กรุงเทพฯ--1 ต.ค.--ก.ล.ต.
ก.ล.ต. ดำเนินการลงโทษผู้แนะนำการลงทุน 7 ราย ได้แก่ (1) เพิกถอนการให้ความเห็นชอบผู้แนะนำการลงทุนรายนางสาวลักขิกา อารมย์เสรี (2) สั่งพักการปฏิบัติหน้าที่เป็นนักวิเคราะห์การลงทุน/ผู้แนะนำการลงทุน 5 ราย ประกอบด้วย นายวรสันติ์ จารุพรรณ สังกัดบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) นายพงศ์พัทธ์ทวีสมบูรณ์ สังกัดบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) นางสาวสุนทรีย์ เวโรจน์สกล สังกัดบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย ) จำกัด นายณัฐพล บุญจำนงค์ สังกัดบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัดนางสาวณัฏฐศศิ เหลืองพวงแก้ว สังกัดบริษัท คลาสสิค โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด มีผลตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน2555 และ (3) เปิดเผยพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้แนะนำการลงทุน (ตำหนิ)รายนางสาวพันธรักษา ใจถวิล
กรณีนางสาวลักขิกา ก.ล.ต. ได้รับแจ้งจากบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ต้นสังกัดว่า นางสาวลักขิกา จัดทำหนังสือรับรองวุฒิการศึกษาไม่ตรงตามความเป็นจริงและใช้เอกสารดังกล่าวเป็นหลักฐานในการสมัครงานกับ บล.ซึ่ง ก.ล.ต. ได้ตรวจสอบพบว่า นางสาวลักขิกาได้อ้างวุฒิการศึกษาดังกล่าว ในการขอความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนจาก ก.ล.ต. ด้วย
การกระทำของนางสาวลักขิกาเข้าข่ายเป็นการขาดคุณสมบัติของการเป็นผู้แนะนำการลงทุนตามข้อ 18(1) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทลธ. 3/2555 เรื่อง การให้ความเห็นชอบบุคลากรของผู้ประกอบธุรกิจเพื่อปฏิบัติหน้าที่วิเคราะห์การลงทุนและแนะนำการลงทุน ลงวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2555 และมีลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน ตามข้อ 6(3) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทธ/น/ข. 37/2553 เรื่อง ลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน ลงวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2553 ก.ล.ต. จึงเพิกถอนการให้ความเห็นชอบโดยกำหนดระยะเวลาในการรับพิจารณาคำขอความเห็นชอบเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนเป็นเวลา 2 ปี
สำหรับกรณีนายวรสันติ์ ก.ล.ต. ได้รับรายงานจาก บล. บัวหลวง และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า นายวรสันติ์ได้รับมอบหมายจากลูกค้ารายหนึ่งให้ตัดสินใจและกำหนดรายละเอียดของคำสั่งซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแทน เป็นระยะเวลากว่า 3 ปี ซึ่งนายวรสันต์ยอมรับว่าได้กระทำการดังกล่าวจริง
กรณีนายณัฐพล ก.ล.ต. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกค้า บล. โกลเบล็ก ว่านายณัฐพลได้สั่งซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยพลการ และโทรศัพท์แจ้งลูกค้าภายหลัง ซึ่งจากการตรวจสอบเทปบันทึกการให้คำแนะนำและการรับคำสั่งซื้อขายของลูกค้า พบว่าที่มาของคำสั่งซื้อขายจากลูกค้าไม่ชัดเจน โดยมีบทสนทนาในลักษณะเป็นการกำหนดกรอบการลงทุนให้นายณัฐพลดำเนินการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าและแจ้งลูกค้าในภายหลัง ซึ่งพิจารณาได้ว่าเป็นการรับมอบหมายจากผู้ลงทุนในการตัดสินใจซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแทนผู้ลงทุน
อันไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การปฏิบัติหน้าที่
กรณีนางสาวณัฎฐศศิ ก.ล.ต. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกค้าบริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ว่านางสาวณัฎฐศศิซื้อขายสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า (gold futures) นอกเหนือคำสั่งของลูกค้า ซึ่ง ก.ล.ต.ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ที่มาของคำสั่งซื้อขายจากลูกค้าไม่ชัดเจน โดยมีบทสนทนาที่น่าเชื่อว่านางสาวณัฎฐศศิดำเนินการซื้อขาย gold futures และแจ้งลูกค้าในภายหลัง ซึ่งนางสาวณัฎฐศศิยอมรับว่ามีการซื้อgold futures บางรายการโดยที่ไม่มีคำสั่งจากลูกค้า เพื่อลดผลขาดทุนในบัญชีของลูกค้า ซึ่งพิจารณาได้ว่าเป็นการรับมอบหมายจากผู้ลงทุนในการตัดสินใจซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแทนผู้ลงทุน อันไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การปฏิบัติหน้าที่
