กรุงเทพฯ--9 ต.ค.--คิธ แอนด์ คินฯ
ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมสนับสนุน โครงการ “ประติมากรรมใต้ทะเลไทยเฉลิมพระเกียรติ” แห่งแรกในไทย ฟื้นฟูธรรมชาติใต้ท้องทะเลอย่างยั่งยืน
ปัจจุบันปัญหาสิ่งแวดล้อมได้ส่งผลกระทบต่อโลกของเราอย่างชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตแผ่นดินไหว อุทกภัย การเปลี่ยนแปลงเนื่องจากสาเหตุต่างๆ ทั้งจากความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติด้วยกันเอง และที่สำคัญคือจากฝีมือมนุษย์ ถึงเวลาแล้วที่เราต้องช่วยกันคนละไม้ละมือเพื่อรักษาโลกของเรา ด้วยเหตุนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ กระดาษจากคันนา เพื่อลดโลกร้อน ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและแนวคิดในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง จึงร่วมกับจังหวัดตราด สนับสนุนโครงการ “ประติมากรรมใต้ทะเลไทยเฉลิมพระเกียรติ” ขึ้น เนื่องจากปัญหาความเสื่อมโทรมใต้ทะเล โดยเฉพาะปะการัง ซึ่งเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ทะเล ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ปะการังฟอกขาว ทำให้ปลาน้อยใหญ่และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลลดจำนวนลงเรื่อยๆ โครงการนี้จึงเป็นอีกทางหนึ่งในการช่วยฟื้นฟูและอนุรักษ์ธรรมชาติใต้ทะเลให้กลับคืนมา และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่สวยงามอีกด้วย
โครงการ “ประติมากรรมใต้ทะเลไทยเฉลิมพระเกียรติ” เป็นการสร้างปะการังเทียมหรือบ้านปลา ในรูปแบบงานศิลป์ประติมากรรมรูปช้าง เพื่อเป็นแหล่งอาศัยและวางไข่ของสัตว์ใต้ทะเล ที่สำคัญเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จอมปราชญ์แห่งสายน้ำ ที่ได้ทรงรับสั่งว่า “ธรรมชาติ และทรัพยากรธรรมชาติ ถูกออกแบบมาให้เอื้อต่อกัน มนุษย์ทำเพียงแค่มาบริหารจัดการเท่านั้น”มาใช้เป็นแนวทางในการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ และสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ธรรมชาติร่วมกัน เพื่อลดปัญหาความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะความเสื่อมโทรมของแนวปะการังที่เกิดจากภาวะโลกร้อนและการใช้ทรัพยากรเกินขีดจำกัด ซึ่งปะการังชนิดต่าง ๆ เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความอุดมสมบูรณ์ของทะเล เป็นบ้านปลาที่มีความสวยงามและหล่อเลี้ยงชีวิตมากมายบนโลกใบนี้ ความเสื่อมโทรมของบ้านปลาจึงทำให้สูญเสียห่วงโซ่อาหาร และความอุดมสมบูรณ์
สำหรับงานประติมากรรมช้าง ที่สวยงามนี้ ได้รับเกียรติจากศิลปินแห่งชาติ อาจารย์อังคาร กัลยาณพงศ์ ก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต นับเป็นผลงานทิ้งท้ายที่ท่านเขียนช้างมงคลต้นแบบให้ อาจารย์แหลมสิงห์ ดิษฐพันธุ์ เป็นหัวหน้าคณะประติมากร โดยประติมากรรมช้าง สร้างด้วยวัสดุ คอนกรีตชนิดพิเศษ เสริมเหล็ก ชนิดที่ปะการังสามารถเติบโตได้ดี มีอายุการใช้งาน มากกว่า 50 ปี โดยจัดทำเป็นช้างมงคล 5 เชือก และประติมากรรมลอยตัวครอบครัวช้างอีก 4 เชือก โดยจะมีการนำช้างทั้ง 