กรุงเทพฯ--27 ก.ย.--โจนส์ แลง ลาซาลล์
แนวคิดของรัฐฯ ในการสนับสนุนให้นักลงทุนไทยไปลงทุนในต่างประเทศอาจเพิ่มกระแส
นักลงทุนจากเอเชียเริ่มมีบทบาทสำคัญในฐานะผู้ซื้อหลักในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของลอนดอน โดยในครึ่งแรกของปีนี้ ได้เข้าซื้ออาคารที่มีการใช้ประโยชน์เชิงธุรกิจ (อาทิ อาคารสำนักงาน โรงแรม และศูนย์การค้า) ในลอนดอนไปแล้ว มีสัดส่วนคิดเป็น 20% ของมูลค่าการซื้อทั้งหมดโดยผู้ซื้อจากต่างชาติ ตามการรายงานจากบริษัทบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ โจนส์ แลง ลาซาลล์
ลอนดอนยังคงเป็นตลาดการลงทุนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่นักลงทุนจากทั่วโลกที่ต้องการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ จากปัจจัยเกื้อหนุนหลายๆ ปัจจัย อาทิ ความโปร่งใส การเปิดโอกาสให้เช่าระยะยาว (สูงสุด 999 ปี) และผลตอบแทนการลงทุนที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับความเสี่ยงการลงทุนที่ต่ำ โดยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ มีผู้ซื้อจากต่างประเทศเข้าลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ในลอนดอนเพิ่มขึ้นถึง 30% เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปี 2554 ซึ่งทำให้ลอนดอนยังคงครองตำแหน่งตลาดการซื้อขายอาคารที่มีการใช้ประโยชน์เชิงธุรกิจโดยต่างชาติที่มีมูลค่าสูงที่สุดของโลก ทั้งนี้ การลงทุนซื้อขายในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ มีมูลค่ารวมทั้งสิ้นราว 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3 แสนล้านบาท เป็นการซื้อโดยนักลงทุนต่างชาติ 75% ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นการซื้อโดยนักลงทุนจากเอเชียราว 20%
นายอลิสเตอร์ เมโดว์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริการการลงทุนระหว่างประเทศ โจนส์ แลง ลาซาลล์ กล่าวว่า “ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เราพบว่า มีนักลงทุนใหม่ๆ จากเอเชียสนใจเข้ามาลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ในลอนดอนมากขึ้น ทั้งในรูปของกองทุน อาทิ กองทุนบำเหน็จบำนาญจากมาเลเซีย ไปจนถึงนักลงทุนประเภทบุคคลที่มีทุนหนาจากประเทศต่างๆ อาทิ จีน และอินโดนีเซีย”
“นักลงทุนจากเอเชียแสดงความต้องการซื้ออาคารสำนักงานในย่านเซ็นทรัลของลอนดอนอย่างต่อเนื่องและคาดว่าความต้องการจะขยายตัวมากขึ้นต่อไปอีก นอกจากนี้ เรายังพบว่านักลงทุนจากเอเชียยังให้ความสนใจลงทุนในตลาดโรงแรมและที่อยู่อาศัยในลอนดอนเพิ่มมากขึ้นด้วย ซึ่งมีตั้งแต่การซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียมรายยูนิต ไปจนถึงการซื้อแบบยกล็อต และการซื้อโรงแรมในย่านเวสต์เอ็นด์ของลอนดอน”
“เชื่อว่า จะยังคงมีนักลงทุนหลากหลายรูปแบบจากเอเชียที่สนใจลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ในลอนดอน ทั้งนี้ ในปี 2554 มูลค่าการซื้อโดยนักลงทุนจากเอเชียมีสัดส่วนคิดเป็น 16% ของการซื้อขายอาคารที่มีการใช้ประโยชน์เชิงธุรกิจทั้งหมดในลอนดอน และคาดว่าจะขยับขึ้นเป็น 30% สำหรับตลอดปี 2555 นี้” นายเมโดว์กล่าว