กรณีนางสาวพันธรักษา ก.ล.ต. ได้รับเรื่องร้องเรียนว่า นางสาวพันธรักษาได้ซื้อหลักทรัพย์โดยที่ลูกค้าไม่ได้สั่ง ทำให้ลูกค้าได้รับความเสียหาย ซึ่ง ก.ล.ต. ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากเทปบันทึกการให้คำแนะนำและการรับคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ระหว่างนางสาวพันธรักษากับลูกค้าภายหลังเกิดเหตุ พบว่านางสาวพันธรักษายอมรับกับลูกค้าว่าได้สั่งซื้อหลักทรัพย์ดังกล่าวแทนลูกค้าไปก่อนและได้แจ้งให้ลูกค้าทราบเมื่อสิ้นวัน
การกระทำของนายวรสันติ์ นายณัฐพล นางสาวณัฎฐศศิ และนางสาวพันธรักษา ที่กล่าวข้างต้น เป็นการปฏิบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การปฏิบัติหน้าที่ตามข้อ 20(2) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทลธ. 3/2555 เรื่อง การให้ความเห็นชอบบุคลากรของผู้ประกอบธุรกิจเพื่อปฏิบัติหน้าที่วิเคราะห์การลงทุนและแนะนำการลงทุน ลงวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2555 ก.ล.ต. จึงสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ผู้แนะนำการลงทุนรายนายวรสันติ์เป็นเวลา 3 เดือน แต่เมื่อคำนึงถึงกรณีที่ บล. ต้นสังกัดได้ลงโทษนายวรสันติ์ โดยให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้แนะนำการลงทุนเป็นเวลา 3 เดือน จึงพิจารณาว่านายวรสันติ์ได้รับโทษพักการปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้แนะนำการลงทุนตามที่ ก.ล.ต. ลงโทษแล้ว และสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ผู้แนะนำการลงทุนรายนายณัฐพลและนางสาวณัฏฐศศิ เป็นเวลา 1 เดือน และเปิดเผยพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้แนะนำการลงทุนของนางสาวพันธรักษา ซึ่งจะบันทึกพฤติกรรมไว้ประกอบการพิจารณาหากมีการปฏิบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การปฏิบัติหน้าที่ของผู้แนะนำการลงทุนอีก
ส่วนกรณีนายพงศ์พัทธ์ ก.ล.ต. ได้รับแจ้งจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า มีข้อสังเกตเกี่ยวกับการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของลูกค้ารายหนึ่งของ บล. กสิกรไทย และจากการตรวจสอบของ บล. กสิกรไทย พบว่าลูกค้ารายดังกล่าวอยู่ในความดูแลของนายพงศ์พัทธ์ และตั้งแต่ลูกค้าเปิดบัญชีจนถึงวันตรวจสอบเป็นเวลาเกือบ3 เดือน ไม่พบที่มาของคำสั่งจากลูกค้ารายดังกล่าวจากบันทึกเทปการให้คำแนะนำเลย ทั้งที่มีความถี่และปริมาณการซื้อขายค่อนข้างสูง โดยนายพงศ์พัทธ์ยอมรับว่าให้คำแนะนำและรับคำสั่งซื้อขายจากลูกค้าทางโทรศัพท์มือถือ
และกรณีนางสาวสุนทรีย์ ก.ล.ต. ตรวจสอบการดำเนินงานตามปกติ (routine inspection) พบว่า นางสาวสุนทรีย์ไม่ได้บันทึกเทปการให้คำแนะนำและการรับคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ของลูกค้าจำนวนหนึ่ง และนางสาวสุนทรีย์ยอมรับว่ารับคำสั่งซื้อขายของลูกค้าทางโทรศัพท์มือถือ
การกระทำของนายพงศ์พัทธ์และนางสาวสุนทรีย์เป็นการปฏิบัติไม่เป็นตามหลักเกณฑ์การปฏิบัติหน้าที่ตามข้อ 20(3) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทลธ. 3/2555 เรื่อง การให้ความเห็นชอบบุคลากรของผู้ประกอบธุรกิจเพื่อปฏิบัติหน้าที่วิเคราะห์การลงทุนและแนะนำการลงทุน ลงวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2555 ก.ล.ต. จึงสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่เป็นนักวิเคราะห์การลงทุนและผู้แนะนำการลงทุนของนายพงศ์พัทธ์เป็นเวลา3 เดือน แต่เมื่อคำนึงถึงกรณีที่ บล. ต้นสังกัดได้ลงโทษพักงานนายพงศ์พัทธ์ซึ่งนับเป็นระยะเวลาที่นายพงศ์พัทธ์ได้รับโทษตามที่ ก.ล.ต. ลงโทษไปแล้ว 14 วัน จึงคงเหลือเวลาพักการปฏิบัติหน้าที่ของนายพงศ์พัทธ์ตามคำสั่งของสำนักงานอีกเป็นเวลา 2 เดือน 16 วัน และสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้แนะนำการลงทุนด้านตลาดทุนของนางสาวสุนทรีย์เป็นเวลา 1 เดือน
นายวสันต์ เทียนหอม รองเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “ทุกวันนี้ผู้ลงทุนส่วนหนึ่งไม่ทราบว่า ผู้แนะนำการลงทุนไม่สามารถตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์แทนผู้ลงทุนได้ ไม่ว่าผู้ลงทุนจะยินยอมมอบหมายให้ผู้แนะนำการลงทุนดำเนินการหรือเป็นการกระทำของผู้แนะนำการลงทุนโดยพลการ เนื่องจากผู้แนะนำการลงทุนเป็นผู้ที่ บล.มอบหมายให้ทำหน้าที่ติดต่อและให้คำแนะนำ หรือวางแผน เกี่ยวกับการซื้อขายหรือการลงทุนในหลักทรัพย์ให้แก่ผู้ลงทุนเท่านั้น ส่วนผู้ลงทุนต้องเป็นผู้ตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์เอง ดังนั้น ก.ล.ต. จึงขอให้ บล.ทำความเข้าใจกับผู้ลงทุนในเรื่องนี้ให้ถูกต้อง และกวดขันไม่ให้ผู้แนะนำการลงทุนของ บล. รับดำเนินการให้แก่ลูกค้า เพื่อไม่ให้เป็นช่องทางที่อาจเกิดการทุจริตต่อทรัพย์สินของผู้ลงทุนได้”