กระทรวงพลังงานดึงกูรูสำรองน้ำมัน เตรียมเสริมความมั่นคงด้านพลังงานระดับชาติและอาเซียน

ข่าวทั่วไป Monday October 1, 2012 10:45 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 ต.ค.--กระทรวงพลังงาน กระทรวงพลังงานจับมือทบวงพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ดึงกูรูร่วมแชร์ประสบการณ์การสำรองน้ำมัน หวังศึกษาแนวทางและสร้างความร่วมมือด้านปิโตรเลียม เสริมยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านพลังงานไทยในภูมิภาคอาเซียน 26 กันยายน 2555 พล.ต.ท.ดร.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพลังงาน เป็นประธานเปิดงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการ IEA-MoEN Regional Workshop on Energy Security Oil Security and Regional Emergency Preparedness ที่จัดขึ้น โดยได้รับความร่วมมือจากทบวงพลังงานระหว่างประเทศ หรือ IEA มาร่วมแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านการสำรองน้ำมันจากประเทศที่เป็นมาตรฐานระดับสากล หวังเสริมยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ ตามที่มติคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2555 ที่เห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2555 ให้ความเห็นชอบในหลักการแนวทางการสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงทางยุทธศาสตร์ของประเทศ เนื่องจากเล็งเห็นว่าประเทศไทยมีการนำเข้าน้ำมันดิบกว่าร้อยละ 80 ของการจัดหาและส่วนใหญ่นำเข้ามาจากประเทศในแถบตะวันออกกลาง ซึ่งมีความไม่สงบทางด้านการเมืองบ่อยครั้งและต่อเนื่อง จึงเห็นว่าประเทศไทยควรมีแผนในการเตรียมความพร้อม เพื่อรองรับการขาดแคลนน้ำมันที่อาจจะเกิดขึ้นและได้มอบหมายให้กระทรวงพลังงานดำเนินการศึกษารายละเอียดเพื่อจัดตั้งการสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงทางยุทธศาสตร์ของประเทศเพื่อรองรับสภาวะวิกฤตด้านพลังงานขึ้น พล.ต.ท.ดร.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า “ประเทศไทยจำเป็นต้องมีการสำรองน้ำมันเพิ่มขึ้น เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน โดยการสัมมนาในครั้งนี้จะทำให้เราได้ศึกษาและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในเรื่องการสำรองน้ำมันกับประเทศอาเซียนจากหลายประเทศที่ได้รับมาตรฐานระดับสากล เช่น ประเทศไอร์แลนด์ และฮังการี ซึ่งมีทั้งการเก็บสำรองน้ำมันโดยหน่วยงานรัฐที่ตั้งขึ้นมาโดยเฉพาะและการเก็บน้ำมันสำรองโดยภาคเอกชน โดยมีองค์กรภาครัฐเป็นผู้บริหาร หลังจากนี้เราจะนำมาพิจารณาแนวทางการบริหารจัดการที่เหมาะสมเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศไทย” นอกจากนี้ ภายในงานยังมีหารือถึงการสร้างความร่วมมือด้านปิโตรเลียมเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานในภูมิภาคอาเซียน เช่น ประเทศอินโดนิเซีย เวียดนามและ ACE (ASEAN Center for Energy) อีกด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