บีโอไอคลอดนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ตั้งเป้าสร้างรายได้ 14,000 ล้านบาท ในปี 2551

ข่าวทั่วไป Wednesday September 1, 2004 10:46 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 ก.ย.--บีโอไอ
บอร์ดบีโอไอเห็นชอบนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์แบบบูรณาการ ระดมสมองหน่วยงานรัฐ — เอกชน กำหนด 2 ยุทธศาสตร์ มุ่งเพิ่มขีดความสามารถของธุรกิจภาพยนตร์ไทย และส่งเสริมให้ต่างประเทศเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในไทย ตั้งเป้าเพิ่มรายได้จากอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยเป็น 10,000 ล้านบาท และเพิ่มงบลงทุนผลิตหนังเทศในไทยเป็น 4,000 ล้านบาท ในปี 2551
นายพินิจ จารุสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ที่มี พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบต่อนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์แบบบูรณาการ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจภาพยนตร์ไทยและบริการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งดึงดูดให้ต่างชาติเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทยเพิ่มขึ้น และคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์อย่างน้อย 14,000 ล้านบาท ภายในปี 2551
ทั้งนี้ บีโอไอได้เสนอยุทธศาสตร์ 2 ส่วน คือ 1. การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันแก่ธุรกิจภาพยนตร์ไทยและธุรกิจที่เกี่ยวข้องแบบบูรณาการ ซึ่งมีมาตรการส่งเสริม 3 เรื่อง ประกอบด้วย มาตรการด้านการเงิน ซึ่งจะมีการจัดตั้งกองทุนสนับสนุนการสร้างภาพยนตร์ไทย โดยขณะนี้กระทรวงวัฒนธรรมกำลังดำเนินการจัดทำพระราชบัญญัติจัดตั้งกองทุน
มาตรการด้านพัฒนาบุคลากรเฉพาะทาง ที่ประชุมเห็นชอบให้ภาคเอกชนร่วมกับสถาบันการศึกษา และสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งประเทศไทย ดำเนินการปรับปรุงหลักสูตรการศึกษา และสนับสนุนให้ผู้ประกอบการภาพยนตร์จัดตั้งหลักสูตรเฉพาะทาง โดยเฉพาะผู้เขียนบท ผู้เชี่ยวชาญการทำเทคนิคพิเศษ นักพากย์ภาพยนตร์ เป็นต้น
มาตรการด้านภาษี ที่ประชุมเห็นชอบตามที่บีโอไอเสนอให้กระทรวงการคลังลดอัตราอากรขาเข้าเครื่องมืออุปกรณ์และวัตถุดิบที่ใช้ในอุตสาหกรรมภาพยตร์ เช่น ฟิล์มภาพยนตร์ อุปกรณ์การถ่ายทำ อุปกรณ์ Post Production ซึ่งปัจจุบันจัดเก็บร้อยละ 20 ให้เหลือร้อยละ 5 หรือไม่เก็บภาษี รวมทั้งเห็นชอบที่เสนอให้กรมศุลกากรลดกระบวนการในการนำเข้าวัตถุดิบ เช่นฟิล์มที่ถ่ายทำแล้วจากต่างประเทศที่จะนำมาใช้ในขั้นตอน Post Production ในประเทศไทย โดยจ่ายค่าธรรมเนียมแบบ Counter Charge
สำหรับยุทธศาสตร์ที่ 2 คือ การส่งเสริมให้ต่างชาติเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย โดยมีมาตรการต่างๆ ดังนี้ มาตรการอำนวยความสะดวก ซึ่งเสนอให้กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาจัดตั้งศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ เพื่อยกระดับการอำนวยความสะดวกแก่การเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศแบบครบวงจร ตั้งแต่การขออนุญาตถ่ายทำ การประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การให้ข้อมูล การประชาสัมพันธ์
นอกจากนี้ยังเห็นชอบให้มีการปรับปรุงหลักเกณฑ์และกฎระเบียบในการขออนุญาตถ่ายทำภาพยนตร์ให้สะดวกรวดเร็ว ครบวงจร เป็นมาตรฐานเดียว และจัดทำคู่มือในการขออนุญาตเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์เพื่อใช้เป็นแนวทางปฎิบัติ
นอกจากนี้ ยังเห็นชอบให้บีโอไอ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กระทรวงแรงงาน และสำนักกิจการภาพยนตร์ อำนวยความสะดวกในเรื่องใบอนุญาตทำงานและวีซ่าให้กับคณะผู้ที่เข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์และทีมงานสำรวจสถานที่ถ่ายทำ
ที่สำคัญ จะมีมาตรการกระตุ้นให้ต่างชาติเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในไทยด้วย โดยที่ประชุมเห็นชอบตามที่บีโอไอเสนอให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกรมสรรพากร กำหนดสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรแก่ภาพยนตร์ที่เข้ามาถ่ายทำ โดยศึกษาจากสิทธิประโยชน์ของประเทศอื่นๆ เช่น ออสเตรเลีย และมาตรการในการประชาสัมพันธ์ เช่น การจัดทำ Sales Kit การประชาสัมพันธ์เชิงรุกผ่านสื่อต่างๆ เช่น เว็บไซต์ นิทรรศการ สื่อสิ่งพิมพ์ และการเดินสายชักจูงการลงทุน
ก่อนหน้านี้ บีโอไอได้ออกมาตรการสนับสนุนอุตสาหกรรมภาพยนตร์ทางด้านภาษี ทั้งของไทยและของต่างประเทศที่เข้ามาถ่ายทำในไทยไปแล้ว 2 มาตรการ คือ 1 บีโอไอจะยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 5 ปีทุกเขตที่ตั้งแก่กิจการสร้างภาพยนตร์ไทยและกิจการให้บริการแก่ธุรกิจสร้างภาพยนตร์หรือมัลติมีเดีย รวมทั้งปรับขอบข่ายธุรกิจให้ครอบคลุมถึงภาพยนตร์สารคดีและสปอตโฆษณา
มาตรการที่ 2 คือ การส่งเสริมให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์เกิดเป็น Cluster โดยได้เปิด ให้การส่งเสริมแก่กิจการเขตอุตสาหกรรมภาพยนตร์ หรือ Movie Town โดยให้ได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรทุกเขตและยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี ทั้งผู้ประกอบการนิคมฯ และอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่ตั้งอยู่ในเขตนิคมฯ--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