เอปสันขยายไลน์โปรกราฟฟิก รุกทุกตลาดเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม เปิดตัวสินค้าใหม่พร้อมกัน 8 รุ่น ตั้งเป้าโตสิ้นปีกว่า 30%

ข่าวเทคโนโลยี Tuesday September 25, 2012 21:00 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ก.ย.--พีอาร์พีเดีย เอปสัน ผู้นำเทคโนโลยีด้านภาพถ่ายระบบดิจิตอลและงานพิมพ์ เปิดแผนรุกตลาดงานพิมพ์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม ล่าสุดเปิดตัวโปรกราฟฟิกรุ่นใหม่พร้อมกัน 8 รุ่น เจาะตลาดธุรกิจป้ายโฆษณากลางแจ้ง หน่วยงานราชการ ดิจิตอลแล็ป และอุตสาหกรรมการพิมพ์แพ็คเกจจิ้งและลาเบล การเพิ่มไลน์สินค้าในครั้งนี้ยังทำให้เอปสันกลายเป็นผู้ประกอบการแบรนด์เดียวที่มีสินค้ารองรับลูกค้าครบทุกตลาด มร.เออิจิ คาโตะ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าเอปสัน ได้กำหนดเป้าหมายทางธุรกิจถึงปี 2558 โดยระบุให้กลุ่มสินค้าพรินเตอร์หน้ากว้างหรือโปรกราฟฟิกจะต้องสามารถรุกเข้าถึงลูกค้าในตลาดการพิมพ์เชิงพาณิชย์และเชิงอุตสาหกรรมให้ทั่วถึงที่สุด โดยใช้เทคโนโลยีหัวพิมพ์ไมโคร ปิเอโซ เป็นหัวใจในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ในการรุกตลาด พร้อมเพิ่มไลน์สินค้าอย่างต่อเนื่องเพื่อเข้าไปรองรับความต้องการใช้งานในทุกตลาด โดยเฉพาะเข้าไปแทนที่ระบบการพิมพ์แบบอนาล็อก “ในประเทศไทย ปัจจุบันเอปสันเป็นผู้นำในตลาดพรีเพรสหรือธุรกิจโรงพิมพ์ และในธุรกิจสตูดิโอถ่ายภาพแต่งงานและมินิแล็ป ด้วยส่วนแบ่งกว่า 70% ทั้งยังกำลังเร่งขยายฐานลูกค้าในอุตสาหกรรมการพิมพ์แพ็คเกจจิ้งและลาเบล รวมถึงธุรกิจประเภทต่างๆ ที่ต้องการงานพิมพ์คุณภาพสูง เช่น ธุรกิจผลิตสื่อการเรียนการสอน ธุรกิจสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ ธุรกิจตกแต่งรถยนต์ โรงพยาบาล และเอเจนซี่โฆษณา ซึ่งที่ผ่านมา เอปสัน ประเทศไทย ทำยอดขายในกลุ่มโปรกราฟฟิกเติบโตในอัตราเฉลี่ย 15-20% มาทุกปี” “โปรกราฟฟิกทั้ง 8 รุ่นที่เปิดตัวในวันนี้มีจุดเด่นที่ใช้เทคโนโลยีหัวพิมพ์ที่ดีที่สุดในโลก อย่างไมโคร ปิเอโซ ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถประหยัดต้นทุน เพิ่มความเร็วในการพิมพ์ และให้คุณภาพงานพิมพ์ที่ยอดเยี่ยม โดยที่ไม่มีปัญหาเรื่องความร้อนขณะใช้งาน ทั้งยังใช้กับน้ำหมึกของเอปสัน Epson UltraChrome ที่ไม่มีกลิ่นฉุน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญราคาเครื่องไม่สูง ดังนั้นลูกค้าไม่ว่าจะอยู่ในธุรกิจหรืออุตสาหกรรมใดก็สามารถพบกับประสิทธิภาพและคุณภาพที่น่าประทับใจจากไมโคร ปิเอโซ ของเอปสันได้แล้ว นอกจากนี้ การเปิดโปรกราฟฟิกรุ่นใหม่นี้ยังทำให้เอปสันกลายเป็นแบรนด์เดียวในตลาดขณะนี้ที่มีสินค้าครบทุกไลน์” มร.