กรุงเทพฯ--4 ต.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,772 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,778 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.74 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 25,700 บาท กับ 25,800 บาท และกลับมาปิดที่ 25,750 บาท กับ 25,850 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 5,372 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 12,300 คู่สัญญา และSilver Futures อยู่ที่ 15 คู่สัญญา OpenInterest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 17% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 6% Silver Futures เพิ่มขึ้น 3% GFV12 ปิด 26,020 บาท และ GFZ12 ปิด 26,140 บาท GF10V12 ปิดที่ 26,020 บาท GF10Z12 ปิดที่ 26,130บาท SVV12 ปิดที่ 1,073
สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 4.2 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,779.8 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 2.1 เซนต์ ปิดที่ระดับ 34.69 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,324.39 ตัน (ซื้อเข้า) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 3.75 เซนต์ ปิดที่ระดับ 88.14 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 12.25 จุด ปิดที่ระดับ 13,494.61 จุด
Ratio Gold / Silver เท่ากับ 51 ต่อ 1
ข่าวที่สำคัญ
TheBullionDesk, Reuters, Infoquest และ CNBC
- ราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideway เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงจับตาการประกาศตัวเลข Non-Farm Payrolls ของสหรัฐในวันศุกร์ และตลาดเอเชียหลายแห่งยังคงปิดอยู่ นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงรอผลการโต้วาทีการเลือกตั้งประธานธิบดีของสหรัฐ การประชุมอีซีบีด้วยเช่นกัน ซึ่งคาดว่าจะยังไม่เปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมอีซีบีวันนี้ โดยสัญญาทองคำส่งมอบเดือนธันวาคมปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.2 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,779.8 เหรียญ/ออนซ์
- เทรดเดอร์กล่าวว่า การซื้อขายเมื่อวานเงียบเหงา และดูเหมือนตลาดกำลังรอวันศุกร์ นอกจากนี้ราคาอยู่ห่างจากการแตะระดับ 1,800 เหรียญอยู่เพียง 20 เหรียญเท่านั้น ซึ่งหากมีการประกาศตัวเลขที่ออกมาแย่ ราคาทองคำจะไปต่อได้ โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ราคาทองคำขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในปีนี้ที่ 1,791.2 เหรียญ และดูเหมือนจะเข้าใกล้ระดับแนวต้านสำคัญทางจิตวิทยาที่ระดับ 1,800 เหรียญเข้าไปทุกที ทั้งนี้ยังมีการซื้อขายในตลาดอยู่ในกรอบ 1,750 — 1,790 เหรียญ ก่อนการประกาศตัวเลข Non-Farm Payrolls ในวันศุกร์ อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครต้องการลงทุนไปทางใดทางหนึ่งมากๆ เนื่องจากทุกคนต่างก็รอข่าวเพื่อขับเคลื่อนตลาด และหวังว่าการประกาศตัวเลขในวันศุกร์จะนำมาซึ่งความน่าสนใจเป็นอย่างมาก
- สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจทั้งทางฝั่งยุโรปและจีน รวมไปถึงสหรัฐมีผลกระทบต่อตลาดเพียงเล็กน้อย โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหรัฐ ขยายตัวสู่ระดับ 55.1 ในเดือนก.ย. แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 5 เดือนที่ผ่านมา จากระดับ 53.7 ในเดือนส.ค. ในขณะที่ ADP และ Macroeconomic Advisers เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 162,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 145,000 ตำแหน่ง แต่ต่ำกว่าเดือนที่ผ่านมาที่ระดับ 189,000 ตำแหน่ง ซึ่งได้รับการปรับทบทวนลดลงจาก 201,000 ตำแหน่ง อย่างไรก็ตามไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบจากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจมากนักเมื่อคืนนี้
- นอกจากนี้ ปริมาณการซื้อขายของสัญญาทองคำและ Open Interest ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก เนื่องจากนักลงทุนรอคอยการโต้วาทีในรัฐเดนเวอร์ ซึ่งนายบารัค โอบามา และนายมิท รอมนีย์ จะมีการโต้วาทีกันเป็นครั้งแรกในช่วงเช้านี้ ซึ่งภายหลังการโต้วาทีเสร็จสิ้นลง โพลสำรวจแห่งชาติระบุว่า ผลคะแนนของทั้งสองสูสีกันมาก แต่นายโอบามาจะได้รับผลคะแนนมากกว่า
