กรุงเทพฯ--21 ก.ย.--GIZ
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยกรมควบคุมมลพิษ ร่วมกับกระทรวงสิ่งแวดล้อม คุ้มครองธรรมชาติ และความปลอดภัยทางปรมาณูแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี โดยองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) เปิดตัวโครงการ “การจัดซื้อสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและฉลากสิ่งแวดล้อม” เพื่อพัฒนาการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและฉลากสิ่งแวดล้อม ให้มีการปรับปรุงเพิ่มเติมหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวกับการปกป้องสภาพภูมิอากาศ ในเกณฑ์ข้อกำหนดผลิตภัณฑ์ในการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและฉลากสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย ตลอดจนประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานนี้ไปสู่ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืนของภูมิภาค
การดำเนินโครงการการจัดซื้อสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและฉลากสิ่งแวดล้อมนี้ นอกจากกระทรวงสิ่งแวดล้อม คุ้มครองธรรมชาติ และความปลอดภัยทางปรมาณูแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี โดยองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ร่วมมือกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งมอบหมายให้กรมควบคุมมลพิษเป็นผู้รับผิดชอบหลักแล้ว ยังมีพันธมิตรที่เกี่ยวข้องได้แก่ สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ร่วมดำเนินการโครงการ โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนในการดำเนินงาน 3 ปี ตั้งแต่เดีอนมิถุนายน 2555 ถึงเดือนมิถุนายน 2558
นางสาวอาระยา นันทโพธิเดช รองอธิบดี กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า “กิจกรรมภายใต้โครงการฯ มีความสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการพัฒนากลไกด้านการผลิตและการบริโภคอย่างยั่งยืน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน โครงการนี้มุ่งเน้นการปรับปรุงเกณฑ์ข้อกำหนดของการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในภาครัฐซึ่งคิดเป็นร้อยละ 20 ของปริมาณการบริโภคทั้งหมดภายในประเทศและฉลากสิ่งแวดล้อมให้ครอบคลุมหลักเกณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ นับว่าได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญ ที่ภาครัฐและเอกชนใช้พิจารณาในการเลือกซื้อสินค้าและบริการเดียวกัน ที่จะนำไปสู่การบริโภคอย่างยั่งยืนของประเทศได้ ในขณะเดียวกันการส่งเสริมและเผยแพร่แนวทางการดำเนินงานทั้งในประเทศไทยและกลุ่มประเทศเอเซียตะวันออกเฉียงใต้อื่นๆ ภายใต้บริบทของการผลิตและบริโภคที่ยั่งยืน ก็มีความสำคัญในการดำเนินการเข้าสู่ AEC ในปี 2558 ต่อไป นอกจากนี้โครงการฯ ยังจะช่วยสนับสนุนการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ฯ ในแผนส่งเสริมการจัดซื้อจัดจ้างบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยระยะที่สอง (พ.ศ.2555-2559)”
มร. โทมัส เลมันน์ ผู้อำนวยการโครงการ องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) กล่าวว่า “การผนวกเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการปกป้องสภาพภูมิอากาศไว้ในการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของภาครัฐและฉลากสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่ในปัจจุบัน นับเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่การสร้างสังคมเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ ดังนั้น GIZ จะทำงานร่วมกับกรมควบคุมมลพิษและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการผนวกหลักเกณฑ์ดังกล่าว เพื่อพัฒนาฉลากสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยและศึกษาเปรียบเทียบเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการปกป้องสภาพภูมิอากาศกับประเทศในกลุ่มอาเซียนรวมทั้งเสริมสร้างศักยภาพในการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของภาครัฐ พร้อมจัดทำข้อมูลพื้นฐานเพื่อประเมินปริมาณการลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกิจกรรมของโครงการฯ ตลอดจนเผยแพร่แนวทางดำเนินงานของประเทศไทย ไปยังประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆ ในเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างฯ ของภาครัฐ และฉลากสิ่งแวดล้อมที่คำนึงถึงการปกป้องสภาพภูมิอากาศ”
องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน หรือ GIZ เป็นองค์กรของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ที่ปฏิบัติงานในนามของรัฐบาลเยอรมันเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนและร่วมมือด้านการศึกษากับนานาประเทศ GIZ ยังปฏิบัติภารกิจในนามของรัฐบาลของประเทศต่างๆ และองค์กรนานาชาติ อาทิ สหภาพยุโรป องค์การสหประชาชาติ ธนาคารโลก ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย รวมทั้งบริษัทเอกชนต่างๆ