซ์ได้ในอีก 24 เดือนข้างหน้า ซึ่งเป็นการสะท้อนความคิดที่ว่า เฟดจะยังคงใช้มาตรการเข้าซื้อหลักทรัพย์ MBS ไปจนถึงสิ้นปี 2014 และจะเปลี่ยนไปซื้อพันธบัตรตามมาในช่วงสิ้นสุดมาตรการ Operation Twist ในเดือนธันวาคมปีนี้ ดอยซ์ แบงก์ คาดการณ์ว่า ราคาจะสามารถขึ้นเหนือระดับ 2,000 เหรียญในช่วงครึ่งปีแรกของปีหน้า จากมุมมองที่เป็นบวกในเรื่องสภาพเศรษฐกิจโดยรวม โดยดอยซ์ แบงก์เชื่อว่า การพิมพ์ธนบัตรดอลลาร์เพิ่มขึ้นจะเป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนราคาทองคำ ตามมาด้วยความกังวลในเรื่องภาวะเงินเฟ้อ และความผันผวนจะเป็นปัจจัยตามมา อย่างไรก็ตามสัญญาโกลด์ฟิวเจอร์ปรับตัวลดลงก่อนหน้านี้ หลังจากสมาชิกเฟดได้กล่าวยกย่องสรรเสริญมาตรการ QE3 โดยนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟด สาขาชิคาโก กล่าวว่า การผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 หรือ QE3 ของเฟด จะช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แม้ว่า วิกฤตหนี้ยุโรปจะยังไม่สิ้นสุดลง และมีแนวโน้มว่า สหรัฐจะขึ้นภาษีและปรับลดรายจ่ายลงก็ตาม CME Group กล่าวในรายงานความคิดเห็นตลาดว่า หลังจากความเห็นของนายอีแวนส์เปิดเผย ราคาทองคำปรับตัวลดลงและค่อยๆเคลื่อนตัวขึ้นภายหลังอย่างช้าๆ ซึ่งเทรดเดอร์หลายรายแสดงความเห็นว่า คำกล่าวที่สนับสนุนราคาทองคำจากประธานเฟดสาขาชิคาโกก็คือ การที่เขากล่าวย้ำว่า เฟดมีความตั้งใจที่จะเข้าซื้อพันธบัตรจนกว่าเศรษฐกิจจะมีการตอบรับที่ดี ซึ่งเมื่อกล่าวโดยสรุปก็คือ หากมีการพูดถึงมาตรการ QE ขึ้นมาจะทำให้ตลาดทองคำได้รับการปกป้องไม่ให้ปรับตัวลดลงเพิ่มเติม ลอนดอน เบส โบรกเกอร์ ไทรแลนด์ เมเทิลส์ กล่าวว่า นักลงทุนต่างๆ รอการปรับตัวลดลงของราคาเพื่อเป็นโอกาสในการเข้าช้อนซื้อ อย่างไรก็ตาม ภาวะตลาดกระทิงที่ชัดเจนของทองคำอาจกำจัดนักลงทุนที่อ่อนแอออกไป เมื่อตลาดมีการดึงราคากลับมาอีกครั้ง โดยขณะนี้ตลาดอยู่ในภาวะ Overbought และจะมีการปรับฐานในบางขณะ อ้างอิงการรายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์สระบุว่า นายฌอง คล็อด จุงเกอร์ ประธานยูโรกรุ๊ป ได้จุดประกายขึ้นเมื่อเขากล่าวว่า กรีซกำลังกลายเป็นผู้ที่สามารถเข้าแข่งขันได้ และต้องคงอยู่ในการใช้สกุลเงินยูโรต่อไป โดยการเข้าหารือในเยอรมนีช่วงเมื่อคืนนี้ นายจุงเกอร์ได้อธิบายถึงความพยายามที่จะค้ำจุนการเงินของกรีซอย่างสุดความสามารถ และได้กล่าวว่า ยูโรโซนจะจัดอุปสงค์ที่แข็งแกร่งให้กับสเปนในเรื่องการปฏิรูปโครงสร้างและการประหยัดงบประมาณ เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3032 ดอลลาร์/ยูโรจากข่าวลือที่ว่า รัฐบาลสเปนอาจไม่ตกลงในเรื่องมาตรการรัดเข็มขัดที่จะมาพร้อมกับเงินช่วยเหลือจากอีซีบี ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสเปนอายุ 10 ปีปรับตัวสูงขึ้นเหนือระดับ 6% แต่สิ่งนี้ก็ถูกบดบังความสำคัญลง หลังจากตัวเลขความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีออกมาดีกว่าที่คาดที่ระดับติดลบ 18.2 ซึ่งมีการคาดการณ์ไว้ที่ระดับติดลบ 19.2 รวมไปถึงดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของยูโรโซนออกมาดีกว่าที่คาดเช่นกันที่ระดับติดลบ 3.58 ดีกว่าที่คาดไว้ที่ติดลบ 16.3 อ้างอิงข้อมูลจากบลูมเบิร์กส์ ในการประชุมผ่านทางโทรศัพท์เมื่อวานนี้ของ FedEx ระบุว่า FedEx มีการลดการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกสำหรับปี 2012 ลงสู่ระดับ 2.3% จากระดับ 2.4% โดยอ้างอิงถึงสภาพเศรษฐกิจที่อ่อนแอยังคงอยู่ โดยนายเฟรด สมิทธ์ CEO FedEx กล่าวว่า โดยพื้นฐานแล้ว สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นก็คือการส่งออกทั่วโลกหดตัวลง และตัวเลือกทางนโยบายในยุโรป สหรัฐ และจีนกำลังได้ส่งผลกระทบต่อการซื้อขายทั่วโลก