กรุงเทพฯ--19 ก.ย.--MarketComms Company
ไร้ท์แมน บริษัทรับจัดงานอีเวนท์หรือออร์กาไนเซอร์ฉลองครบรอบ 22 ปี ปรับโฉมแบรนด์ใหม่ ชูจุดเด่นด้านการออกแบบเชิงสร้างสรรค์ผสมผสานกับเทคโนโลยีทันสมัย (Creative,Design,& Innovation) พร้อมขยายธุรกิจสู่ระดับภูมิภาครองรับตลาดอีเวนท์อาเซียน ด้วยการเพิ่มศักยภาพการให้บริการด้านงานบริหารโครงการแบบครบวงจร (Project Management) พร้อมเปิดศูนย์ออกแบบสื่อสร้างสรรค์ระบบดิจิตัล (Interaction Design Studio)
นายอุปถัมป์ นิสิตสุขเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไร้ท์แมน จำกัด กล่าวว่า “บริษัทฯ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2533 ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 22 ปี ให้บริการอุตสาหกรรม MICE อย่างครบวงจร ตั้งแต่งานเปิดตัวสินค้าและบริการ การจัดงานประชุมและงานส่งเสริมการตลาดในรูปแบบต่างๆ งานนิทรรศการและมหกรรมแสดงสินค้า งานจัดสร้างพิพิธภัณฑ์และศูนย์การเรียนรู้ โดยให้บริการออกแบบ วางแผนกลยุทธ์ตลอดจนบริหารโครงการอย่างครบวงจร ได้แก่
โครงการงานในระดับประเทศ อาทิ งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย/ บูธแสดงสินค้าในงาน Motor Show และงาน Money Expo/ อุทยานการเรียนรู้แห่งแรกของเมืองไทย TK Park/ พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร/ นิทรรศการโลหะปราสาท วัดราชนัดดา/ พิพิธภัณฑ์สภากาชาดไทย/ งานCRM ระดับประเทศโครงการ Thailand’s Best Friends/ งานออกแบบและบริหารโครงการอาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์/ กิจกรรมส่งเสริมการตลาดของกองการท่องเที่ยว ในงาน World Travel Market 2010 ณ กรุงลอนดอน และในงาน The 25th Korean World Travel Fair 2012 ณ กรุงโซล/ ศูนย์การเรียนรู้จังหวัดกระบี่/ GreeNEDucation ศูนย์การเรียนรู้และพัฒนาพลังงานจากธรรมชาติ เป็นต้น
โครงการงานระดับนานาชาติ อาทิ งานประชุมอธิการบดีโลก2549 (World University Presidents Summit 2006)/ นิทรรศการต่อต้านการทุจริตของประเทศไทย (Thailand Anti-Corruption Expo 2010)/ งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯราชพฤกษ์ 2554/ งานมหกรรมศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Thailand Medical Hub Expo 2012)/ กิจกรรม Most people Being Massaged 2012 นวดพร้อมกันมากที่สุดในโลก สร้างสถิติใหม่ World Guinness Records/ โครงการวัดนวมินทราชูทิศ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ วัดไทยที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา
โดยมีกลุ่มลูกค้าประจำที่ให้บริการต่อเนื่องมาหลายปี เช่น สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา บ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด บ.เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด บ.สยามซีเมนต์กรุ๊ป (SCG) จำกัด บริษัท ดับเบิ้ล เอ(1991) จำกัด บ.โอสถสภา จำกัด ฯลฯ มียอดรายได้ประมาณ 600-800 ล้านบาทต่อปี”
สำหรับการดำเนินงานสู่ทศวรรษที่ 3 นี้ ไร้ท์แมน ได้กำหนดกลยุทธ์ธุรกิจใหม่ เพื่อสร้างความแตกต่าง และรองรับการเปิดตลาดสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี โดยปรับภาพลักษณ์ และเปลี่ยนตราสัญลักษณ์ใหม่ พร้อมปรับโครงสร้างการบริหาร และเพิ่มหน่วยธุรกิจใหม่อีก 2 หน่วย ได้แก่ งานบริหารโครงการแบบครบวงจร (Project Management) ศูนย์ออกแบบสื่อสร้างสรรค์ระบบดิจิตัล (Interaction Design Studio) โดยมีเป้าหมายให้บริการงานระดับชาติและนานาชาติมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงรักษาตลาดการจัดงานอีเว้นท์เฉพาะกลุ่มเป้าหมายแต่ละภูมิภาค พร้อมกับขยายสาขาบริการ(ไร้ท์แมนนอร์ท) สู่ภูมิภาค เหนือและกลุ่มประเทศอาเซียน ขณะเดียวกันชูจุดเด่นหลักของ ไร้ท์แมน นั่นคือ การออกแบบและบริหารงานโดยใช้ความคิดสร้างสรรค์ นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสม เพื่อให้ผลงานมีความโดดเด่น น่าสนใจ สามารถตอบโจทย์ของกลุ่มลูกค้าได้อย่างน่าประทับใจ
ส่วนภาพรวมของทิศทางอุตสาหกรรม MICE ในประเทศไทย เมื่อเปรียบเทียบในระดับภูมิภาคนี้ ถือได้ว่าประเทศไทยเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่กว่า สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา และเวียดนาม เมื่อเทียบกับจำนวนพื้นที่และประชากร รัฐบาลเองได้มีนโยบายสนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรม MICE ในหลายด้าน เพื่อเตรียมรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี พ.ศ. 2558 ขณะเดียวกันเตรียมประกาศประเทศไทยในปี พ.ศ. 2556 เป็นปีแห่งไมซ์ หรือ Year of Mice เพื่อเป็นการเปิดประเทศไทยสู่เวทีโลกในบทบาทของเมืองที่มีความพร้อมในการจัดงานรูปแบบต่างๆ (Mice City) โดยธุรกิจที่สร้างรายได้มากที่สุด คือ ธุรกิจการจัดประชุมนานาชาติ (Convention) รองลงมา ได้แก่ ธุรกิจการจัดประชุม การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล และธุรกิจการจัดแสดงงานสินค้า/นิทรรศการ ตามลำดับ
"การเตรียมความพร้อมของ ไร้ท์แมน เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ ซึ่งในอีกเพียงไม่กี่ปี คงจะมีนักธุรกิจชาวต่างชาติเข้ามาดำเนินธุรกิจในหลายลักษณะในประเทศไทย หรือบุคลากรของไทยเองก็พร้อมเดินทางไปดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ ความพร้อมของบุคลากร ทั้งในเรื่องของภาษา ความรู้ การเรียนรู้นวัตกรรมใหม่จึงเป็นสิ่งสำคัญ ควบคู่ไปกับ การศึกษาข้อมูลของคู่ค้านักธุรกิจชาวต่างชาติหรือการเข้าไปดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวัฒนธรรม ความเชื่อ ศาสนาและสังคม จะทำให้การติดต่อ สื่อสาร ประสานงาน สามารถสำเร็จลุล่วงได้ดียิ่งขึ้น สำหรับตลาดที่น่าสนใจในการเข้าไปดำเนินธุรกิจ MICE ได้แก่ พม่า สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และเวียดนาม"