คาโตะ กล่าว โปรกราฟฟิกที่เปิดตัวในครั้งนี้ประกอบด้วยเครื่อง 8 รุ่น สำหรับ 4 สายธุรกิจ ได้แก่ 1) Epson SureColor S series สำหรับธุรกิจผลิตป้ายโฆษณากลางแจ้ง รวม 3 รุ่น 2) Epson SureColor T series สำหรับการออกแบบงานจำลองสามมิติประเภท CAD และงานแผนที่ GIS ที่ใช้ในอินเฮาส์ของหน่วยงานราชการและเอกชนต่างๆ จำนวน 3 รุ่น 3) Epson SureLab SL-D3000 สำหรับธุรกิจดิจิตอลแล็ป ที่รองรับงานพรีเพรส และภาพถ่าย และ 4) Epson SurePress L-4033AW สำหรับอุตสาหกรรมการพิมพ์แพ็คเกจจิ้งและลาเบล ซึ่งรองรับการพิมพ์หมึกสีขาว นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เอปสันแบ่งตลาดสำหรับการพิมพ์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมสามารถแบ่งออกเป็น 3 ตลาดสำคัญ ได้แก่ ตลาดกราฟฟิก อาร์ต (Graphic Art) ที่ครอบคลุมธุรกิจประเภทพรีเพรส ดิจิตอล แล็ป หรือโฟโต้ แล็ป ซึ่งเป็นตลาดหลักของเอปสัน มีการขายเครื่องมากที่สุด และมีสัดส่วนการตลาดอยู่ที่ราว 70% ด้วยยอดขายกว่า 120 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา และมั่นใจว่าในปีนี้ จะยังคงสามารถรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดไว้ได้ เราคาดการณ์ว่าจะทำยอดขายเพิ่มขึ้นอีกกว่า 10 ล้านบาทในปีนี้ หรือโตเพิ่มขึ้น 8% “สำหรับตลาดด้านอุตสาหกรรม ที่ผ่านมา เอปสันจะให้ความสำคัญกับกลุ่มหน่วยงานราชการ ที่เน้นการใช้งานด้านการพิมพ์เชิงเทคนิค (Technical) เช่นงานด้านการออกแบบภาพจำลองสามมิติ ประเภท CAD และงานแผนที่ GIS เอปสันมียอดขายปัจจุบันอยู่ราว 15 ล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 10% จากการเพิ่มสินค้าใหม่ครั้งนี้ ทำให้เราคาดว่าจะทำยอดขายเพิ่มเป็น 25 ล้านบาท หรือโตมากกว่า 50% ส่วนตลาดป้ายโฆษณา (Signage) เอปสันยังถือว่าเป็นน้องใหม่ และเพิ่งเริ่มทำการตลาด เราคาดว่าจะทำรายได้ประมาณ 20 ล้านบาทในปีนี้” “ในหลายธุรกิจ โอกาสในการแข่งขันยังเปิดกว้างอยู่ ลูกค้ายังไม่มีทางเลือกมากนัก จะมองหาเครื่องที่ทันสมัยและไว้ใจได้ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการทำงาน และต้องคุ้มค่าในการลงทุน สามารถให้งานพิมพ์คุณภาพดี โดยตัวเครื่องมีราคาไม่สูงมาก โดยเฉพาะตลาดป้ายโฆษณา ที่มีการขยายตัว 10% มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 200 ล้านบาท มีการสั่งซื้อสินค้าเพื่ออัพเกรดธุรกิจอยู่เสมอ รวมถึงมีร้านเกิดใหม่จำนวนมาก หรือธุรกิจดิจิตอล แล็ป ที่เริ่มเปลี่ยนจากระบบน้ำยา มาใช้เทคโนโลยีประเภทดรายแล็ปมากขึ้น เพื่อลดการใช้สารเคมี และป้องกันปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม การเปิดตัวสินค้าพร้อมกันทั้ง 8 รุ่นของเอปสันในครั้งนี้จึงเป็นการเปิดโอกาสรุกเข้าสู่ตลาดสำคัญๆ พร้อมกัน และเพิ่มส่วนแบ่งในแต่ละตลาด” นายยรรยง กล่าวต่อ Epson SureColor S series เป็นพรินเตอร์สำหรับการพิมพ์ป้ายโฆษณา ขนาดหน้ากว้าง 64 นิ้ว ด้วยหัวพิมพ์ ไมโคร