นายล่องลม บุนนาค ประธานโจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า "ประเทศไทยเช่นเดียวประเทศอื่นๆ ส่วนใหญ่ในเอเชีย ได้รับผลกระทบน้อยกว่ากลุ่มประเทศในภูมิภาคอื่นๆ จากวิฤตการณ์ทางการเงินโลกในปี 2550 รวมถึงปัญหาหนี้ของประเทศในยูโรโซน ซึ่งทำให้ชาวไทย ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือบริษัท สามารถสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินได้อย่างต่อเนื่องในช่วงปีที่ผ่านๆ มา ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นนักลงทุนที่มีทุนหนาและกำลังมองหาโอกาสการกระจายการลงทุนออกไปยังต่างประเทศด้วยการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ในตลาดที่มีความมั่นคง ดังที่สะท้อนให้เห็นได้จากการที่มีนักลงทุนทั้งที่เป็นบุคคลผู้มีฐานะและบริษัท ติดต่อสอบถามเข้ายังโจนส์ แลง ลาซาลล์มากขึ้น ถึงโอกาสการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของลอนดอน”
“นอกจากนี้ การที่เมื่อเร็วนี้ ภาครัฐฯ ได้กล่าวถึงเจตนารมณ์ที่จะส่งเสริมให้ชาวไทยออกไปลงทุนในต่างประเทศซึ่งอาจเป็นการช่วยป้องกันไม่ให้เงินบาทแข็งค่าเกินไป เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่อาจช่วยกระตุ้นกระแสให้มีนักลงทุนไทยสนใจลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ในลอนดอนมากขึ้นอีก” นายล่องลมกล่าว
ตัวอย่างอสังหาริมทรัพย์ในลอนดอนที่โจนส์ แลง ลาซาลล์เป็นตัวแทนขายให้กับผู้ซื้อจากต่างชาติ
- อาคารสำนักงาน Aviva Tower ขายให้กับนักลงทุนจากอินโดนีเซียมูลค่า 290 ล้านปอนด์
- อาคารสำนักงานใหญ่ของ Goldman Sachs ภาคพื้นยุโรปและตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นรายการซื้อขายที่มีมูลค่าสูงสุดในปีนี้
- อาคาร 1 Berkeley Street ปิดการขายไปในราคา 155.1 ล้านปอนด์
- โรงแรม The Cavendish London ขายให้กับผู้ประกอบการโรงแรมจากสิงคโปร์ มูลค่า 160 ล้านปอนด์
- อาคารสำนักงาน 11-12 St James’s Square ขายให้กับ Employees’ Pension Funds จากมาเลย์เซีย ราคา 147.5 ล้านปอนด์
- อาคาร Draper Gardens ขายให้กับ Chinese Capital จากจีน ราคา 285 ล้านปอนด์
- อาคารสำนักงาน 1 Bunhill Row ปิดดารขายในราคา 184.5 ล้านปอนด์
- อาคาร 1 Sheldon Square ขายให้กับนักลงทุนจากเอเชียในราคา 156 ล้านปอนด์
ขณะนี้ ยังมีอสังหาริมทรัพย์อีกหลายรายการที่มีเสนอขายในลอนดอน ไม่ว่าจะเป็นอาคารสำนักงาน โรงแรม และอาคารที่พักอาศัย
โจนส์ แลง ลาซาลล์
โจนส์ แลง ลาซาลล์ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ค เป็นบริษัทบริการมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ โดยให้บริการที่ครบวงจรโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกแก่ลูกค้าที่ต้องการคุณค่าสูงสุดจากการเป็นเจ้าของ ใช้ประโยชน์ หรือลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ดำเนินธุรกิจใน 70 ประเทศ ผ่านสำนักงาน 200 สาขา
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ
วินัย ใจทน 02 624 6540 winai.jaiton@ap.jll.com