กรุงเทพฯ--4 ต.ค.--PRdd
สภาวะตลาดวันที่ 4 ตุลาคม 2555 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,788.89 — 1,777.19 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV12 อยู่ที่ 26,040 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 30 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 26,010 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVV12 อยู่ที่ 1,069 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 1,067 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.33 น.ของวันที่ 04/10/12)ออกมา คือ ออกมา คือ
แนวโน้มวันที่ 5 ตุลาคม 2555
สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลของสำนักงานด้านการธนาคารยุโรป (EBA) เปิดเผยว่าธนาคารชั้นนำในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ได้เพิ่มทุนทั้งสิ้น 2 แสนล้านยูโร ภายใต้มาตรการที่บรรดาผู้นำอียูได้เห็นพ้องกันในการฟื้นความเชื่อมั่นในระบบการธนาคารของภูมิภาค ในรายงานระบุว่าธนาคารรายใหญ่ได้เพิ่มฐานเงินทุนขึ้นเพื่อเสริมความแข็งแกร่งแก่สถานะเงินทุนของธนาคาร ทั้งนี้ EBA เปิดเผยว่ามีการอัดฉีดเม็ดเงิน 1.8 หมื่นล้านยูโรเข้าสู่ธนาคารในกรีซ ขณะที่อัดฉีดเม็ดเงิน 2.4 หมื่นล้านยูโรแก่ธนาคารบังเกียของสเปน ซึ่งส่งผลเชิงบวกทำให้มีแรงซื้อเข้ามาในตลาดทองคำ อย่างไรก็ตาม ดัชนีภาคบริการของยูโรโซนและจีนชะลอตัวลง โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของยูโรโซนหดตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 46.1 ในเดือนกันยายน และ ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนกันยายน ของจีนลดลง มาอยู่ที่ระดับ 53.7 ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนและยูโรโซนกำลังชะลอตัวลง ยังคงเป็นปัจจัยที่ชะลอแรงซื้อในตลาดทองคำ ประกอบกับนักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างานนอกภาคการเกษตรและอัตราว่างงานเดือนกันยายนของสหรัฐที่จะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าหากราคาทองคำได้ดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,793 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ไม่สามารถผ่านไปได้ ทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มจะอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับบริเวณ 1,770 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง แต่หากสามารถผ่านไปได้ ราคาทองคำจะมีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 1,805 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า ในระยะสั้นหากราคาทองคำอาจขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,793 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณนี้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ซึ่งหากไม่ผ่านราคาอาจจะมีการอ่อนตัวลงอีกครั้ง ซึ่งหากราคาทองคำยืนเหนือบริเวณแนวรับ 1,770 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณดังกล่าว และรอไปขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นไปหรือตามบริเวณแนวต้านต่างๆ อย่างไรก็ตามวายแอลจีเน้นย้ำว่านักลงทุนระยะสั้นควรวางแผนการลงทุนที่ชัดเจน มีจุดเข้าซื้อ จุดขายทำกำไร หรือจุดตัดขาดทุน และปฎิบัติตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,770 (25,630บาท) 1,765 (25,560บาท) 1,755 (25,410บาท)
แนวต้าน 1,793 (25,960บาท) 1,805 (26,140บาท) 1,815 (26,280บาท)
GOLD FUTURES (GFV12)
แนวรับ 1,770 (25,810บาท) 1,765 (25,730บาท) 1,755 (25,590บาท)
แนวต้าน 1,793 (26,140บาท) 1,805 (26,320บาท) 1,815 (26,460บาท)
SILVER FUTURES (SVV12)
แนวรับ 34.50 (1,056บาท) 34.20 (1,047บาท) 34.00 (1,041บาท)
แนวต้าน 35.35 (1,082บาท) 35.55 (1,089บาท) 36.00 (1,102บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร. 02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร. 02-687-9888 หรือ www.ylgbullion.com