ปิเอโซ แบบปิเอโซฟิล์มบาง TFP ให้ความละเอียดสูงถึง 1440x1440 dpi ใช้คู่กับหมึก Epson UltraChrome GS2 และ GSX ซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไร้กลิ่น ไร้สารนิกเกิล และไม่จำเป็นต้องระบายอากาศเป็นพิเศษในระหว่างใช้ ยิ่งไปกว่านั้น งานพิมพ์ที่ใช้หมึกนี้ยังมีความทนทานสูง สามารถเก็บไว้นอกสถานที่โดยไม่ต้องเคลือบได้นานถึง 3 ปี โดยสีไม่ซีดจาง หมึกชนิดนี้ยังสามารถใช้ได้กับวัสดุทั้งแบบเคลือบและไม่เคลือบทุกประเภท เปิดตัวพร้อมกัน 3 รุ่นได้แก่ 1) Epson SureColor SC-S30670 พรินเตอร์สี่สี หัวพิมพ์เดี่ยว ราคาสุดประหยัด เป็นรุ่นที่คว้ารางวัล European Digital Press (EDP) Award ในฐานะพรินเตอร์หน้ากว้างแบบ Roll to Roll ที่ดีที่สุด 2) Epson SureColor SC-S50670 พรินเตอร์หน้ากว้างที่พิมพ์เร็วที่สุดในโลก ที่กว่า 53.2 ตารางเมตรต่อชั่วโมง ใช้หัวพิมพ์คู่ไมโคร ปิเอโซ TFP ระบบพิมพ์ 4 หรือ 5 สี สามารถพิมพ์สีขาวเป็นสีพิเศษ ทั้งยังสามารถพิมพ์ลงบนวัสดุแบบพิเศษ อาทิ ฟิล์มเมทัลลิคและฟิล์มโปร่งใสได้ ซึ่งเป็นวัสดุที่นิยมนำมาผลิตป้ายโฆษณาอย่างมากในปัจจุบัน 3) Epson SureColor SC-S70670 เป็นพรินเตอร์ประสิทธิภาพสูง เน้นผลิตงานพิมพ์คุณภาพสูง ให้สีคมชัดเหมือนจริง ผ่านการทำงานหัวพิมพ์คู่ไมโคร ปิเอโซ TFP และชุดหมึกพิมพ์ 10 สี Epson UltraChrome GSX ซึ่งมาพร้อมกับสีขาวและสีเมทัลลิค ช่วยเพิ่มตัวเลือกในการใช้สีมากยิ่งขึ้น ชุดหมึกพิมพ์นี้ยังมาพร้อมกับสีส้มและสีเทา ซึ่งมีเฉพาะในหมึกพิมพ์ของเอปสัน ทำให้ภาพดูคมชัดสมจริงและไล่สีเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการพิมพ์สีผิวของมนุษย์ นอกจากนี้ Epson SureColor S series ยังมีระบบทำความร้อน ทำให้สีแห้งเร็วและยึดติดกับวัสดุได้ดี ในตัว 3 อัน ระบบป้อนกระดาษ Auto Tension Control ระบบแจ้งเตือนสถานะ และประหยัดไฟด้วยมาตรฐาน Energy Star Epson SureColor T Series โปรกราฟฟิกรุ่นแรกของเอปสันสำหรับงานออกแบบ CAD เปิดตัว 3 รุ่น ขนาดหน้ากว้าง 24, 36 และ 44 นิ้ว มีจุดเด่นในเรื่องความเร็ว ใช้งานง่าย และความประหยัด สามารถพิมพ์งานขนาด A1 ในเวลาเพียง 28 วินาที หัวพิมพ์คือไมโคร ปิเอโซ TFP ให้งานพิมพ์ความละเอียดสูงสุดถึง 2880x1440dpi ทั้งยังมีเทคโนโลยี Variable-size Droplet (VSDT) ซึ่งพ่นหยดหมึกได้หลากหลายขนาด ให้งานพิมพ์ที่มีรายละเอียดคมชัด สีสันสวยงามถึงขีดสุด ใช้คู่กับหมึกพิมพ์ Epson UltraChrome XD รุ่นใหม่ ที่ได้รับการพัฒนามาเพื่อรองรับงานพิมพ์ CAD และ GIS โดยเฉพาะ งานพิมพ์จึงมีคุณภาพสูงและทนทาน ให้สีดำเข้มเด่นจากขอบเขตของสีที่มากกว่า ลายเส้นคมชัด สามารถพิมพ์เส้นที่มีขนาดบางสุดได้ถึง 0.02 มิลลิเมตร เหมาะกับงานออกแบบเชิงสถาปัตย์ งานร่างแบบ แผนที่สารสนเทศภูมิศาสตร์ พรีเซนเทชั่น รวมถึงโปสเตอร์และป้ายประกาศต่างๆ Epson