สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันศุกร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2555เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Friday September 28, 2012 10:32 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 ก.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,762 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,765 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.94 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 25,700 บาท กับ 25,800 บาท และกลับมาปิดที่ 25,650 บาท กับ 25,750 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 8,375 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 19,884 คู่สัญญา และSilver Futures อยู่ที่ 3126 คู่สัญญา OpenInterest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 17.1% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 15.5% Silver Futures เพิ่มขึ้น 2.5% GFV12 ปิด 26,020 บาท และ GFZ12 ปิด 26,130บาท GF10V12 ปิดที่ 26,030 บาท GF10Z12 ปิดที่ 26,120บาท SVV12 ปิดที่ 1,067 สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 26.9 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,780.5 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 72.6 เซนต์ ปิดที่ระดับ 34.66 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,320.77 ตัน (ถือครองเท่าเดิม)น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 1.87 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 91.85 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 72.46 จุด ปิดที่ระดับ 13,485.97 จุด Ratio Gold / Silver เท่ากับ 51.66 ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 1.53% เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นวันที่ปรับตัวสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ จากความหวังในการกระตุ้นเศรษฐกิจจากจีนและจากการที่คณะรัฐมนตรีสเปนไฟเขียวแผนปฏิรูปเศรษฐกิจปี 56 พุ่งเป้าวิกฤตหนี้สาธารณะ โดยสัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สส่งมอบเดือนธันวาคมปรับตัวเพิ่มขึ้น 26.9 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,780.5 เหรียญ/ออนซ์ ด้วยปริมาณการซื้อขายประมาณ 10% เหนือค่าเฉลี่ย 30 วัน ความสนใจเมื่อวานนี้พุ่งเป้ามาที่แผนงบประมาณมาตรการรัดเข็มขัดฉบับใหม่ของสเปน และการที่สเปนจะมีการขอความช่วยเหลือทางการเงินจากอีซีบีหรือไม่ ทั้งนี้คณะรัฐมนตรีสเปนได้อนุมัติงบประมาณและแผนการปฏิรูปสำหรับปี 2556 ในการประชุมเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย โดยภายใต้แผนการฉบับใหม่นี้ รัฐบาลจะผ่านร่างกฎหมาย 43 ฉบับเพื่อปฏิรูปเศรษฐกิจในช่วง 6 เดือนข้างหน้า โดยมีเป้าหมายที่จะยุติวิกฤตหนี้สาธารณะในสเปน ซึ่งแผนการดังกล่าวจะช่วยให้สเปนสามารถบรรลุเป้าหมายการลดยอดขาดุลการคลังในปี 2555 และ 2556 ซึ่งจะช่วยให้ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสเปนสิ้นสุดลง และจะยังจะช่วยคลี่คลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้สาธารณะในยูโรโซนด้วย นอก จากนี้ ธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ตลาดการเงินเป็นวงเงินสุทธิ 3.65 แสนล้านหยวน หรือ 5.792 หมื่นล้านดอลลาร์ในสัปดาห์นี้ ซึ่งนับเป็นการอัดฉีดเงินรายสัปดาห์มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งการอัดฉีดเงินเข้าสู่ตลาดการเงินในปริมาณสูงสุดเช่นนี้เกิดขึ้นในช่วง เวลาเดียวกับที่เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของธนาคารกลางจีนกำลังเผชิญกับความ ยากลำบากในการรักษาสภาพคล่องเอาไว้อย่างเพียงพอโดยไม่ก่อให้เกิดเงินเฟ้อ โดยการอัดฉีดเงินเข้าสู่ตลาดครั้งนี้นั้น มีเป้าหมายที่จะป้องกันไม่ให้ธนาคารพาณิชย์เผชิญกับภาวะสภาพคล่องตึงตัวใน ระยะสั้น สำหรับข่าวของธนาคารกลางจากประเทศอื่นๆ ได้แก่ นายทาเคฮิโระ ซาโต้ สมาชิกบอร์ดของบีโอเจ ได้กล่าวว่า แผนการผ่อนคลายการเงินล่าสุดมูลค่า 10 ล้านล้านเยน (1.27 แสนล้านดอลลาร์) ของธนาคารอาจไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว นายริชาร์ด อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก กล่าวโต้แย้งว่า การฟื้นตัวของตลาดแรงงานกว่า 200,000 ตำแหน่งในรายเดือนในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา เฟดควรพิจารณาที่จะหยุดการใช้มาตรการซื้อหลักทรัพย์จำนองมูลค่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน (QE3) สำหรับการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 22 ก.