ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ ฝ่าความท้าทายบนเทือกเขาสูงชัน

ข่าวยานยนต์ Tuesday October 2, 2012 08:54 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 ต.ค.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทิจีส์ - วิศวกรของฟอร์ดทดสอบโฟกัส ใหม่ บนถนนกลอสกล็อกเนอร์ ไฮ อัลไพน์ เพื่อพิสูจน์ความสามารถในการทำงานที่ความสูงถึง 2,504 เมตร - การขับขึ้นเนินเขาที่มีความลาดชันถึง 12 เปอร์เซ็นต์เป็นระยะทางยาวๆ ถือเป็นบททดสอบการทำงานของเครื่องยนต์และคลัทช์ที่ดีเยี่ยม - เบรกของโฟกัส ใหม่ ผ่านการทดสอบอย่างหนักหน่วงเมื่อขับลงเนิน และนับเป็นอีกครั้งหนึ่งที่โฟกัส ใหม่ ผ่านบทพิสูจน์ความพร้อมในการรับมือกับทุกสถานการณ์ ระดับความสูงส่งผลกระทบต่อรถยนต์เช่นเดียวกับที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายมนุษย์ เมื่อเราปีนขึ้นสู่ที่สูง ออกซิเจนในอากาศเบาบาง เราจึงทั้งหายใจและเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างยากลำบาก การที่ฟอร์ดต้องการให้รถคงประสิทธิภาพการทำงานอย่างดีเยี่ยมไม่ว่าจะขับที่ระดับความสูงเท่าใดก็ตาม วิศวกรของฟอร์ดจึงต้องเดินทางไปยังเทือกเขาแอลป์และถนนกลอสกล็อกเนอร์ ไฮ อัลไพน์ ในประเทศออสเตรียบ่อยครั้ง ถนนลาดยางที่งดงามตระการตาสายนี้สร้างเสร็จเมื่อปีค.ศ. 1935 พร้อมพานักเดินทางสัญจรผ่านใจกลางอุทยานแห่งชาติ โฮเออร์ โทวเอิร์น ไปยังสุดปลายถนนซึ่งอยู่ตรงข้ามกับภูเขากลอสกล็อกเนอร์ ภูเขาที่สูงที่สุดในออสเตรีย (3,798 เมตร) และธารน้ำแข็งพาสเตอร์ซ เส้นทาง 48 กิโลเมตร ที่มีโค้งอันตรายมากถึง 36 แห่ง และมีระดับความสูงที่สุดถึง 2,504 เมตร นับว่าเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกของงานวิศวกรรมโยธา และเป็นเสมือนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่นักขี่มอเตอร์ไซค์และนักขับรถทั่วโลกจะต้องเดินทางมาเยือน ถนนเส้นนี้จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะใช้ทดสอบความสามารถในการขับบนที่สูงของฟอร์ด โฟกัส ใหม่ มร. เบิร์นด์ เฮอร์เวลิ่ง วิศวกรด้านบูรณาการยานยนต์ของฟอร์ด ใช้เวลา 2 สัปดาห์ขับรถขึ้น-ลงเขาเป็นระยะทาง 200 กิโลเมตรทุกวัน เพื่อทดสอบการทำงานของระบบส่งกำลังแบบต่างๆ “เราประเมินความสามารถในการขับขี่บนภูเขาสูงชันโดยมองในมุมของลูกค้า เป้าหมายของเราคือการศึกษาการทำงานของรถเมื่อต้องขับขึ้นและลงเนินเขาที่สูงมากๆ เป็นประจำ” มร. เฮอร์เวลิ่ง อธิบาย “กลอสกล็อกเนอร์คือเส้นทางในฝันสำหรับการทดสอบ และพื้นผิวถนนก็ดีมากๆ เราทดสอบบนส่วนแรกของถนนซึ่งมีความชันมากที่สุด เพราะถนนส่วนนี้มีความชัน 12 เปอร์เซ็นต์เกือบตลอดระยะทางไปจนถึงจุดบอกระยะที่ 2,400 เมตร ณ ระดับความสูงดังกล่าว อากาศเบาบางมากและเครื่องยนต์ต้องทำงานหนักขึ้น ถือเป็นถนนเส้นยาวที่ช่วยให้เราเก็บข้อมูลได้มากมาย” ขับขึ้นที่สูงและสูงขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่มร. เฮอร์เวลิ่ง ขับโฟกัส ใหม่ ไปบนเส้นทางดังกล่าว มร. มาร์คัส โพลล์ เพื่อนร่วมงานของเขาจะนั่งบนเบาะผู้โดยสารด้านหน้า และคอยสังเกตข้อมูลจากคอมพิวเตอร์พกพาที่รายงานอุณหภูมิภายนอก อุณหภูมิน้ำมัน และรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ บนเบาะด้านหลังยังมีกระป๋องน้ำมันพลาสติกอีกนับโหลบรรจุวัสดุถ่วงน้ำหนักเทียบเท่ากับผู้โดยสารตัวใหญ่ๆ อีก 3 คน การขับรถบนถนนกลอสกล็อกเนอร์มีค่าผ่านทาง 28 ยูโรต่อวัน เมื่อผ่านด่านจ่ายค่าผ่านทางที่ด้านล่างสุดของหุบเขาแล้ว ถนนเส้นนี้ก็แสดงพิษสงให้เราเห็นทันที ตั้งแต่เส้นทางขึ้นเนินสูงชันเป็นเส้นตรง ไปจนถึงการเข้าโค้งแบบหักศอต่อเนื่องกันหลายโค้ง มร. เฮอร์เวลิ่ง ทดสอบฟอร์ด โฟกัส ใหม่ อย่างหนักด้วยการแช่อยู่ที่เกียร์ 2 และ 3 เป็นส่วนใหญ่ และลดลงมายังเกียร์ 1 เมื่อต้องเข้าโค้งที่ยากจริงๆ เขาขับแซงรถบัสคันที่หนึ่ง สอง สาม และขับแซงรถสปอร์ตเจ๋งๆ ไปอีกหลายคัน ทะยานขึ้นสู่เนินเขาที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความเร็วที่ชวนให้รู้สึกน่าเวียนหัว แม้ว่าธรรมชาติโดยรอบจะงดงามชวนมอง แต่เส้นทางที่คดเคี้ยวทำให้ผู้ขับขี่ต้องมีสมาธิอยู่กับท้องถนนอย่างมาก เพราะถัดจากขอบถนนไปก็คือหน้าผาที่ไม่มีแผงกั้น อาการหูอื้อเริ่มโจมตีผู้ขับขี่ขณะที่ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ ขับขึ้นสู่ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ และหลังจากพ้นที่ราบในหุบเขาขึ้นมาได้เพียงนไม่กี่นาที มร. เฮอร์เวลิ่ง ก็จอดรถเข้าข้างทาง ดับเครื่องยนต์ และยกแผ่นกันลมมาตั้งไว้รอบๆ กระโปรงหน้ารถเพื่อดักความร้อนไว้ภายในห้องเครื่อง “ถือเป็นการอาบความร้อนของจริง” มร. เฮอร์เวลิ่ง กล่าว “เราต้องการให้เครื่องยนต์ร้อนที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อขับขึ้นที่สูง เราต้องจับตาการทำงานของทั้งระบบทำความเย็นของเครื่องยนต์ อุณหภูมิหม้อน้ำ อุณหภูมิน้ำมัน และหากเป็นรุ่นเกียร์อัตโนมัติ เราต้องดูอุณหภูมิของน้ำมันเกียร์อย่างใกล้ชิดด้วย” “เราติดตั้งระบบสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์มากกว่า 100 แห่งในรถ เพื่อบันทึกประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งระหว่างขับมีข้อมูลเกิดขึ้นมากมาย งานของผมคือการขับรถค่อนข้างเร็วแต่ไม่เกินกว่าที่กำหนด ทั้งที่จริงแล้วเรายังขับเร็วกว่านี้ได้อีกมาก!” ในการขับรถขึ้นเนิน คลัทช์และเครื่องยนต์ต้องรับภาระมากที่สุด แต่เมื่อขับลงเนิน เบรกคืออุปกรณ์ที่ต้องทำงานมากกว่าใคร ป้ายจราจรข้างทางมากมายคอยเตือนผู้ขับขี่ให้ขับด้วยเกียร์ต่ำ และพยายามใช้เบรกน้อยๆ ทว่า มร. เฮอร์เวลิ่ง มักจะเบรกอย่างกระชั้นชิดเมื่อใกล้จะถึงโค้งเสมอ และฟอร์ด โฟกัส ใหม่ ก็ยังคงยึดเกาะถนนได้อย่างเหนียวหนึบ “สภาพการทดสอบนับว่าโหดสุดขั้ว แต่ถ้ารถแสดงประสิทธิภาพได้ตามเป้าหมายที่เราตั้งไว้ภายใต้การขับขี่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ โฟกัส ใหม่ ก็ย่อมรับมือกับทุกความต้องการของลูกค้าได้อย่างแน่นอน!”

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