9 เชือก วางไว้ใต้ทะเลระหว่างเกาะหมากกับเกาะระยั้ง ในหมู่เกาะช้าง โดยการจัดสร้างรูปปั้นช้างได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว และทางจังหวัดได้จัดแสดงประติมากรรมใต้ทะเล เฉลิมพระเกียรติ พร้อมกับจัดแสดงนิทรรศการให้ความรู้และแนวทางการดูแลรักษาธรรมชาติใต้ทะเล ที่ศาลากลางจังหวัดตราดหลังเก่า ก่อนนำไปติดตั้งจริงใต้ทะเล ในช่วงเดือนตุลาคมเป็นต้นไป ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ ก็ได้จัดกิจกรรมสันทนาการให้กับเยาวชนจากโรงเรียนในพื้นที่ของจ.ตราด เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมให้เยาวชนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ท้องทะเล และช่วยกันดูแลรักษาต่อไป ซึ่งนอกจากเด็กนักเรียนจะได้รับความรู้ความสนุกสนานกลับไปเต็มๆ แล้วยังได้รับการสนับสนุนสมุดและอุปกรณ์การเรียนอีกด้วย
นางสาวเบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวถึงโครงการ “ประติมากรรมใต้ทะเลไทยเฉลิมพระเกียรติ” จ.ตราด ว่า จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลแห่งใหม่และแห่งแรกที่เกิดขึ้นในเมืองไทย ที่นักท่องเที่ยวสามารถดำแบบผิวน้ำหรือสน็อกเกอร์ชมประติมากรรมช้างมงคลได้ ซึ่งเป็นบ้านปลาที่ผสมผสานศิลปะสวยงามและใช้วัสดุที่ไม่ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติ เพื่อเป็นแหล่งที่พักพิงให้กับปลาทะเลและสร้างปะการังให้เกิดขึ้นใหม่ เป็นการฟื้นฟู อนุรักษ์ระบบนิเวศทางทะเลอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่นอีกด้วย ซึ่งประติมากรรมจะนำไปติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสมใต้ทะเลบริเวณอ่าวไอยรา เกาะหมาก ความลึกประมาณ 8 เมตร โดยไม่กีดขวางทางเดินเรือหรือทิศทางกระแสน้ำ
ด.ญ.จันทร์จิรา โสอินทร์ หรือน้องเฟิน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอนุบาลตราด ที่ได้เข้าร่วมงานแสดงนิทรรศการและประติมากรรมช้าง กล่าวว่า “หนูเป็นคนจังหวัดตราดโดยกำเนิด และสนใจเรื่องของการทำประติมากรรมใต้น้ำ โดยรู้เรื่องราวต่าง ๆ ของรูปปั้นช้างว่าสร้างขึ้นมาจากเหล็กผสมคอนกรีตเพื่อเป็นปะการังใต้น้ำให้ปลาใต้ท้องทะเลได้อาศัย เพราะเดี๋ยวนี้น้ำทะเลตามเกาะไม่ค่อยใสแล้วคะ ไม่ค่อยเห็นปลา หนูก็จะช่วยดูแลรักษาทะเลของเราและจะบอกทุกคนว่าให้ช่วยกันเก็บขยะ ไม่ทิ้งขยะเพิ่ม เพื่ออนุรักษ์ให้ลูกหลานต่อไป และเชิญชวนให้ทุกคนมาเที่ยวจ.ตราด ซึ่งมีทะเลสวย หาดทรายขาวคะ”
สุดท้าย ด.ช. จิณณวัตร ทั่งทอง หรือน้องบอล ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 บอกว่า “ชอบประติมากรรมช้างมากครับ โดยเฉพาะช้างอ้อมจักรวาล เพราะดูตัวใหญ่กว่าช้างตัวอื่น และผมก็ชอบทะเลด้วยครับ เวลาไปเที่ยวทะเลกับครอบครัว ผมก็จะช่วยเก็บขยะและไม่ทิ้งขยะลงทะเล เพราะผมอยากให้ทะเลสวยๆ มีปลาเยอะๆ ครับ”
ทั้งหมดนี้ นับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างโครงการสร้างสรรค์ดีๆ ที่ทุกภาคส่วนได้ร่วมแรงร่วมใจ ในการปกปักษ์รักษาทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่นให้ยั่งยืนต่อไป