ย. ลดลง 26,000 ราย มาอยู่ที่ 359,000 ราย ซึ่งดีกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 375,000 ราย บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐกำลังฟื้นตัวขึ้นอย่างช้าๆ หลังจากที่ค่อนข้างผันผวนในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม ตัวเลขอื่นกลับไม่สดใสนัก โดย Durable Goods Orders ลดลง 13.2% ในเดือนสิงหาคมสู่ระดับ 1.9849 แสนล้านดอลลาร์ ในขณะที่จีดีพีไตรมาสที่ 2 ถูกปรับทบทวนลงสู่ระดับ 1.3% จากก่อนหน้านี้ที่ 1.7% ทางด้านอินเดีย ตลาดทองคำแท่งดูจะมีปริมาณความต้องการมากกขึ้นจากการแข็งค่าของเงินรูปี และเทศกาลต่างๆ ในอินเดีย การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันก็มีส่วนช่วยสนับสนุนราคาทองคำ หลังจากมีความตึงเครียดระหว่างอิหร่านและชาติตะวันตกได้ส่งผลต่อความเป็นไปได้ที่จะเกิดการขัดขวางการผลิตน้ำมัน ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน - Core Durable Goods Orders m/m เดิมอยู่ที่ระดับ -1.3% คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ -1.6% - Unemployment Claims เดิมอยู่ที่ระดับ 385K คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลง 378K ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 359K - Durable Goods Orders m/m เดิมอยู่ที่ระดับ 3.3% คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลง -4.7% ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ -13.2% - Final GDP q/q เดิมอยู่ที่ระดับ 1.7% คาดการณ์ว่าจะออกมาทรงตัวเท่าเดิมที่ 1.7% ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 1.3% - Pending Home Sales m/m เดิมอยู่ที่ระดับ 2.6% คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลง -0.4% ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ -2.6% ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ -Core PCE Price Index m/m เดิมอยู่ที่ระดับ 0.0% คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.1% - Personal Spending m/m เดิมอยู่ที่ระดับ 0.4% คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.5% - Chicago PMI เดิมอยู่ที่ระดับ 53.0 คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลง 52.9 - Revised UoM Consumer Sentiment เดิมอยู่ที่ระดับ 79.2 คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลง 79.0 วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold — ราคาทองคำเข้าสู่ภาวะของการ Technical Rebound หลังจากที่ปรับตัวลดลงรวดเร็วรุนแรงจากแรงกดดันของความวุ่นวายที่สเปนและกรีซ โดยที่เมื่อวานตลาดเริ่มคลายความกังวลในเรื่องของสเปนลง ช่วยให้ตลาดเริ่มมองในภาพที่ดีในการแก้ไขปัญหาของยูโรโซน ทำให้เกิดแรงซื้ออย่างหนาแน่นมากขึ้นในตลาดทองคำโดยตลอด จนสามารถทะลุขึ้นมาที่เหนือระดับ 1,760 เหรียญได้ ตลาดราคา Spot ปิดที่ระดับประมาณ 1,777 เหรียญในตลาดของ COMEX โดยภาพรวมตลาดมีการ Rebound ขึ้นตามค่าเงินยูโรเนื่องจากความสงบในสเปน ทำให้ค่าเงินยูโรปรับตัวสูงขึ้นจากระดับ 1.2850 ดอลลาร์/ยูโร มายืนเหนือระดับ 1.2910 ดอลลาร์/ยูโรได้ ขณะนี้ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นมาที่ระดับ 1.2940 ดอลลาร์/ยูโร ทำให้ราคาทองคำกลับดีดขึ้นมาทดสอบแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,780 เหรียญ MTS Gold วิเคราะห์ได้ว่า ราคาทองคำยังเป็นแนวโน้มขาขึ้นในระยะกลางและระยะยาว ในระยะสั้นเริ่มเข้าสู่ภาวะ Overbought บ้าง แนะนำให้ขายทำกำไรก่อนและค่อยซื้อกลับเมื่อราคาอ่อนตัว ในวันนี้ราคาอาจจะมีการแกว่งตัวได้ โดยจะมีแนวต้านที่ระดับ 1,785 เหรียญ จึงคาดว่าน่าจะไปไม่ไกล แนวต้านถัดไปอยู่ที่ระดับ 1,800 เหรียญ ซึ่งมี Double Top บริเวณนั้น และแนะนำให้ขายทำกำไรบริเวณนี้ ค่าเงินบาทเองแข็งค่าขึ้นตามการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ ก็ทำให้เงินบาทเมื่อคืนนี้แข็งค่าขึ้นกว่า 12 สตางค์ คำแนะนำในช่วงนี้จึงให้ขายทำกำไรก่อนและค่อยกลับมาช้อนซื้อเมื่อราคากลับมาอ่อนตัว Gold Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 26,050 บาท และแนวต้านที่ระดับ 26,250 บาท Gold Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 26,150 บาท และแนวต้านที่ระดับ 26,350 บาท Silver Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 1,050 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,090 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade) เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,770 — 1,785 เหรียญ แนะนำขายทำกำไรบริเวณแนวต้าน และซื้อกลับเมื่อราคาอ่อนตัว นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade) ขายทำกำไรบ้างประมาณ 20% หลังจากที่ซื้อสะสมมาตลอด ลดพอร์ทลงเหลือ 30% และรอช้อนซื้อกลับ นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง ขายทำกำไรบ้างบางส่วนประมาณ 10% ยังคงถือเป็น Long Position Portfolio ประมาณ 30% สรุปได้ว่า ราคาทองคำอาจขึ้นไปทดสอบแนวต้านเดิมที่ระดับประมาณ 1,785 เหรียญได้ บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