ซึ่งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ยอดส่งออกและการซื้อขายได้ปรับตัวลดลงในระดับที่รวดเร็วกว่าที่จีดีพีเป็น กองทุนทองคำ SPDR ถือครองทองคำเพิ่มขึ้น 0.14% สู่ระดับ 1,303.29 ตันเมื่อวานนี้จากระดับ 1,301.48 ตันในวันจันทร์ ในวันนี้เวลา 20.45 น. นายเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟดสาขาแคนซัส กล่าวแสดงความคิดเห็นในภาคการจ้างงาน ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันอังคาร - Current Account เดิมอยู่ที่ระดับ -134 B ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ-117B - TIC Long-Term Purchases เดิมอยู่ที่ระดับ 9.3B ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 67.0B ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ - Building Permits เดิมอยู่ที่ระดับ 0.81B คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ0.79M - Housing Starts เดิมอยู่ที่ระดับ 0.75M คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.77M - Existing Home Sales เดิมอยู่ที่ระดับ 4.47M คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.57M - Crude Oil Inventories เดิมอยู่ที่ระดับ 2.0M คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ-0.2M วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold — ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ แต่ว่าเมื่อวานในตลาด COMEX มีการแกว่งตัวในช่วงที่ตัวเลขเศรษฐกิจออกมา 2 ตัวดีขึ้น คือ Current Account ออกมาดีขึ้นที่ระดับติดลบ 1.17 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 2 จากที่คาดหวังว่าจะติดลบ 1.26 แสนล้านดอลลาร์ ในขณะที่ตัวเลข TIC Long Term Purchases ออกมาดีขึ้นเช่นกันที่ระดับ 6.7 หมื่นล้านดอลลาร์ จากที่คาดไว้เพียง 3.73 หมื่นล้านดอลลาร์ จึงทำให้ราคาทองคำแกว่งตัวและปรับตัวลดลงมาที่ระดับ 1,767 เหรียญในช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่ก็จะมีแรงซื้ออย่างหนาแน่นทำให้ราคาขึ้นไปที่ 1,773 เหรียญอีกครั้งหนึ่ง และหลังจากมีแรงเทขายทำกำไรราคากลับมาปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1771.2 เหรียญ MTS Gold วิเคราะห์ได้ว่า ในข่าวของตัวเลขเศรษฐกิจในคืนวันนี้จะมีตัวสำคัญ 3 ตัวด้วยกันคือ Building Permits, Housing Starts และ Existing Home Sales ซึ่งคาดว่าส่วนใหญ่จะออกมาดีขึ้น วันนี้จะเป็นลักษณะการประกาศภาคอสังหาริมทรัพย์ คาดว่าจะดีขึ้น ซึ่งหากตัวเลขดีขึ้นจะส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงอีกครั้งหนึ่ง โดยราคาทองคำน่าจะเคลื่อนตัวในทิศทางในกรอบ 1,760 — 1773 เหรียญ ยังแนะนำให้ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว และขายบริเวณแนวต้าน คาดว่าจะแกว่งในกรอบดังกล่าวไปสักระยะหนึ่ง Gold Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,920 บาท และแนวต้านที่ระดับ 26,120 บาท Gold Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 26,020 บาท และแนวต้านที่ระดับ 26,220 บาท Silver Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 1,030 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,070 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade) เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,760 - 1,770 เหรียญ โดยซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade) รอซื้อสะสม และขายทำกำไรบ้างเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้น นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง รอจังหวะซื้อสะสม Portfolio ประมาณ 50% บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