SureLab SL-D3000 โปรกราฟฟิกสำหรับการพิมพ์ภาพด่วนเครื่องแรกภายใต้แบรนด์เอปสัน ประสิทธิภาพในการพิมพ์ภาพความเร็วสูง ใน 1 ชั่วโมง สามารถพิมพ์ภาพขนาด 4?6 นิ้ว ได้จำนวน 650 รูป สามารถพิมพ์ภาพด้วยความละเอียดถึง 1440x1440 dpi สีสันคมชัดแม่นยำ ใช้คู่กับหมึก Epson UltraChrome D6 Ink เซ็ตหมึกพิมพ์ 6 สี มีขอบเขตสีมาก ให้ภาพพิมพ์สีสวยสด มีชีวิตชีวา เครื่องสามารถรองรับกระดาษพิมพ์หลากหลายชนิดและขนาดที่แตกต่างกัน พิมพ์ได้ทั้งรูปภาพ การ์ด ใบปลิว และแผ่นป้ายประชาสัมพันธ์ SureLab SL-D3000 ใช้ไฟน้อย เมื่อเทียบกับการล้างอัดรูปด้วยวิธีดั้งเดิม จึงช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและต้นทุนในการใช้งาน Epson SurePress L-4033AW เครื่องพิมพ์สำหรับธุรกิจการทำแพ็คเกจจิ้ง ลาเบล และงานพิมพ์ออนดีมานด์ หมายเลขสองของเอปสัน ที่สามารถพิมพ์ได้บนกระดาษหลากหลายประเภท รวมถึงฟิล์ม หน้ากว้างสูงสุดถึง 330 มิลลิเมตร ความเร็วในการพิมพ์ 5 เมตรต่อนาที SurePress L-4033AW ได้รับการอัพเกรดจากเครื่องรุ่นแรก SurePress L-4033A ให้สามารถพิมพ์หมึกสีขาวได้ เพื่อการพิมพ์ขาวทึบลงบนวัสดุประเภทต่างๆ เช่น ฟิล์มใสและพื้นผิวเมทัลลิค ในปัจจุบัน SurePress เป็นดิจิตอลพรินเตอร์เพื่อพิมพ์ฉลากเพียงรุ่นเดียวในสินค้าระดับเดียวกันที่สามารถพิมพ์งานแบบ short run ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพิมพ์ฉลากได้ขนาดสูงสุดถึง 315.2x914.4 มิลลิเมตร ทั้งยังพิมพ์งานตามสั่งจำนวนน้อย โดยใช้เวลาเตรียมเครื่องเพียงแค่ 15 นาที ซึ่งช่วยประหยัดเวลาได้อย่างมาก เมื่อเทียบกับเครื่องพิมพ์ฉลากระบบเก่าที่ใช้เวลาเตรียมเครื่องนานถึง 3 ชั่วโมง “มองตลาดในภาพรวมแล้ว ตลาดสิ่งพิมพ์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ยิ่งมีกระแสการเข้าร่วมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2558 ซึ่งเมืองไทยจะก้าวขึ้นเป็นฮับด้านการพิมพ์ ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายเริ่มวางแผนขยายธุรกิจ เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากการเข้ามาลงทุนของบริษัทต่างชาติ รวมถึงผู้ประกอบการไทยยังมีความพยายามที่จะรุกเข้าไปทำตลาดในประเทศเพื่อนบ้าน อย่าง กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม ซึ่งตลาดสิ่งพิมพ์ยังไม่ใหญ่เท่าเมืองไทย เอปสันจึงมองว่าตลาดพรินเตอร์หน้ากว้างจากนี้ไปน่าจะมีการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นยิ่งขึ้น และทำให้ยอดขายโปรกราฟฟิกของเอปสันโตขึ้นกว่า 30% หรือคิดเป็นยอดรายได้สูงกว่า 170 ล้านบาท เมื่อเทียบกับยอดรายได้ 135 ล้านบาทของปีที่แล้ว และน่าจะคงอัตราเติบโตต่อเนื่องทุกปีจนถึงปี 2558 ” นายยรรยง กล่าวสรุป ติดต่อ: เอปสัน ฮอตไลน์ 02-685-9899

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