กรุงเทพฯ--25 ก.ย.--วีนิไทย
บริษัท วีนิไทย จำกัด (มหาชน) ฉลองวาระครบรอบ 20 ปี ประกาศความสำเร็จต่อเนื่องทั้งการเติบโตด้านผลกำไรและพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนในประเทศไทย ด้วยความใส่ใจในนวัตกรรมการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมขยายฐานการผลิตเปิดบริษัทย่อยใหม่ทั้งในประเทศไทยและประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน มูลค่ารวมกว่า 11,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายตัวภาคอุตสาหกรรมในภูมิภาคเอเชีย
มร.โรเจอร์ เลสเตอร์ เคินส์ ประธานกรรมการ บริษัท วีนิไทย จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้นำการผลิตและจำหน่ายผงพลาสติกพีวีซีและโซดาไฟในภูมิภาคเอเชีย เผยว่า “บริษัท วีนิไทย จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์มีบริษัท โซลเวย์ เอส.เอ ประเทศเบลเยียมและ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ประเทศไทย เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ มีการดำเนินธุรกิจที่หลากหลาย ปัจจุบันวีนิไทยเป็นฐานการผลิตผงพลาสติกพีวีซีแห่งแรกและแห่งเดียวของโซลเวย์ในภูมิภาคเอเชียที่มีกระบวนการผลิตแบบครบวงจร และในปีนี้ได้มีการขยายการผลิตเพื่อสร้างความหลากหลายในผลิตภัณฑ์มากขึ้นโดยเปิดตัวบริษัทย่อยใหม่ ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ ไบโอเคมิคอล (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อผลิตและจำหน่ายอีพิคลอโรไฮดริน โดยใช้นวัตกรรมกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและใช้วัตถุดิบหลักจากธรรมชาติเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดทั้งภายในประเทศและภูมิภาคเอเชียที่มีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด บริษัทฯ ได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้นในการลงทุนสร้างโรงงานผลิตอีพิคลอโรไฮดริน ขนาดกำลังการผลิต 100,000 ตันต่อปี ซึ่งมีรูปแบบเดียวกันกับบริษัท แอดวานซ์ ไบโอเคมิคอล (ประเทศไทย) จำกัด ในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ด้วยมูลค่าการลงทุน 7,200 ล้านบาท โดยจะแล้วเสร็จในครึ่งปีหลังของปี 2557 คาดว่าตลาดสาธารณรัฐประชาชนจีนจะมีอัตราการเติบโตร้อยละ 8 ต่อปี หรือคิดเป็นร้อยละ 35 ของความต้องการในตลาดโลกในปี 2559 ซึ่งจากแผนงานดังกล่าวจะทำให้วีนิไทยเป็นผู้ผลิตอีพิคลอโรไฮดรินรายใหญ่อันดับ 2 ของเอเชีย”
ด้านดร.ธเนศ เจริญทรัพย์ ประธานกรรมการ บริษัท แอดวานซ์ ไบโอเคมิคอล (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า “บริษัท แอดวานซ์ ไบโอเคมิคอล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ ABT เป็นบริษัทที่ถือหุ้น 100 เปอร์เซ็นต์โดยบริษัท วีนิไทย จำกัด (มหาชน) มีการลงทุนมากกว่า 4,500 ล้านบาท ผลิตอีพิคลอโรไฮดริน โดยมีกำลังการผลิต 100,000 ตันต่อปี ปริมาณความต้องการอีพิคลอโรไฮดรินมีเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากเป็นวัตถุดิบสำคัญในกระบวนการผลิตอีพ็อกซิเรซิน ซึ่งมีการใช้เพิ่มมากขึ้นในอุตสาหกรรมเคลือบกันสนิม อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ การทำเครื่องบิน เเละการผลิตกังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้า บริษัทฯ ใช้นวัตกรรมกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและใช้วัตถุดิบหลักจากธรรมชาติ ที่เรียกว่า “อีพิเซอรอล” (Epicerol?) ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 60 และยังลดผลิตภัณฑ์พลอยได้ที่มีสารประกอบคลอรีนลง 1 ใน 8 เมื่อเปรียบเทียบกับกระบวนการผลิตอีพิคลอโรไฮดรินแบบดั้งเดิมที่ใช้โพรพิลีนเป็นวัตถุดิบหลัก”
ด้าน มร.บรูโน ฟาน เดอ วีเลน กรรมการผู้จัดการ บริษัท วีนิไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท แอดวานซ์ ไบโอเคมิคอล (ประเทศไทย) จำกัด เผยถึงการให้ความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมว่า “บริษัทฯ ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าและลดการใช้พลังงานเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เราได้ตั้งเป้าหมายในการประหยัดพลังงานให้ได้มูลค่า 555 ล้านบาท ในระยะเวลา 5 ปีคือตั้งแต่ปี 2552-2556 จนถึงปีนี้ เราสามารถประหยัดพลังงานได้มูลค่าถึง 400 ล้านบาท นอกจากนี้เรายังได้ร่วมกิจกรรมต่างๆ เพื่อพัฒนาชุมชนและสังคมให้เข้มแข็งในหลายๆ ด้าน ได้แก่ การส่งเสริมสุขภาพ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมการศึกษา การส่งเสริมด้านศาสนา วัฒนธรรมประเพณี และวันสำคัญของชาติ รวมถึงการพัฒนาอาชีพและความเป็นอยู่ของชุมชน”
บริษัท วีนิไทย จำกัด (มหาชน) มีโรงงานตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง เริ่มดำเนินการผลิตผงพลาสติกพีวีซีในปี พ.ศ.2535 และขยายการผลิตสู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ โซดาไฟ ไวนิลคลอไรด์โมโนเมอร์ (วีซีเอ็ม) และเอทิลีนไดคลอไรด์ (อีซีดี) ซึ่งโรงงานทั้งสามส่วนหลังนี้ทำให้กระบวนการผลิตของบริษัทฯ เป็นการผลิตแบบครบวงจร โดยพึ่งพาวัตถุดิบและสาธารณูปโภคที่จัดหาได้ภายในประเทศเกือบทั้งหมด ในปี 2554 ที่ผ่านมา บริษัทสามารถรักษากำลังการผลิตให้อยู่ในระดับสูงและควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 14,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2553 ถึงร้อยละ 9.5 และมีแนวโน้มจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
ฝ่ายประชาสัมพันธ์
โทร. 02-5480126