- นาทิสซิส กล่าวว่า เศรษฐกิจระดับมหัพภาคจะกดดันราคาทองคำและโลหะเงินให้ปรับตัวลดลงในปีหน้า แม้ว่าการผ่อนคลายการเงินโดยเฟดจะส่งผลดีต่อราคาทองคำ แต่สภาวะ Fiscal Cliff ของสหรัฐ และการเพิ่มระดับเพดานหนี้ของสหรัฐจะเป็น 2 เหตุการณ์หลักที่จะกดดันราคาทองคำให้ลดต่ำลง
- สำหรับทางด้านยุโรป ตลาดยังคงรอนายมาเรียโน ราฮอย นายกรัฐมนตรีของสเปนในการร้องขอความช่วยเหลืออย่างเป็นทางการจากอีซีบี ซึ่งราคาทองคำจะได้รับผลประโยชน์จากการขอความช่วยเหลือของสเปน โดยนายเดนนิส การ์ทแมน ระบุว่า สเปนจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือ ทุกคนและทุกที่ต่างก็รู้ว่าสถานการณ์หนี้ของสเปนยากเกินเยียวยา อย่างไรก็ตาม นายราฮอยยังคงปฏิเสธที่จะยอมรับความจริง และตลาดยังคงรอคำตัดสินใจจากเขา ทั้งนี้หากสเปนถูกดาวน์เกรดโดยมูดี้ส์อาจเป็นการบังคับให้รัฐบาลสเปนขอความช่วยเหลือในช่วงสุดสัปดาห์นี้
- โอลิเวียร์ บลานชาร์ด หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของไอเอ็มเอฟ กล่าวให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ว่า เศรษฐกิจโลกจะต้องใชแวลาอย่างน้อย 10 ปีเพื่อฟื้นตัวจากวิกฤตทางการเงิน
- ในวันที่ 2 ตุลาคม มูลค่าการถือครองทองคำของกองทุน ETFs เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 74.152 ล้านออนซ์ จากระดับสูงสุดที่ 74.288 ล้านออนซ์ที่ทำไว้ช่วงปลายเดือนกันยายน
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
-ADP Non-Farm Employment Change เดิมอยู่ที่ระดับ 189K ตัวเลขจริงออกมาลดลงอยู่ที่ระดับ 162K
- ISM Non-Manufacturing PMI เดิมอยู่ที่ระดับ 53.7 ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 55.1
- Crude Oil Inventories เดิมอยู่ที่ระดับ -2.4M ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้นที่ระดับ -0.5M
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้
-Unemployment Claims เดิมอยู่ที่ระดับ 359K คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 371K
-Factory Orders m/m เดิมอยู่ที่ระดับ 2.8% คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงอยู่ที่ระดับ -5.9%
-ECB Press Conference
-FOMC Meeting Minutes
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold — ราคาทองคำอยู่ในช่วงของการทรงตัวลักษณะ Sideway บริเวณ ในกรอบ 1,770 — 1,783 เหรียญ โดยตลาดให้ความสำคัญข่าวของสเปนและตัวเลขเศรษฐกิจอเมริกาซึ่งออกมามีผลต่อราคาทองคำไม่มากนัก เมื่อคืนตัวเลข ADP Non-Farm Employment Change ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 17,000 ตำแหน่งแต่น้อยกว่าตัวเลขเดิม 27,000 ตำแหน่ง ในขณะที่ ISM Non-Manufacturing PMI ออกมาดีขึ้นกว่าเดิมอยู่ที่ระดับ 55.1 ซึ่งทั้งหมดมีผลต่อราคาทองคำไม่มากนัก ตลาดยังรอตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้คือ Unemployment Claims ซึ่งคาดว่าคนว่างงานจะเพิ่มมากขึ้น 12,000 ตำแหน่ง น่าจะส่งผลบวกต่อราคาทองคำ ถ้าตัวเลขออกมาไม่ดีตามที่คาด ราคาทองคำมีแนวต้านที่ระดับ 1,780 — 1,785 เหรียญ ยังแนะนำให้รอความชัดเจนของตัวเลข ถ้าราคาทะลุขึ้นไปได้ อาจมีความเป็นไปได้ที่จะทดสอบระดับ 1,800 เหรียญ โดยภาพรวมราคาทองคำอาจมีการ Break out หลังตัวเลขออก ก็เป็นได้หากราคาทองคำสามารถทะลุระดับ 1,785 เหรียญ แนะนำให้ Follw buy มากกว่าที่จะSell เนื่องจากเป็นการทดสองแนวต้านครั้งที่ 4
Gold Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,950 บาท และแนวต้านที่ระดับ 26,150 บาท
Gold Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 26,050 บาท และแนวต้านที่ระดับ 26,250 บาท
Silver Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 1,040 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,080 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade)
เก็งกำไรในทิศทางขาขึ้นในกรอบ 1,773 — 1,785 เหรียญ
นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade)
ทยอยซื้อสะสม ยังไม่แนะนำให้ขายทำกำไร ถือครองพอร์ท 40%
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
เป็นการรอทยอยช้อนซื้อบริเวณ 1,765 เหรียญ ถือครองพอร์ท 40%
สรุป ราคาทองคำน่าจะเคลื่อนตัวในกรอบ 1,775 — 1,785 ในช่วงเช้า โดยน่าจะเป็นการรอความชัดเจนของข่าว
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง