กรุงเทพฯ--20 ก.ย.--IR network
FPI สร้างสถิติโดนใจแฟนคลับ เปิดเทรดช่วงเช้า 8.50 บาท พุ่งกระฉูด 142.86 % นับเป็นหุ้นน้องใหม่ของตลาด mai ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดของปีนี้ จากราคาไอพีโอที่กำหนดไว้ 3.50 บาทต่อหุ้น และปิดตลาดที่ 9 บาท เพิ่มขึ้นถึง 157.14% “สมพล ธนาดำรงศักดิ์” ปลื้มนักลงทุนให้การตอบรับอบอุ่นเกินกว่าที่คาด ระบุเป็นเพราะตลาดเปิดทางให้กับหุ้นไอพีโอและนักลงทุนเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของบริษัท รวมถึงธุรกิจมีโอกาสขยายตัวได้อีกมากจากอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ยังเป็นขาขึ้น ด้าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ชี้ FPI กลายเป็นหุ้นขวัญใจนักลงทุนระบุนอกจากพื้นฐานที่ดีแล้วยังมีแรงหนุนจากสภาพการซื้อขายที่สดใสและตลาดตอบรับกับหุ้นน้องใหม่อย่างคึกคัก
ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ FPI ที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) วันนี้ (20 กันยายน 2555) เป็นวันแรกสร้างความประทับใจให้กับนักลงทุนอย่างยิ่ง โดยเปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 8.50 บาท ให้ผลตอบแทนสูงถึง 142.86% เมื่อเปรียบเทียบกับราคาไอพีโอที่กำหนดไว้ที่ระดับ 3.50 บาทต่อหุ้น ซึ่งสามารถสร้างสถิติสำหรับหุ้นที่เปิดเทรดวันแรกให้อัตราผลตอบแทนสูงสุดของปีนี้ไปครอง และระหว่างวันราคาหุ้นไต่ระดับขึ้นไปสูงสุดที่ 9.80 บาท เมื่อปิดตลาดหุ้น FPI ยืนที่ระดับ 9 บาท สูงกว่าราคาไอพีโอ 5.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 157.14% มีมูลค่าการซื้อขายรวม 2,746.72 ล้านบาท
นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ FPI เปิดเผยว่า การที่ราคาหุ้น FPI ที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เป็นครั้งแรกในวันนี้ (20 กันยายน 2555) สูงกว่าราคาจองอย่างน่าประทับใจ เนื่องจากได้รับความสนใจจากนักลงทุนจำนวนมากตั้งแต่เปิดให้จองซื้อในวันแรก ประกอบกับมีแรงซื้อหนุนเข้ามาอย่างหนาแน่น ซึ่งเป็นผลมาจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีปัจจัยพื้นฐานของบริษัท และอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ยังเป็นขาขึ้น ขณะที่ภาวะตลาดโดยรวมเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางบวก จึงเป็นปัจจัยช่วยสนับสนุน
“ราคาหุ้น FPI ที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai วันแรกปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงจากราคา IPO ที่ 3.50 บาท/หุ้น และซื้อขายคึกคัก น่าจะเป็นเพราะความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนที่เห็นว่าธุรกิจที่บริษัทดำเนินการอยู่ จัดอยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น ประกอบกับมีจุดเด่นเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่ผลิตจากพลาสติกที่ครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบเม่พิมพ์ การฉีดขึ้นรูป ชุบโครเมี่ยม และการพ่นสีรวมทั้งเป็นศูนย์รวมในการจำหน่ายชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ ทั้งชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ทดแทน (REM) และชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ภายใต้ตราสินค้าของค่ายรถยนต์ต่างๆ (OEM) ที่ได้รับการยอมรับเรื่องสินค้ามีคุณภาพมาตรฐานในราคาที่ไม่แพง ทำให้ผลการดำเนินงานที่ผ่านมามีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่ง จุดเด่นที่กล่าวมาทำให้สินค้าของบริษัทได้รับการยอมรับมาโดยตลอด”
เขากล่าวต่อถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2555 ว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมปี 2555 ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 20% โดยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ FPI สามารถทำกำไรสุทธิได้ถึง 62.93 ล้านบาท เทียบเท่ากับกำไรของทั้งปี 2554 ซึ่งอยู่ที่ 63.43 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวม 735.38 ล้านบาท เทียบกับทั้งปี 2554 ที่มีรายได้รวม 1,300.37 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างมีศักภาพ เพื่อสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นอย่างดีที่สุด
ด้านนายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) (FSS) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น FPI กล่าวว่าพอใจที่หุ้นน้องใหม่รายนี้ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี ซึ่งเชื่อว่าเป็นผลมาจากการมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และบริษัทยังมีศักยภาพเติบโตได้อีกมากในอนาคต ตามอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีแนวโน้มขยายตัวได้อีกมาก และยิ่งบริษัทจะนำเงินจากการระดมทุนในครั้งนี้ไปลงทุนขยายโรงงานและคลังสินค้า รวมถึงซื้อเครื่องจักรเพิ่มเติม และคืนเงินกู้สถาบันการเงินยิ่งทำให้ธุรกิจของบริษัทมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ขณะเดียวกันบรรยากาศการลงทุนที่คึกคักในขณะนี้ยิ่งมีส่วนสนับสนุนให้กระแสความต้องการหุ้นไอพีโอของ FPI ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมาก