กรุงเทพฯ--21 ก.ย.--MTS Gold Futures
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,770 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,763(22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.87 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 25,700 บาท กับ 25,800 บาท และกลับมาปิดที่ 25,750บาท กับ 25,850 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 3,580 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 9,683 คู่สัญญา และSilver Futures อยู่ที่ 146 คู่สัญญา OpenInterest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 6.07 % แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 9.1% Silver Futures เพิ่มขึ้น 2.4% GFV12 ปิด 26,000 บาท และ GFZ12 ปิด 26,120บาท GF10V12 ปิดที่ 25,990 บาท GF10Z12 ปิดที่ 26,110บาท SVV12 ปิดที่ 1,060 สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 1.5 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,770.2 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น9.4 เซนต์ ปิดที่ระดับ 34.682 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,308.41 ตัน (ซื้อเพิ่ม 3.02 ตัน)น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 11 เซนต์ ปิดที่ระดับ 91.87 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 18.97 จุด ปิดที่ระดับ 13,596.93 จุด
Ratio Gold / Silver เท่ากับ 51.04 ต่อ 1
ข่าวที่สำคัญ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงในการซื้อขายเมื่อคืนนี้ หลังนักลงทุนขายทำกำไรจากการฟื้นตัวของราคาล่าสุดซึ่งได้รับแรงสนับสนุนจากการผ่อนคลายนโยบายการเงินทั่วโลก รวมไปถึงการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจจากทางฝั่งยุโรปที่อ่อนแอได้ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ โดยสัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สส่งมอบเดือนธันวาคมปรับตัวลดลง 1.5 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,770.2 เหรียญ/ออนซ์
ลอนดอน เบส โบรกเกอร์ ไทรแลนด์ เมเทิลส์ กล่าวว่า ราคาทองคำใช้เวลาระหว่างวันปรับตัวลดลงจนถึงแนวรับระหว่าง 1,755 — 1,760 เหรียญ ซึ่งปริมาณการซื้อขายลดลง ในขณะที่ตลาดโดยภาพรวมยังคงประคองการปรับตัวสูงขึ้นล่าสุดได้ดี แม้ว่าตลาดจะอยู่ในภาวะ Overbought ในระยะสั้น และจะกลับมาปรับฐานลงในท้ายที่สุดก็ตาม
แสตนดาร์ด แบงก์ กล่าวว่า กลุ่มโลหะมีค่าเคลื่อนตัวไปในทิศทางเดียวกันกับค่าเงินยูโรดอลลาร์ ซึ่งมีการปรับตัวลดลงในช่วงบ่ายจากการอ่อนค่าของสกุลเงินยูโรที่เป็นผลมาจากการประกาศตัวเลข PMI ภาคผลิตและภาคบริการของยูโรโซนร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี ส่งผลให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงหนักสุดในรอบเกือบ 2 เดือน
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยพันธบัตรสเปนอายุ 10 ปีปรับตัวลดลงสู่ระดับ 5.67% ในช่วงการประมูลของบ่ายวานนี้จากระดับ 6.65% ในการประมูลครั้งก่อน และ bid-to-cover ratio อยู่ที่ 2.8 เมื่อเทียบกับระดับก่อนที่ 2.4
ในขณะที่ยอดค้าปลีกของสหราชอาณาจักรประจำเดือนสิงหาคมออกมาดีกว่าที่คาดไว้แม้ว่าจะลดลงกว่าครั้งก่อน คือออกมาลดลง 0.2% ดีกว่าที่คาดว่าจะลดลง 0.4%
