กรุงเทพฯ--3 ก.ย.--ขสมก.
จากกรณีที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าวผลจากการสัมมนาทางวิชาการเรื่อง“เครือข่ายและแนวร่วมทางวัฒนธรรมกรณีศึกษาจากสื่อลามก” ที่จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษาเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2547 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมอินทราการ์เด้นท์วิว จังหวัดนครนายก โดยมีตัวแทนนักศึกษาทั่วประเทศเข้าร่วม 344 คน เพื่อรับฟังปัญหา แนวทางการมีส่วนร่วมในการป้องกันสื่อลามกอนาจารโดยมีนักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้เปิดโปงพฤติกรรมของวัยรุ่นหญิง-ชายที่ใช้รถเมล์ปรับอากาศของ ขสมก.สาย 12 (หัวยขวาง-กระทรวงพาณิชย์) เป็นแหล่งมั่วรักมีพฤติกรรมจูบกอดหอมแก้มกันจนถึงขั้นสำเร็จความใคร่ให้กัน โดยเฉพาะบริเวณเบาะด้านหลังรถ ต่อมาเมื่อวันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา ขสมก. ได้ติดโปสเตอร์ประกาศเตือนใจความว่า “หญิงไทยควรรักนวลสงวนตัวตามวัฒนธรรมไทย” บนรถปรับอากาศสาย ปอ.12 ไปแล้วเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าวนั้น
นายวิโรจน์ นีละโยธิน หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยเพิ่มเติมต่อกรณีข่าวดังกล่าวว่า ขณะนี้ ขสมก.ได้นำโปสเตอร์รณรงค์ไปติดประกาศเป็นข้อความใหม่แล้วในรถเมล์สาย 12 และทุกสายเดินรถของ ขสมก.เพื่อเตือนสติวัยรุ่นหญิง-ชายและผู้โดยสารทั่วไปที่มีพฤติกรรมชอบใช้รถเมล์ปรับอากาศแสดงความรักจนเกินขอบเขต ซึ่งเป็นเรื่องที่ฝืนวัฒนธรรมอันดีงามของคนไทย โดยใช้ข้อความรณรงค์เตือนใจวัยรุ่นแบบใหม่ว่า “ระวังใจ รักษากาย ทั้งหญิง-ชายรักษ์วัฒนธรรม” ตามที่สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวได้เสนอข้อความดังกล่าวให้ ขสมก.พิจารณาติดเผยแพร่แทนข้อความเดิมที่ว่า “หญิงไทยควรรักนวลสงวนตัวตามวัฒนธรรมไทย” ซึ่งมีหลายฝ่ายวิจารณ์ว่า เป็นข้อความที่พูดเตือนสติกว้างเกินไปกระทบกระเทือนต่อความรู้สึกกับผู้หญิงที่มิได้มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมดังกล่าว ขสมก.จึงได้มีการนำข้อความรณรงค์แบบใหม่มาใช้แทนตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน เป็นต้นไปแล้ว พร้อมกับมีมาตรการให้พนักงานขับรถเปิดไฟภายในรถให้สว่างทุกดวง โดยเฉพาะบริเวณท้ายรถที่แต่เดิมบางคันพนักงานอาจปิดไฟมืดเพราะป้องกันแสงสะท้อนเข้าตาเวลามองกระจกหลัง ซึ่งต่อไปนี้รถแอร์ทุกคันต้องเปิดไฟสว่างหมดพร้อมกับให้พนักงานเก็บค่าโดยสารรวบผ้าม่านเก็บพับไวัในที่พับหลังจากไม่มีแสงแดดส่องในตอนเย็น-ค่ำแล้วทุกคัน หากมีผู้โดยสารดึงม่านปิดโดยมีเจตนาไม่เหมาะสมจะขอร้องให้พับเก็บไว้ที่เดิมรวมทั้งจัดนายตรวจขึ้นตรวจบนรถเมล์ปรับอากาศในยามค่ำคืนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกับรถสาย 12 ที่มีการระบุว่ามีวัยรุ่นชาย-หญิงชอบขึ้นมาทำพฤติกรรมความรักแบบไม่เหมาะสมบนรถ โดยขณะนี้ได้เพิ่มนายตรวจออกตรวจทุกวันจาก 3 คน เป็น 5 คน รวมทั้งในรถปรับอากาศสายอื่น ๆ ก็จะใช้มาตรการเช่นนี้ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามมาตรการต่าง ๆ ที่ออกมาใช้ป้องกันเรื่องนี้คงหวังผลไม่ได้ 100% แต่ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกและความละอายของผู้กระทำด้วย ซึ่ง ขสมก.จะมีการติดตามผลการใช้มาตรการนี้โดยต่อเนื่องว่าพฤติกรรมการแสดงบทรักอย่างไร้ขอบเขตบนรถเมล์ปรับอากาศจะลดลงหรือหายไปจากสังคมหรือไม่ จึงขอร้องให้หญิง-ชายที่โดยสารรถเมล์ของ ขสมก.ควรช่วยกันรักษาวัฒนธรรมไทย โดยไม่แสดงความรักกันอย่างประเจิดประเจ้อบนรถเมล์ ซึ่งเป็นบริการสาธารณะเพื่อคนส่วนรวม สำหรับกรณีมี นสพ.บางฉบับเสนอข่าวว่า มีชาย-หญิงนำผ้าม่านบนรถมาใช้ปกปิดร่างกายขณะเริงสวาทด้ายนั้นกรณีถึงขั้นนี้ยังไม่เคยพบบนรถเมล์ปรับอากาศ ขสมก.แต่อย่างใด--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--