ทางด้านสหรัฐอเมริกา จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ มีคนว่างงานมากกว่าที่คาดไว้ถึง 8,000 ตำแหน่งมาอยู่ที่ระดับ 382,000 ตำแหน่ง และเมื่อเทียบกับระดับครั้งก่อนพบว่า มีคนว่างงานเพิ่มขึ้นจากเดิม 3,000 ตำแหน่ง ในขณะที่ดัชนีภาคการผลิตสาขาฟิลาเดเฟีย หรือ Philly Fed Manufacturing Index ประจำเดือนกันยายนจะออกมาที่ระดับติดลบ 1.9 ดีกว่าที่คาดไว้ที่ระดับติดลบ 4.1
CME Group กล่าวในรายงานความคิดเห็นตลาดว่า นักลงทุนบางรายแสดงความเห็นว่า แม้การสำรวจภาคธุรกิจสาขาฟิลาเดเฟียนั้นดีขึ้นกว่าที่คาด แต่ผลที่ออกมากลับยังอยู่ในแดนลบอยู่ ซึ่งสัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สส่งมอบเดือนธันวาคมอาจยังคงมีความผันผวนจากความกังวลในเรื่องเศรษฐกิจชะลอตัว และนั่นอาจทำให้เราเห็นจุด Pivot Point ที่ระดับ 1,765.8 เหรียญ
การฟอร์มตัวของกราฟทางเทคนิคในรูปแบบ Golden Cross ชี้ให้เห็นว่า โมเมนตัมกำลังเปลี่ยนเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนในทองคำใช้เป็นอีกเหตุผลในการเพิ่มการลงทุนในทิศทางขาขึ้น และแม้ว่าราคาทองคำจะเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยเมื่อวานนี้ แต่ Open Interest ในสัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สกลับพุ่งขึ้นประมาณ 25% ในช่วง 30 วันที่ผ่านมาสู่ระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี ที่ระดับ 481,999 คู่สัญญา ซึ่งเป็นสัญญาณที่ว่า ราคาทองคำอาจพุ่งขึ้นหลังจากที่สัญญา Option ในตลาด COMEX จะหมดอายุในสัปดาห์หน้า ตามที่ขณะนี้มีการลงทุนในสถานะ Long Position เพิ่มขึ้น ซึ่งเมื่อวานนี้ เส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน มีการซื้อขายเหนือจุดเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน จึงเป็นจุดให้เกิด Golden Cross ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงโมเมนตัมระยะกลางและระยะยาวนั้นกำลังมีแนวโน้มขาเป็นขาขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ
นายอดัม ซาร์ฮาน CEO ของซาร์ฮาน แคปปิตอลกล่าวว่า เมื่อดูจากเส้นค่าเฉลี่ยต่างๆ ในระยะสั้นได้ปรับตัวสูงขึ้นทั้งหมดในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา และราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในช่วงล่าสุด ลักษณะของ Golden Cross ในเมื่อวานนี้เป็นตัวบ่งชี้อีกอย่างหนึ่งของความแข็งแกร่งในตลาดที่พร้อมปรับตัวขึ้น
ทางด้านตลาดทองคำแท่ง การประท้วงทั่วประเทศในอินเดียได้ส่งผลต่อสภาพคล่องในตลาดอินเดียจากที่เคยเงียบเหงาอยู่แล้ว ในขณะที่ราคาทองคำในอินเดียเคลื่อนไหวอยู่ใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ทางด้านพรรคฝ่ายค้านต่างๆ ของรัฐบาล รวมไปถึงพรรค BJP และสหภาพแรงงานกำลังมีการประท้วงแผนของรัฐบาลที่จะมีการให้เปิดการค้าปลีกเสรีและเพิ่มระดับราคาน้ำมันดีเซล 14% ซึ่งนายอาเจย์ คูมาร์จากคีเดียร์ คอมโมดิตี้ส์ กล่าวว่า ตลาดทองคำยังไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเรื่องดังกล่าว แต่ปัจจัยทางการเมืองจะมีส่วนสำคัญในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และจะเป็นสิ่งที่ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด
กองทุนทองคำ SPDR เพิ่มการถือครองทองคำ 0.2% สู่ระดับ 1,308.41 ตัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม ในขณะที่กองทุน ETF ของ silver เพิ่มการถือครอง silver สู่ระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือน แตะระดับ 9,940.66 ตันเมื่อวานนี้
แชนดอง โกลด์ กรุ๊ป หนึ่งในผู้ผลิตทองคำอันดับต้นๆ ของจีน ได้ตกลงเข้าซื้อหุ้น 51% จาก ออสเตรเลีย โฟกัส มิเนอรัล เป็นมูลค่า 227.5 ล้านดอลลาร์เพื่อกระตุ้นผลผลิตและช่วยให้ปริมาณความต้องการภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับเป้าหมายที่วางไว้
ผู้มีอำนาจในสหภาพยุโรปกำลังทำงานปูทางสำหรับแผนการช่วยเหลือสเปนรอบใหม่ และแผนการเข้าซื้อพันธบัตรอย่างไม่จำกัดของอีซีบี ซึ่งจะมีการเปิดเผยรายละเอียดการปฏิรูปเศรษฐกิจของสเปนในสัปดาห์หน้า ในขณะที่กรีซและกลุ่มทรอยก้าได้ขยับเข้าใกล้ข้อตกลงในเรื่องมาตรการรัดเข็มขัดมูลค่า 1.2 หมื่นล้านยูโรมากขึ้น ส่วนทางด้านอิตาลี นายมาริโอ มอนติ นายกรัฐมนตรีอาจช่วยให้อิตาลีรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ แต่ดูเหมือนว่าเศรษฐกิจของอิตาลีจะดูอ่อนแอกว่าที่เคยเป็น และนั่นหมายถึงโอกาสในการลดหนี้ของกรีซยังอยู่ห่างไกล
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันศุกร์
- Unemployment Claims เดิมอยู่ที่ระดับ 385K ตัวเลขจริงปรับตัวลดลงสู่ระดับ 382K
- Flash Manufacturing PMI เดิมอยู่ที่ระดับ 51.5 ตัวเลขจริงทรงตัวที่ระดับ 51.5
- Philly Fed Manufacturing Index เดิมอยู่ที่ระดับ -7.1 ตัวเลขจริงปรับตัวลดลงสู่ระดับ -1.9
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้
- ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold —ราคาทองคำอยู่ในช่วงของการเป็น Consolidation Period ก่อนที่จะมีการปรับตัวขึ้นไป จะเห็นได้ว่า ราคาทองคำเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบ 1,760 — 1,773 เหรียญโดยประมาณ ตามที่ได้วิเคราะห์ไปเมื่อวาน แนวโน้มในระยะกลางและยาวยังเป็นขาขึ้น ในขณะที่ระยะสั้นราคายังคงเป็นการเคลี่อนอยู่ในกรอบ Sideway ตามกล่าว จึงแนะนำให้เป็นการทำกำไรในกรอบแคบๆ สำหรับนักลงทุนระยะสั้น และสะสมซื้อสำหรับนักลงทุนระยะกลางและระยะยาว โดยมีแนวต้านที่สำคัญบริเวณ 1,777 เหรียญ และแนวรับที่ระดับ 1,760 เหรียญ หรือคือระดับทองคำแท่งจะมีแนวต้านประมาณ 25,950 บาท/บาททองคำ และแนวรับจะอยู่ที่ระดับ 25,650 บาท/บาททองคำ ในขณะที่ค่าเงินบาทยังมีการปรับตัวอยู่ในกรอบ 30.80 — 30.88 บาท/ดอลลาร์เมื่อวานนี้ ก็เป็นการแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบเช่นกัน
Gold Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,980 บาท และแนวต้านที่ระดับ 26,180 บาท
Gold Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 26,050 บาท และแนวต้านที่ระดับ 26,250 บาท
Silver Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 1,050 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,090 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade)
เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัว โดยมีระดับ 1,760 เหรียญเป็นแนวรับ และระดับ 1,775 เหรียญเป็นแนวต้าน
นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade)
คง Portfolio ประมาณ 40% โดยมี Stop Loss ที่ระดับ 1,745 เหรียญ
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
ถือครอง Portfolio ประมาณ 40% โดยมี Stop Loss ที่ระดับ 1,745 เหรียญ
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง